การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 หรือ ยูโร 2024 (EURO 2024) กำลังจะเริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนนี้ นับว่าเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แฟน ๆ ต่างรอเชียร์ให้ทีมโปรดได้คว้าแชมป์อันทรงเกียรติ แต่มากกว่าถ้วยรางวัลอันน่าภาคภูมิใจ สิ่งที่ผู้ชนะจะได้คือเงินรางวัลมหาศาล ซึ่งเป็นเดิมพันอันยิ่งใหญ่ที่ทีมชาติต่าง ๆ จะยอมทุ่มสุดตัวเพื่อให้ได้มาในการแข่งขันรายการนี้
สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรปได้เปิดเผยว่าเงินรางวัลสำหรับการแข่งขันยููโร 2024 ทั้งหมด มีมูลค่ารวม 331 ล้านยูโร (1.3 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเกณฑ์การให้รางวัลก็เหมือนกับในยูโร 2020 ดังนี้:
ทีมที่ได้เข้าร่วมจะได้รับทีมละ 9.25 ล้านยูโร (366 ล้านบาท)
ได้โบนัสในการแข่งขันแต่ละครั้งสำหรับทีมที่ชนะ 1 ล้านยูโร (39 ล้านบาท) และหากเสมอจะได้ทีมละ 5 แสนยูโร (19.8 ล้านบาท)
ทีมที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายจะได้รับ 1.5 ล้านยูโร (59 ล้านบาท)
ทีมที่ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศจะได้รับ 2.5 ล้านยูโร (99 ล้านบาท)
ทีมที่ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศจะได้รับ 4 ล้านยูโร (158 ล้านบาท)
ทีมที่ได้รองแชมป์จะได้รับรางวัล 5 ล้านยูโร (198 ล้านบาท)
ส่วนทีมที่ได้แชมป์จะได้รับเงินรางวัล 8 ล้านยูโร (317 ล้านบาท)
โดยรวมแล้วทีมที่ได้แชมป์อาจได้รับเงินรางวัลรวมสูงสุดถึง 28.5 ล้านยูโร (1.1 พันล้านบาท) หากชนะทั้งสามรอบในกลุ่มของตัวเอง
อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่ทีมชาติที่เข้าร่วมเท่านั้นที่อาจได้เงินหลายล้านจากรายการนี้ ในฝั่งผู้จัดอย่าง UEFA เองก็สร้างรายได้จากอีเวนต์นี้อย่างมหาศาลเช่นกัน มีการคาดการว่ายูโร 2024 อาจสร้างรายได้ราว 2.5 พันล้านยูโร (9.9 หมื่นล้านบาท) จากการขายสิทธิ์การถ่ายทอดสด ค่าบัตรเข้าชม เงินสนับสนุนและค่าโฆษณาจากสปอนเซอร์ ซึ่งในปีนี้ก็มีหลากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกมากมาย ได้แก่ Adidas, AliExpress, Alipay+, Atos, Betano, Booking.com, BYD, Coca-Cola Zero, Hisense, Lidi, Egelbert Strauss, Visit Qatar, Vivo, Bitburger, Deutsche Bahn, Deutsche Telekom, Ergo และ Wiesenhof
เรื่องที่น่าสังเกตคือ ในลิสต์ของสปอนเซอร์ แบรนด์ธุรกิจจากจีนอยู่มาก ทั้ง AliExpress, Alipay+, BYD, Hisense, Vivo สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะบุกตลาดยุโรปและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ รวมทั้งสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความเป็นสากลมากขึ้นผ่านการสนับสนุนรายการแข่งขันกีฬาระดับโลกด้วย
โดย UEFA คาดว่าเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดจะเป็นกำไร ซึ่งจะถูกใช้ในการสนับสนุนและพัฒนาวงการฟุตบอลในยุโรปไปอีกตลอด 4 ปีข้างหน้า แต่นอกจากนี้ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายมากมายที่ UEFA ต้องกระจายให้กับฝ่ายต่าง ๆ
สมาชิก UEFA แต่ละสมาคมมีสิทธิ์ได้รับเงินสูงสุดถึง 17 ล้านยูโร (673 ล้านบาท) ในช่วง 4 ปีจนถึง 2028 และ UEFA ยังต้องจ่ายเงินรวม 240 ล้านยูโร (9.5 พันล้านบาท) ให้กับกว่า 600 สโมสรทั่วยุโรปเป็นค่าปล่อยตัวนักเตะ โดยแบ่งเป็น 140 ล้านยูโรสำหรับรอบชิง และ 100 ล้านยูโรสำหรับ Nations League และรอบคัดเลือกยูโร 2024
โดยสรุปแล้วยูโร 2024 เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่มีเดิมพันคือความภาคภูมิใจ และรางวัลใหญ่มูลค่าเกือบ 30 ล้านยูโรให้กับผู้ชนะ ทั้งยังเป็นแหล่งรายได้มหาศาลที่ UEFA จะนำมาใช้จ่ายในการขับเคลื่อนวงการฟุตบอลในยุโรปต่อไปในตลอดช่วง 4 ปี ทำให้นี่คือหนึ่งในรายการแข่งขันกีฬาที่มีเงินสะพัดทั้งเบื้องหลังและเบื้องหน้านับพันล้านยูโร