20 สิงหาคมที่ผ่านมา เกมที่เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกเฝ้ารอ Black Myth: Wukong ก็ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นการแล้ว ด้วยราคาบน Steam และหลังจากเกมเปิดให้ดาวน์โหลดแล้ว ก็มีผู้เล่นมากกว่า 2.2 ล้านคนเล่นพร้อมกัน พร้อมทั้งได้รีวิวด้านบวกกว่า 96% จากกว่า 2 แสนรีวิว ตอกกลับเด็กเปรตสาย Woke แห่งวงการเกมอย่าง Sweet Baby แบบหน้าหงาย
Sweet Baby Inc. คือบริษัทให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาเนื้อเรื่องสำหรับเกม ที่ให้ความสำคัญกับความหลากหลายในสังคม เพื่อให้เนื้อเรื่องเกมมีความหมายและสร้างการมีส่วนร่วมให้กับทุกคน เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2018 ก่อตั้งโดย คิม เบเลียร์ (Kim Beliar) ผู้เคยรับผิดชอบดูแลการเขียนเนื้อเรื่องให้กับ Ubisoft และ EA บริษัทเคยมีบทบาทในโปรเจ็กต์ใหญ่มาแล้วทั้ง Alan Wake II, Spider-Man 2, Suicide Squad: Kill the Justice League, God of War Ragnarok ฯลฯ ดูเผิน ๆ ก็เป็นบริษัทที่ดี มีเครดิต แต่เบื้องหลังคือการหากินกับความ woke สุดยัดเยียดที่วงการเกมร้องหยี
สิ่งที่ Sweet Baby ทำ คือการเพิ่มตัวละครผิวสี หรือตัวละครที่มีความหลากหลายทางเพศเข้าไป ชูให้ตัวละครหญิงมีความสำคัญมากขึ้น แก้เนื้อเรื่องให้ตัวละครเหล่านี้มีบทบาทเด่น ปรับแก้ไขรูปลักษณ์ตัวละครต่าง ๆ ซึ่งแม้จะดูไม่เป็นปัญหา แต่ปัญหามันก็อยู่ที่หลายครั้งการปรับแก้เหล่านี้มันไม่สมเหตุสมผล หรือไม่สอดคล้องกับเรื่องราวที่ควรจะเป็น แม้กระทั่งจงใจทำให้ตัวละครหญิงน่าเกลียดขึ้น จนทำให้ผู้เล่นจำนวนมากไม่พอใจกับเนื้อเรื่องและตัวเกมแบบนี้
โดยหนึ่งในผลงานสุดวายป่วงที่สุดที่ Sweet Baby ได้กระทำต่อวงการเกม คือบทบาทที่เละเทะของ Batman ในเกม Suicide Squad: Kill the Justice League ที่อ้างว่าเป็นเนื้อเรื่องในจักรวาลเดียวกับเกมขึ้นหิ้งอย่าง Batman Arkham ที่เกมเมอร์ชื่นชอบ
เมื่อเกมถูกวิจารณ์ยับ ทีมงานของบริษัทก็ได้ออกมาตอบโต้ว่านักวิจารณ์และชาวเน็ตพยายามสร้างความเกลียดชัง จนเป็นเหตุให้เกิดการขุดคุ้ยเกี่ยวกับบริษัทมากขึ้น และเกมเมอร์ก็ได้จัดตั้งกลุ่มบน Steam ชื่อว่า Sweet Baby Inc Detected ขึ้นมาเพื่อรวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลเกมที่ Sweet Baby เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง รณรงค์ให้ผู้เล่นบอยคอตเกมเหล่านั้น
หลังจากนั้นทีมงานของบริษัทและผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจำนวนหนึ่งออกมาโต้กลับกลุ่ม Sweet Baby Inc Detected ว่าเป็นพวก “ขี้เหยียด” และเรียกร้องให้ทาง Steam แบนกลุ่มดังกล่าวไป
ยิ่งขุดลึกยิ่งเน่าเฟะ มีวิดีโอของคิม CEO ของบริษัท พูดอย่างเปิดเผยเองเลยว่าเธอใช้วิธีการข่มขู่ทีมการตลาดของบริษัทเกมเพื่อให้ยอมใส่เนื้อหาที่มีความหลากหลายเข้าไป ไม่อย่างนั้นจะทำให้เกมของพวกเขาถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนัก
อย่างเกม Hogwarts Legacy ที่ไม่ยอมร่วมงานกับ Sweet Baby ก็ถูกทัวร์ลงหนักตั้งแต่ก่อนวางจำหน่าย แต่สุดท้ายเมื่อตัวเกมเปิดให้ดาวน์โหลดจริง กลับกลายเป็นหนึ่งในเกมที่ได้รับความนิยมที่สุดของปี และมีกระแสบวกล้นหลาม
เช่นเดียวกันกับกรณีของ Black Myth: Wukong ที่มีข่าวว่าทาง Sweet Baby ได้ติดต่อมาเพื่อเสนอการแก้ไขเนื้อเรื่องให้มีความหลากหลายมากขึ้น แลกกับค่าตอบแทน 7 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 240 ล้านบาท แต่ทาง Game Science ก็ได้ปฏิเสธไป
ต่อมาจึงถูกสื่อเกมดังอย่าง IGN และสื่ออื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งรุมถล่ม ว่าตัวเกมไม่เคารพความหลากหลายและ CEO มีทัศนคติเหยียดเพศ ทั้งที่มาจากการตีความข้อความของเขาอย่างไม่ถูกต้อง เกมเมอร์จึงเริ่มจับสังเกตได้ว่า Sweet Babay อาจร่วมมือกับสื่อเกมดังบางรายเพื่อรีดไถจากบริษัทเกม
ถึงอย่างนั้นเมื่อตัวเกมวางจำหน่ายจริง ก็ไม่ได้รับผลจากคำวิจารณ์สาย woke เลยแม้แต่น้อย และยังอาจพูดได้ว่าประสบความสำเร็จเลยด้วยซ้ำ ทำให้เห็นว่าปืนใหญ่ที่ Sweet Baby เอามาจ่อหัวบริษัทเกม จริง ๆ แล้วมันปืนฉีดน้ำดี ๆ นี่แหละ
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของ Sweet Baby ในวงการเกมยังไม่หยุดลงง่ายๆ และยังมีอีกหลายเกมที่จะยังได้รับผลกระทบต่อจากนี้ ทั้งที่ร่วมและไม่ร่วมงานกับ Sweet Baby แต่คงได้ผลลัพธ์ที่ต่างกันไป จากการตอบรับของเหล่าเกมเมอร์ทั่วโลก