CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: โฆษณา Dr.Montri ย้ำ “Beauty Standard แบบล้าหลัง” ใช้แล้วสวยจนเป็นคนละคน
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Opinion > โฆษณา Dr.Montri ย้ำ “Beauty Standard แบบล้าหลัง” ใช้แล้วสวยจนเป็นคนละคน
Opinion

โฆษณา Dr.Montri ย้ำ “Beauty Standard แบบล้าหลัง” ใช้แล้วสวยจนเป็นคนละคน

CTD admin
Last updated: 2024/09/16 at 8:53 AM
CTD admin Published June 5, 2024
Share

ดราม่าเบา ๆ แต่ประเด็นค่อนข้างหนัก สำหรับโฆษณาชุดล่าสุดจากโฟมล้างหน้า ดร.มนตรี (Dr.Montri) ที่ยังสื่อความหมายด้วยการย่ำอยู่บนการใช้ Beauty Standard หรือมาตรฐานความงามแบบล้าหลัง ที่กำหนดว่า “คนสวยคนหล่อต้องแบบนี้เท่านั้น” สร้างค่านิยมที่ด้อยค่าคนบางกลุ่มดูแย่ ผ่านการขายสินค้าของตัวเอง 

โฆษณาชุดดังกล่าวของโฟมล้างหน้าดร.มนตรีเริ่มเผยแพร่ตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นโฆษณาโฟมล้างหน้าสำหรับผู้หญิง 2 ตัว โดยมีพรีเซนเตอร์หลักคือ เก๋ไก๋ ณัฐธิชา นามวงษ์ ร่วมกับ เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข ที่เป็นพรีเซนเตอร์โฟมล้างหน้าผู้ชายของแบรนด์มาก่อนแล้ว ซึ่งในฝั่งของโฆษณาโฟมล้างหน้าผู้ชายก็ดูไม่ได้มีประเด็นอะไร แต่เรื่องมันเกิดที่โฆษณาโฟมล้างหน้าสำหรับผู้หญิงสองตัวที่มีเก๋ไก๋แสดงนำ  

“หน้าดำมันร้าย” 

ในตัวแรกคือโฆษณาที่ใช้เพลงประกอบซึ่งดัดแปลงมาจากเพลง รังสิตมันร้าย โดยมีเนื้อเพลงช่วงหนึ่งในโฆษณาที่ร้องว่า “หน้าดำมันร้าย เลิกดำซะหน่อยได้ไหม” เพื่อขายว่าใช้โฟมล้างหน้าดร.มนตรีล้างแล้วจะช่วยให้ “หน้าสว่างใส”  

แน่นอนว่าเปิดมาแบบนี้ไม่ถูกใจคนที่มีผิวสีเข้ม เพราะทำให้เกิดคำถามว่า “หน้าดำมันร้ายยังไง ก็ในเมื่อผิวฉันมันเข้มอยู่แล้ว” เหมือนเป็นการด้อยค่าคนผิวเข้ม แม้ในมุมหนึ่งเราอาจมองว่าทีมงานจงใจสื่อถึงความหมองคล้ำมากกว่าได้ แต่ถ้าเป็นแบบนั้นก็ควรเลือกใช้คำอื่นแทน ไม่ใช่การมักง่ายใช้คำว่า “ดำ” แค่เพื่อให้ร้องเข้ากับเพลงได้ 

“สวยจนเปลี่ยนเป็นคนละคน” 

ในโฆษณาอีกตัว เก๋ไก๋และเจมส์จิแนะนำผู้หญิงอีกคนให้ใช้โฟมล้างหน้าดร.มนตรี ซึ่งตอนที่มือของเธอแตะหลอดโฟมอยู่ก็มีหน้าตาสวยดูดีตามปกติ แต่เมื่อเธอปฏิเสธและปล่อยมือออกจากหลอดโฟมก็กลายเป็นอีกคนที่ผิวเข้มกว่า ตาเล็กกว่า รูปหน้าคนละแบบ และน่าจะมีการแต่งหน้าให้ดูโทรมกว่าด้วย ซึ่งใช้นักแสดงคนละคนอย่างชัดเจน เป็นการสื่อว่า “ถ้าใช้ดร.มนตรีคุณจะดูดี แต่ถ้าไม่ใช้คุณจะดูโทรม” 

ทีมงานจงใจใช้คนละคนเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ควรจะเกิดกับคนเดียวกัน และพยายามเทียบให้เห็นว่าดูดีกว่าหรือแย่กว่าอย่างชัดเจน แม้จะไม่ได้มีการพูดอย่างชัดเจนว่าสวยไม่สวย แต่ด้วยการจงใจแต่งหน้าคนละแบบ ใช้นักแสดงคนละคน มันเป็นการชี้นำคนดูว่า “คนนี้คือสวย คนนี้คือไม่สวย” 

