CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ใครเป็นผู้ชนะตัวจริง? Value Asset หรือ Growth Asset
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > กูรูลงทุน > เปโดร พุกกะมาน > ใครเป็นผู้ชนะตัวจริง? Value Asset หรือ Growth Asset
เปโดร พุกกะมาน

ใครเป็นผู้ชนะตัวจริง? Value Asset หรือ Growth Asset

connectthedots admin
Last updated: 2022/12/10 at 3:28 PM
connectthedots admin Published March 2, 2022
Share

ช่วงปี 2020 ถือเป็นปีทองของนักลงทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีการเติบโตสูงหรือ Growth Asset ไม่ว่าจะเป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในกลุ่มของ Ark Invest ที่ได้รับประโยชน์จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด รวมถึงสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิทคอยน์ขณะที่สินทรัพย์รูปแบบเน้นคุณค่าอย่างเช่นหุ้นที่ยังอยู่ในธุรกิจดั้งเดิมตามแนวทางของ Warren Buffet สร้างผลตอบแทนได้ต่ำ

แต่พอเข้าถึงช่วงกลางปี 2021 เป็นต้นมา Growth Asset เริ่มถูกเทขายจากการที่ความคาดหวังในการเติบโตโดยได้แรงหนุนจาก New Normal เริ่มน้อยลง โดยเฉพาะกองทุนของ Ark Invest ที่ถึงล่าสุดผลตอบแทนติดลบไปแล้วประมาณ 60% จากจุดสูงสุดของปีที่แล้ว

ขณะที่ Value Asset เริ่มที่จะสร้างผลตอบแทนกลับขึ้นมาจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด จนทำให้เกิดตัวเลขการเปรียบเทียบสไตล์การลงทุนแบบเน้นการเติบโตของ Ark Invest ที่เน้นการลงทุนในธีมของ Disruptive ธุรกิจดั้งเดิมกับสไตล์การลงทุนของ Warren Buffet ที่ให้ความสำคัญกับมูลค่าพื้นฐานของกิจการ

ล่าสุดผลตอบแทนการลงทุนสไตล์ของ Warren Buffet สามารถกลับมาแซงเอาชนะการลงทุนสไตล์ Ark Invest ไปแล้ว โดยเป็นฝ่ายของ Ark Invest ที่ผลตอบแทนพลิกจากที่พุ่งแรงกลับลงมาตกอย่างรุนแรง ขณะที่กราฟผลตอบแทนสไตล์ Warren Buffet แม้จะลดลงแต่ก็ไม่หวือหวามากนัก ขณะที่ตอนพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นก็ค่อยๆปรับตัวขึ้น จนทำให้เกิดการตั้งคำถามว่าสไตล์การลงทุนแบบไหนกันแน่ที่เป็นผู้ชนะตัวจริง  

มุมมองส่วนตัวคิดว่าเราไม่ควรนำสไตล์การลงทุนสองแบบนี้มาเปรียบเทียบกับแบบกระต่ายกับเต่า แต่ควรจะมองว่าสไตล์การลงทุนแบบไหนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดต่างหาก ไม่มีความจำเป็นต้องหาสไตล์ลงทุนที่ดีที่สุดแต่ต้องหาสไตล์ที่เหมาะกับจริตของแต่ละคนมากกว่า

สำหรับผู้ที่คิดว่าตัวเองเหมาะสมกับ Growth Asset ต้องเข้าใจธรรมชาติของสินทรัพย์ประเภทนี้ก่อนว่ายังอยู่ในช่วงของการเติบโตและอายุของธุรกิจหรือสินทรัพย์ในกลุ่มนี้ยังค่อนข้างน้อย บางธุรกิจอาจจะยังไม่มีกำไรด้วยซ้ำ จึงต้องทำใจรับกับความผันผวนของราคาให้ได้เพราะช่วงเวลาที่กิจการเติบโตหรือมีความต้องการเข้ามา ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงในระดับหลายเด้งได้เลยทีเดียว

แต่ถ้าผลประกอบการออกมาเติบโตลดลงความผิดหวังของนักลงทุนก็จะรุนแรงตามไปด้วยและทำให้เกิดแรงเทขายที่รุนแรงอย่างที่เกิดขึ้นกับหุ้น META และ NETFLIX ที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงกว่า 20% จากยอดผู้ใช้งานที่ลดลง

ขณะที่ Value Asset แม้จะมองว่าเป็นกิจการที่แทบจะไม่มีการเติบโตอีกแล้ว เป็นธุรกิจที่รายได้เติบโตในระดับเลขหลักเดียว ไม่มีเทคโนโลยีที่หวือหวา แต่ต้องไม่ลืมว่ากิจการเหล่านี้มีความแข็งแกร่งจากการที่มีอายุธุรกิจยาวนานบางแห่งแตะระดับร้อยปีมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งอย่างเช่น Coca Cola หรือ McDonald ธุรกิจเหล่านี้จะสามารถผ่านวิกฤติต่างๆได้ไม่ยาก

ราคาหุ้นของกิจการเหล่านี้จะโตแบบไม่หวือหวาแต่ยังโตไปได้เรื่อยๆ เหมาะสมกับผู้ที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงมาก ไม่ต้องการเจอกับความผันผวน และมองการลงทุนในระยะยาวซึ่งต่างจาก Growth Asset ที่อาจจะต้องลงทุนเป็นรอบๆโดยใช้กราฟเทคนิคเข้ามาช่วยจับจังหวะซื้อขาย หากแนวโน้มเป็นขาลงก็อาจจะต้องขายทำกำไรเป็นรอบไปก่อนโดยจะต้องอ่านทิศทางของธุรกิจให้ทัน นักลงทุนก็ต้องหมั่นติดตามข่าวสารการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าตัวชี้วัดของการลงทุนก็คือตัวเลขผลตอบแทน แต่อีกสิ่งที่แม้จะวัดมูลค่าไม่ได้แต่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญคือสภาพจิตใจที่เกิดขึ้นจากการลงทุน ถ้าหากมีแต่ความเครียดกังวล แม้จะสร้างผลตอบแทนได้สูงก็อาจะไม่ตอบโจทย์ชีวิตของเราก็เป็นได้ ดังนั้นนักลงทุนควรจะศึกษาธรรมชาติของสินทรัพย์แต่ละรูปแบบแล้วหันมามองตัวเองว่าเหมาะสมกับแนวทางลงทุนแบบไหนแล้วเลือกลงทุนในทิศทางนั้น

สุดท้ายแล้วในระยะยาวไม่ว่าจะลงทุนใน Value Asset หรือ Growth Asset ก็สามารถเป็นผู้ชนะได้แน่นอนครับอ

You Might Also Like

ทำไมหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ถึงควรมีติดอยู่ในพอร์ต

“ทองคำ” ดีดแรง มีโอกาสแตะ 2,200 ดอลลาร์ ดักทางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ราคาน้ำมัน

หุ้นโลกเท! เสี่ยงดอกเบี้ยขาขึ้น

อัพเดทงบการเงิน หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่สหรัฐฯ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin March 2, 2022
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article มีเงินเย็นเอาไปทำอะไรดี?
Next Article ‘Decentralize Finance (DeFi)’ ระบบการเงินไร้ตัวกลาง
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?