CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ตัวจริงเรื่อง Soft Power! ส่องเส้นทางกว่า 20 ปี ของ เกาหลี สู่ Soft Power ระดับโลก
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Opinion > ตัวจริงเรื่อง Soft Power! ส่องเส้นทางกว่า 20 ปี ของ เกาหลี สู่ Soft Power ระดับโลก
Opinion

ตัวจริงเรื่อง Soft Power! ส่องเส้นทางกว่า 20 ปี ของ เกาหลี สู่ Soft Power ระดับโลก

korlajeshop@gmail.com
Last updated: 2024/03/12 at 4:15 PM
[email protected] Published September 13, 2023
Share

ไม่นานมานี้หลังจากได้รัฐบาลใหม่ที่มีแกนนำอย่างพรรคเพื่อไทยเข้ามา หลายคนก็ต่างจับตามองดูการดำเนินนโยบายต่าง ๆ เรื่อยมา โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนโดยตรง ซึ่งนโยบายที่ได้รับการพูดถึงและเป็นกระแสที่น่าสนใจคือ 1 ครอบครัว 1 ซอฟท์พาวเวอร์ หรือ One Family One Soft Power และ Thailand Creative Content Agency (TCCA) ที่มุ่งเน้นผลักดันศักยภาพของคนไทยทุกเครือเรือน ให้ปลดล็อกทักษะสร้างสรรค์ทุกด้าน เพื่อสร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน สร้างงาน 20 ล้านตำแหน่ง สนับสนุนทุกอุสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ โดยมีหน่วยงานอย่าง TCCA คอยผลักดันและดูแลด้านนี้โดยเฉพาะ ‘เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ก็ได้ออกมาชูนโยบายนี้จนเกิดเป็นดราม่าว่าจริง ๆ แล้วรัฐมนตรีเข้าใจ ซอฟต์พาวเวอร์ดีแค่ไหน มันคือยังไง 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ มันใช่เหรอ แบบนี้จะรอดไหม? งั้นลองมาสำรวจกันดูดีกว่าว่าประเทศที่เขาดันซอฟต์พาวเวอร์จริงจังจนปังระดับโลกอย่างเกาหลีใต้ เขาทำได้อย่างไร แบบไทยนี่พอไหวหรือเปล่า

ถ้าลองมาดูคำว่า ซอฟต์พาวเวอร์ หรือ อำนาจอ่อน จริง ๆ มันคืออิทธิพลที่ดึงดูด ชักจูงให้คนอื่น ๆ คล้อยตาม มีพฤติกรรมทำตาม โดยไม่มีการบังคับขู่เข็นหรือใช้ความรุนแรง ในระดับชาติแล้วมันก็คือเรื่องของวัฒนธรรมและความนิยมที่ทำให้คนจากประเทศอื่นอยากไปเที่ยว รับชมสื่อ ใช้สินค้า หรือกินอาหาร ของประเทศนั้น ๆ นั่นหมายความว่าของอย่างนี้น่ะมันอาศัยความนิยมจากคนหมู่มากจนกว่าจะเป็นอิทธิพลที่ส่งผลกับคนอื่นได้ แต่กว่าจะได้รับความนิยมระดับนั้นย่อมต้องใช้เวลาเป็นธรรมดา เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ที่ปั้นซอฟต์พาวเวอร์มาตลอดกว่า 20 ปี

แรกเริ่มเดิมทีเกาหลีใต้ก็เป็นประเทศในเอเชียที่เน้นอุสาหกรรมหนัก ผลิตส่งออกรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลัก จนมาเจอวิกฤตเศรษฐกิจที่สะเทือนกันทั้งเอเชียในปี 1997 จังหวะเดียวกับที่ไทยเจอวิกฤติ ‘ต้มยำกุ้ง’ เกาหลีเขาเจอวิกฤติการเงินที่เรียกว่า ‘วิกฤติการเงิน IMF’ อยู่ซึ่งก็เกี่ยวข้องการตรึงค่าเงินวอนในขณะที่มีการกู้อย่างหนักหน่วงจากต่างประเทศ พอตรึงไว้ไม่ไหวปล่อยลอยตัว จนใช้หนี้ที่ยืมจากต่างประเทศไม่พอ ก็เกิดเป็นวิกฤติขึ้นมา คล้ายกับที่ไทยเจอช่วงต้มยำกุ้ง