ทั้งที่จริง ๆ แล้วถ้าเราให้นักแสดงทั้งสองคนมาแต่งหน้าดี ๆ ทั้งคู่ก็อาจสวยไปคนละแบบ หรือถ้าเอามาแต่งให้โทรมทั้งคู่ก็คงไม่ต่างกัน แต่การวางไว้ให้อีกคนดูดีกว่าอีกคนคือการวางกรอบให้มาตรฐานความงามที่แคบมาก และสร้างค่านิยมว่า “คุณต้องผิวขาว ตาโต หน้าเรียว คุณถึงจะสวย”  

การมองว่าผิวดำคือไม่สวย หรือกำหนดว่าความสวยต้องแบบนี้เท่านั้น เป็นมาตรฐานความงามที่ถูกหล่อหลอมในสังคมไทยมาช้านาน ให้ค่านิยมกับความขาวว่าสวยกว่า ซึ่งเป็นสิ่งที่การตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผิวต่าง ๆ ใช้กันมานาน และใช้กันมากด้วยในช่วงสมัยสักสิบกว่าปีก่อน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งค่านิยมนี้ก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง 

อย่างเมื่อหลายปีก่อนในโฆษณาของแบรนด์ Snowz “แค่ขาวก็ชนะ” ที่นำแสดงโดยคริส หอวัง ซึ่งมีการทาสีผิวคริสให้ดำแบบผิดธรรมชาติสีผิวเดิมของเจ้าตัว ซึ่งก็โดนคนจำนวนมากวิจารณ์ถึงการสร้างค่านิยมแบบผิด ๆ และเป็นการเหยียดสีผิว นับว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่หลายแบรนด์ควรเรียนรู้ได้แล้วว่าจะใช้วิธีนี้ไม่ได้อีกต่อไป 

เมื่อสังคมเริ่มตระหนักถึงพิษของมาตรฐานความงามเพียงรูปแบบเดียว และให้คุณค่ากับความงามที่หลากหลายมากขึ้น ค่านิยมนี้ก็ค่อย ๆ เสื่อมและจางไป จนหลายแบรนด์ก็มีการใช้นางแบบผิวสีเข้ม หลากหลายชาติพันธุ์ และเปลี่ยนไปให้ความสำคัญกับสุขภาพผิวมากกว่าเฉดสีผิวว่าจะขาวหรือดำ และหน้าตาเป็นแบบไหน การที่ดร.มนตรียังใช้ค่านิยมแบบนี้ในการขายของ จึงสื่อถึงความล้าหลังของคนคิดโฆษณา รวมถึงแบรนด์ที่ยอมรับด้วย 

ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียจำนวนหนึ่งก็ได้ออกมาวิจารณ์โฆษณาสองตัวนี้ว่าเป็นการส่งเสริมค่านิยมแบบผิด ๆ และด้อยค่าคนอื่นที่อยู่นอกกรอบนั้น ทั้งที่ความเป็นจริงความสวยความงามเป็นเรื่องปัจเจกและหลากหลาย และทุกคนสามารถดูดีได้ในแบบของตัวเอง ซึ่งไม่จำเป็นต้องขาว หรือดูเหมือนใคร  

ทั้งนี้ทางแบรนด์ดร.มนตรีและบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย แมสมาร์เกตติ้ง (Mass Marketing) ก็ไม่ได้มีการออกมาตอบโต้หรือพูดถึงในประเด็นดังกล่าว และโฆษณาชุดนี้ก็ยังถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียอยู่ รวมถึงในช่อง YouTube อย่างเป็นทางการของแมสมาร์เกตติ้งด้วย

You Might Also Like

วัดกำลังอสังหาฯ ยามพบศึกหนัก แผ่นดินไหว vs สงครามการค้า บ้านแนวราบโต แต่ตลาดคอนโดตึกสูงสั่นคลอน

ไม่ใช่แค่แรงงานไทยมักง่าย แต่นายจ้างเกาหลีก็อยากได้ผีน้อย

ไม่เอาแอปจีน! รัฐเท็กซัสประกาศแบนทั้ง DeepSeek, RedNote, Lemon8 

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2568 คาดยอดจัดส่งรถยนต์ EV โต 17%

TAGGED: Beauty Standard, Dr.Montri, marketing, โฆษณา

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin June 5, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article finbiz by ttb แนะ SME เป็นธุรกิจในดวงใจของลูกค้า ด้วยการวิเคราะห์ที่แม่นยำ
Next Article ฟรีแลนซ์ ชีวิตอิสระ งานโปร เงินปัง!!! หลักสำคัญ! ต้องบริหารจัดการเงินให้เป็น
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?