ใครชื่นชอบการชมภาพยนตร์ด้วยการสัมผัสประสบการณ์ทั้งภาพเต็มตาและเสียงกระหึ่มในโรง คงพอจะสังเกตได้ว่าหลัง ๆ มานี้ราคาตั๋วหนังมันสูงขึ้นมากเลย ถึงอย่างนั้นก็จะมีวันหนึ่งที่เราสามารถชมภาพยนตร์ได้ในราคาหั่นครึ่ง นั่นก็คือ วันพุธ แต่สงสัยกันไหมว่าทำไมวันพุธแล้วตั๋วถึงถูก ทำไมทั้ง SF และ Major โรงภาพยนตร์สองเจ้าใหญ่ก็พร้อมใจลดราคาทุกวันพุธเหมือนกัน
เหตุผลเกี่ยวข้องโดยตรงกับเรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นหลัก เพราะคนส่วนใหญ่มักจะออกมาใช้จ่ายกันมากในช่วงสุดสัปดาห์ โดยเฉพาะสำหรับความบันเทิง ทำให้ช่วงสุดสัปดาห์เป็นจังหวะนับยอดว่าหนังเรื่องไหนจะรุ่งหรือจะร่วงกันเลย
แต่กลับกันนั่นก็ทำให้ช่วงกลางสัปดาห์อย่างวันพุธเป็นช่วงที่คนมีแนวโน้มการชมภาพยนตร์น้อยมาก ผู้ใหญ่ก็ต้องทำงาน ส่วนเด็กหรือวัยรุ่นก็ต้องไปเรียน จึงไม่ค่อยมีใครว่างมาชมภาพยนตร์ โดยเฉพาะในรอบกลางวัน
นอกจากนี้ ปกติแล้วภาพยนตร์ใหม่จะเข้าฉายในไทยทุกวันพฤหัสบดี วันพุธจึงเป็นเหมือนวันส่งท้ายภาพยนตร์ที่เข้าฉายมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้า ก่อนที่เรื่องใหม่จะเข้าฉายและได้ความสนใจจากคนดูไปแทน
วันพุธจึงเป็นวันที่เหมาะมากสำหรับการจัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายตั๋ว จากปกติราคาประมาณท่ี่นั่งละ 200 บาท ก็เหลือแค่ 80 บาทเท่านั้น จูงใจลูกค้าให้มาชมภาพยนตร์มากขึ้นด้วยราคาที่ถูกลง อย่างบางเรื่องไม่ได้อยากดูขนาดนั้น รอลงสตรีมมิงก็ได้ แต่พอตั๋วราคาถูก ก็ไปดูหน่อยแล้วกัน
การจัดโปรลดราคากลางสัปดาห์แบบนี้ไม่ได้มีแค่ในไทยเท่านั้น แต่ในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา โรงภาพยนตร์หลายแห่งก็มีการลดราคาในวันอังคาร บางที่ก็วันพุธ แต่ก็ไม่ใช่ทุกที่เหมือนในไทย และอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น ต้องเป็นสมาชิก หรือเป็นนักเรียน นักศึกษา
การตลาดแบบนี้เรียกว่า Price Discrimination หรือ การแบ่งแยกราคา ซึ่งประกอบไปด้วย 3 ระดับ
ระดับที่หนึ่ง การแบ่งแยกราคาตามความพอใจของลูกค้าแต่ละคน เช่น การเจรจาซื้อที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ ที่อาจไม่มีเรตราคาตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าและผู้ขายตกลงราคาที่พอใจได้เท่าไร
ระดับที่สอง การแบ่งแยกราคาตามปริมาณการซื้อขาย ข้อนี้ง่าย ๆ เหมือนการซื้อของราคาส่ง ถ้าซื้อเยอะก็อาจได้ราคาถูกลง หรืออย่างโปรโมชั่น มา 3 จ่าย 2 ที่ยิ่งจำนวนมากขึ้น ราคาต่อหน่วยก็จะถูกลงด้วย
ระดับที่สาม แบ่งแยกตามกลุ่มลูกค้าใน สถานที่ เวลา อายุ เพศ หรือคุณลักษณะบางอย่างที่แตกต่างกัน ซึ่งนี่แหละคือแบบที่โรงภาพยนตร์ใช้ในโปรโมชั่นลดราคาวันพุธ เพื่อขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่สะดวกกลางสัปดาห์และพอใจจะจ่ายราคาถูก แม้จะได้เงินน้อยลง แต่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายได้มากขึ้น
แต่หลายคนอาจมีคำถามว่า ก็ถ้าขายราคาถูกได้แล้วทำไมไม่ขายราคานี้เสียตั้งแต่แรก เหตุผลก็คือ การจัดโปรโมชั่นจริง ๆ ก็นับว่าเป็นต้นทุนเหมือนกัน เพราะต้องเอามาหักลบกับกำไรที่ควรจะได้จากราคาขายปกติ และหากขายราคาต่ำตลอดโดยคิดกำไรต่อหน่วยน้อยลง ก็ไม่ได้การันตีว่าคนจะมาดูมากขึ้นเสมอไป เพราะนอกจากราคาตั๋วแล้ว ความน่าสนใจของภาพยนตร์และความสะดวกของผู้บริโภคก็ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่โรงควบคุมไม่ได้
นั่นอาจทำให้สุดท้ายแล้วโรงภาพยนตร์ต้องขาดทุน จึงสามารถลดราคาได้แค่ตามโปรโมชั่นที่แตกต่างกันไป เพื่อเฉลี่ยรายได้ให้เหมาะสมที่สุด