หลังจากช่วงวิกฤติรัฐบาลเกาหลีก็พยายามหาทางทำให้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นฟู และได้เล็งเห็นว่าอุสาหกรรมหนักอย่างรถยนต์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นไม่ตอบโจทย์ และเติบโตยาก ต้องทำยอดส่งออกรถฮุนได (Hyundai) มากถึง 1.5 ล้านคัน หรือสองเท่าของยอดส่งออกในแต่ละปี ถึงจะมีรายได้เท่าหนังจูราสสิคพาร์ค (Jurassic Park) 1 เรื่อง จึงได้หันมาผลักดันอุสาหกรรมที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมมากขึ้น โดยในปี 1998 ได้เริ่มวางแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี 10 ปี เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุตสาหกรรมวัฒนธรรมอย่างภาพยนตร์และดนตรี ให้ภาครัฐและเอกชนมีสถาบันและการสอนด้านวัฒนธรรมและความบันเทิงมากขึ้น อย่างคณะภาพยนตร์ การศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ การผลิตสื่อต่าง ๆ รวมถึงมีการจำกัดโควตาภาพยนตร์ต่างประเทศที่จะเข้าฉาย และวิจัยเนื้อหาที่จะถ่ายทอดวัฒนธรรมเกาหลีให้ผู้ชมต่างประเทศด้วย ต่อมาในปี 1999 เกาหลีผ่านพระราชบัญญัติติส่งเสริมอุตสาหกรรมทางวัฒนธรรม ทำให้เกิดองค์กรมากมายที่เปลี่ยนวัฒนธรรมให้กลายเป็นสินค้ารูปธรรมมูลค่ามหาศาล ซึ่งในช่วงนั้นตั้งแต่ปี 1998 จนถึง 2001 มีการเพิ่มงบประมาณสำหรับอุสาหกรรมวัฒนธรรมจาก 14 ล้านเหรียญสหรัฐเป็น 84 ล้านเหรียญสหรัฐเลย จะบอกว่าทุ่มทุนสร้างก็ไม่ผิดอะไร

นอกจากประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจแล้ว เกาหลีใต้หวังใช้ซอฟต์พาวเวอร์ทำให้ประเทศมีบทบาทสำคัญในระดับโลก เนื่องจากแข่งด้วยอำนาจแข็งไม่ใช่สิ่งที่เกาหลีใต้จะทัดเทียมกับชาติใหญ่ ๆ อย่างอเมริกา รัสเซีย จีน หรือญี่ปุ่นได้เลย ซอฟต์พาวเวอร์จึงเป็นช่องทางหนึ่งในการหาพื้นที่ระดับโลกให้เกาหลี จนในเวลาต่อมาก็ได้เปลี่ยนโฟกัสจากด้านเศรษฐกิจกลายเป็นหนึ่งนโยบายสำคัญในด้านการต่างประเทศแทน ภายใต้ยุทธศาสตร์ เกาหลีระดับโลก หรือ Global Korea และในปี 2009 ก็มีการก่อตั้งสถาบัน ‘Korea Creative Content Agency (KOCCA)’ ขึ้นในปี 2009 เพื่อบริหารจัดการคอนเทนต์เกาหลีต่าง ๆ ที่ส่งออกไปยังต่างประเทศทั่วโลก ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ เกม ศิลปะ ดนตรี ฯลฯ โดยมุ่งเน้นการทำการตลาดและสร้างแบรนดิงที่ชัดเจนให้กับเกาหลี

