เมื่อปีก่อน Pop Mart เข้ามาเปิดสาขาในไทย นับว่าปลุกกระแสของอาร์ตทอยส์ (Art Toys) อย่างเป็นทางการ แต่ในปีนี้อาร์ตทอยส์มาแรงยิ่งกว่าเดิมโดยเฉพาะความนิยม ลาบูบู้ (Labubu) ที่สูงมาก และสูงยิ่งขึ้นจากอิทธิพลของซูเปอร์สตาร์ระดับโลกอย่าง ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากได้ลาบูบู้มาครอบครอง และราคารีเซลพุ่งขึ้นไปหลายเท่าตัว ด้วยวงการรีเซลอาร์ตทอยส์ที่คึกคักมากขึ้น ก็ส่งผลให้แหล่งค้าขายของเล่นที่ใหญ่ที่สุดในไทย เมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก (Mega Plaza) กลับมาแน่นเนืองไปด้วยผู้คนอีกครั้ง
ย้อนไปสักช่วง 10 กว่าปีก่อนย่านที่เป็นศูนย์รวมสินค้าเพื่อความบันเทิงอันดับหนึ่งในไทย คือ สะพานเหล็ก แหล่งรวมของเล่น โมเดล เกมต่าง ๆ จากหลากหลายประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง อเมริกา และยุโรป เรียกว่าหาได้จากที่นี่ทั้งหมด ราคาก็ค่อนข้างเข้าถึงง่ายกว่าตามห้างใหญ่ ๆ แต่ก็จะมีทั้งเถื่อนและแท้ปะปนกันไป ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ในการเลือกซื้อชนิดที่ว่าตาดีได้ตาร้ายเสียกันเลย ที่นี่จึงทำให้เด็กและผู้ใหญ่หลายคนได้เปิดโลกวงการของเล่นและเกมด้วย จนกลายเป็นสถานที่ในความทรงจำวัยเด็กของใครหลายคน
กระนั้นสะพานเหล็กก็ไม่ได้อยู่ยืนยง เพราะเบื้องลึกเบื้องหลังจริง ๆ แล้วร้านค้าเหล่านี้ก็อยู่กันมาแบบเทา ๆ จากการรุกล้ำพื้นที่คลองโอ่งอ่าง ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะและโบราณสถาน ที่อยู่แบบนั้นมาเป็นสิบปี จนในปี 2558 ทางกทม. ได้เริ่มโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองโอ่งอ่าง ทำให้ร้านค้าต่าง ๆ ต้องย้ายออกไปแล้วเหลือไว้เพียงตำนานของสะพานเหล็ก
ร้านค้าต่าง ๆ จึงพากันย้ายไปยังพื้นที่ใกล้เคียงที่น่าสนใจที่สุดในเวลานั้น คือ เมก้า พลาซ่า ที่ถูกรีโนเวทขึ้นมาตั้งแต่ปี 2554 จากห้างเมอรี่คิงส์ วังบูรพา ที่เคยถูกทิ้งร้างมานาน ภายใต้การบริหารของ บริษัท บวรพงศ์ จำกัด เมก้า พลาซ่า รองรับร้านค้ากว่า 800 ร้าน รวบรวมผู้ขายจาก 3 ย่านดังทั้ง สะพานเหล็ก พาหุรัด และสำเพ็ง โดยเป็นร้านของเล่นของสะสมกว่า 80%
ทางบริษัทบวรพงศ์เองยังได้ทุ่มงบประมาณกว่า 10 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนการตลาดสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคเห็นว่า “สะพานเหล็กยังไม่ได้หายไปไหน” และได้เป็นที่รู้จักในชื่อ เมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก
แม้จะสามารถสานต่ออาณาจักรของเล่นได้ แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นในจังหวะที่อีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนมากขึ้น รวมถึงเหล่านักสะสมด้วย ส่วนเกมต่าง ๆ ก็สามารถซื้อได้ทางออนไลน์จนแทบไม่มีใครเดินหาซื้อแผ่นตามร้านกันแล้ว นั่นทำให้เมก้า พลาซ่าค่อย ๆ ซบเซาลงตามยุคสมัย มีคนเดินพออยู่ได้ แต่ไม่ได้คึกคักอย่างที่สะพานเหล็กเคยเป็น
จนมายุคสมัยของอาร์ตทอยส์ ตั้งแต่ก่อน Pop Mart จะเข้ามาเปิด คนไทยก็เริ่มให้ความสนใจของเล่นประเภทนี้กันแล้ว ทำให้เป็นช่วงหนึ่งที่ร้านค้าในเมก้า พลาซ่ากลับมามีบทบาทสำคัญอีกครั้ง เพราะต้องนำเข้าจาก Pop Mart ในจีนมาขายรีเซล ทำให้ในตอนนั้นราคาของ Cry Baby พุ่งถึงดวงจันทร์เลย แต่เป็นแบบนั้นอยู่ไม่นาน ด้วยกระแสเรียกร้อง และความต้องการสูงในที่สุด Pop Mart ก็เข้ามาเปิดสาขาในไทย และทำให้พ่อค้าแม่ค้ารีเซลติดดอยอาร์ตทอยกันหมด
อย่างไรก็ตามกระแสของอาร์ตทอยได้ถูกจุดขึ้นแล้ว และแม้จะมีขายหน้าร้านอย่างเป็นทางการ แต่สุดท้ายก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ดี นั่นทำให้ร้านค้ารีเซลยังคงได้ประโยชน์ โดยเฉพาะเมื่อดาวเด่นตัวใหม่อย่างลาบูบู้ได้รับความนิยมสูงในไทย มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2024 ซึ่งหลังจากลิซ่าถ่ายรูปคู่ลาบูบู้โพสต์ลงสตอรี่อินสตาแกรมก็ยิ่งทำให้กระแสแรงขึ้นไปอีก จากราคาหน้าร้าน 590 บาท ราคารีเซลก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวตั้งแต่ 1,500 บาทจนถึง 3,000 ปลาย ๆ เลย ซึ่งไม่ต้องสืบเลยว่าเขาจะไปหากันจากไหน นอกจากตามกลุ่มออนไลน์แล้วก็ต้องเมก้า พลาซ่าสะพานเหล็กนี่แหละ ในช่วงนี้คนจึงกลับมาแน่นห้าง บรรยากาศการเลือกซื้อของเล่นคึกคักเหมือนในอดีต
แม้จะดูเป็นเรื่องน่ายินดีแต่ก็อย่าปล่อยให้บรรยากาศมันหลอกตา เพราะอย่าลืมว่าการเลือกซื้อของตามร้านค้าเหล่านี้สิ่งที่ต้องมีคือ “ความรู้” ในสินค้านั้น ๆ เพราะไม่งั้นอาจเจอเหลี่ยมเรื่องราคา โดนฟันหัวแบะ หรือหลงซื้อของปลอมมาก็ได้ ในส่วนของร้านค้าเองก็ยังคงต้องระมัดระวังและตรวจสอบสินค้าที่นำมาจำหน่ายให้ดี เพราะวันก่อนก็เพิ่งมีประเด็นเรื่อง มอก. ของเล่นบางประเภทอีก แม้จะทำให้การขายสินค้าบางอย่างลำบากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก็เป็นระเบียบที่ต้องปฏิบัติตาม