การแพร่อิทธิพลของซอฟต์พาวเวอร์เกาหลี เรียกอีกอย่างว่า “ฮันรยู (Hallyu)” แปลว่า “คลื่น (วัฒนธรรม) เกาหลี” ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 ระลอกใหญ่ ๆ ด้วยกัน

ในระลอกแรกคือช่วงหลังวิกฤติ ปลายทศวรรษ 90s ถึงต้นทศวรรษ 2000s เน้นสื่อภาพเคลื่อนไหวเป็นหลักอย่างซีรีส์เกาหลีและภาพยนตร์เกาหลี หรือ K-Drama ซึ่งเป็นช่วงที่ละครและรายการทีวีต่าง ๆ ได้รับความนิยมมาก เริ่มได้รับความนิยมในแถบจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ก่อนที่จะกระจายตัวทั่วเอเชีย โดยมีซีรีส์ดังอย่าง ‘เพลงรักในสายลมหนาว’ หรือ ‘แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง’ ถึงแม้จะบูมมาก แต่กระแสก็ยังค่อนข้างจำกัดแค่ในโซนเอเชีย

ในระลอกที่สองช่วงกลางทศวรรษ 2000s ถึงช่วงต้น 2010s เป็นเหมือนการเติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะเป็นยุคที่เว็บ 2.0 เริ่มมีบทบาทบนโลกอินเตอร์เน็ต ทำให้ผู้ชมเข้าถึงและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ง่ายและมากขึ้นวง K-Pop คือซอฟต์พาวเวอร์ที่โดดเด่นในยุคนี้ และกระแสไม่ได้ถูกจำกัดแค่ในเอเชียอีกต่อไป แต่แพร่ขยายไปสู่ประเทศในฝั่งยุโรป แอฟริกาและอเมริกาด้วย โดยสมัยนั้นมี ‘SM’ เป็นค่ายดั้งเดิมผู้ให้กำเนิด K-Pop ก่อนที่หลาย ๆ ค่ายจะตามมา และปัจจุบันต้องยกให้ ‘HYBE’ ที่ขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 แล้ว

ในระลอกที่สามคือตั้งแต่ต้น 2010s จนถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นยุคที่ซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างแท้จริง วัฒนธรรมเกาหลีเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกโดยไม่ได้จำกัดแค่คอนเทนต์บันเทิงอย่างซีรีส์หรือดนตรี แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรมเกาหลีต่าง ๆ ที่สอดแทรกมาตลอด ทั้งอาหารการกิน และการใช้ชีวิต มีวง K-Pop ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามอย่าง ‘BTS’ และ ‘BlackPink’ รวมทั้งมีซีรีส์และภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลระดับโลกอย่าง ‘Squid Game’ และ ‘Parasite’ นอกจากนี้ยังครอบคลุมผ่านทุกช่องทางสื่ออีกด้วย

ความสำเร็จของซอฟต์พาวเวอร์เกาหลีนับว่าเป็นที่ประจักษ์ แต่ถ้านั่นยังไม่พอมันก็สื่อออกมาเป็นตัวเลขได้เหมือนกัน ในปี 2021 เคยมีการประเมินไว้ว่าอุสาหกรรม K-Pop มีมูลค่าตลาดทั่วโลกสูงถึง 8.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าเติบโตได้ถึง 20,000 ล้านเหรียญในปี 2031 โดยเติบโตที่ปีละ7.3%

การแพร่ขยายซอฟต์พาวเวอร์ของเกาหลีใต้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ด้วยนโยบายด้านนี้เพียงอย่างเดียว แต่พัฒนาควบคู่ไปกับปัจจัยสำคัญอื่น ๆ ด้วย รวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีส่วนสำคัญในการทำให้สื่อและคอนเทนต์ของเกาหลีทันสมัยและเข้าถึงผู้ชมได้ดีอยู่เสมอ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมที่เกาหลีขึ้นมาเป็นประเทศอำนาจระดับกลางก็ทำให้ดึงความสนใจจากทั่วโลกได้ไม่ยาก และแน่นอนว่าการผลักดันสื่อต่าง ๆ ภายในประเทศให้มีความสร้างสรรค์ สดใหม่ และทันโลกก็เป็นสิ่งสำคัญที่คอนเทนต์จากเกาหลีใต้ได้รับความนิยมจากผู้ชมทั่วทุกมุมโลก เน้นการขายวัฒนธรรมร่วมสมัยก่อนแล้วค่อยสอดแทรกวัฒนธรรมดั้งเดิมตาม คือวิธีที่เกาหลีใต้ใช้ และได้ผลดี

ถ้ารัฐบาลไทยจะหันมาใส่ใจเรื่องซอฟต์พาวเวอร์อย่างจริงจัง ก็ควรศึกษาการเติบโตของซอฟต์พาวเวอร์จากเกาหลีดู แม้จะเห็นอยู่แล้วว่าจากชื่อกระทรวง TCCA ก็คงตั้งใจจะดำเนินรอยตามเกาหลีอย่าง KOCCA อย่างเต็มที่เลยแหละ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะมาแต่ชื่อเกินไปหน่อย ในเชิงโครงสร้างของนโยบายแม้จะมีหลายข้อที่น่าสนใจแต่ยังไม่เห็นแนวทางที่จะทำออกมาได้จริงอย่างชัดเจน บางเรื่องอย่าง 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ ก็เหมือนจะพางงกันทั้งประเทศว่าสรุปแล้วจะผลักดันกันอย่างไร เพราะมันไม่ใช่ว่าทำกันอยู่บ้านเดียว นิยมกันแค่บ้านเดียวแล้วมันจะดันขึ้นมาเป็นซอฟต์พาวเวอร์ได้ ไม่เหมือน OTOP ที่เคยทำ เส้นทางของซอฟต์พาวเวอร์มันยาวไกลกว่านั้นมาก

นอกจากนี้เรื่องที่เหมือนเป็นการบ้านที่ทำไม่เคยเสร็จตกทอดกันต่อมาทุกรัฐบาล คงเป็นการชูซอฟต์พาวเวอร์ที่มีอยู่ในสำเร็จ อย่างอนิเมชั่นไทยที่เข็นแล้วเข็นอีกก็ไม่เคยไปถึงไหน จะขายความเป็นไทยก็ไม่รอด หรือภาพยนตร์ไทยที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ จะดังก็ดับโดนห้ามฉายกันประจำทุกปี โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้วัฒนธรรมดั้งเดิมของไทยเพื่อต่อยอดให้ร่วมสมัยมากขึ้น ซึ่งมักจะถูกสั่งเบรกไว้ตลอด ก็อาจเป็นเรื่องที่รัฐจะต้องทบทวนว่าทำอย่างไร ให้ซอฟต์พาวเวอร์เหล่านี้ได้ไปต่อ เพื่อส่งเสริมและยกระดับประเทศไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจและความเป็นชาติ ให้มีบทบาทในระดับโลกมากขึ้น

You Might Also Like

วัดกำลังอสังหาฯ ยามพบศึกหนัก แผ่นดินไหว vs สงครามการค้า บ้านแนวราบโต แต่ตลาดคอนโดตึกสูงสั่นคลอน

ไม่ใช่แค่แรงงานไทยมักง่าย แต่นายจ้างเกาหลีก็อยากได้ผีน้อย

ไม่เอาแอปจีน! รัฐเท็กซัสประกาศแบนทั้ง DeepSeek, RedNote, Lemon8 

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2568 คาดยอดจัดส่งรถยนต์ EV โต 17%

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
[email protected] September 13, 2023
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article สภาเมืองล้มละลายได้ด้วยเหรอ? ส่องวิกฤต Birmingham ล้มละลาย เจ๊งได้ไง เพราะอะไรถึงล้ม?
Next Article มนุษย์ต่างดาว มีจริงไหมยังไม่รู้แต่ที่รู้ NASA มีตำแหน่ง “เจ้าหน้าที่พิทักษ์โลก” เตรียมไว้แล้ว!
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?