เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมาเพจหลักของร้าน “สุกี้จินดา” ออกมาโพสต์ว่า “สุกี้จินดาขอ 500 แชร์ ฝากถึงคนที่เรียกร้อง Buffet” และได้ยอดแชร์รวมกว่า 1.2 พันครั้ง ทำให้ต่อมาออกมาโพสต์จัดโปรโมชันบุฟเฟต์เป็นเวลา 1 เดือนเต็ม ในราคา 388 บาท Net โดยเริ่มวันที่ 20 เมษายน ที่สาขาห้วยขวาง และจะจัดโปรโมชั่นในสาขาอื่นต่อไป
แบบนี้ก็เหมือนเป็นสัญญาณของการสิ้นสุดเทรนด์หม่าล่านับไม้กันแล้ว เพราะตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ร้านหม่าล่าหม้อไฟหลายร้านก็ค่อย ๆ ทยอยปรับจากการคิดเงินตามไม้เป็นการคิดเงินรายหัวแบบบุฟเฟต์กันแล้ว จะเหลือก็แค่ตัวต้นเรื่องอย่างสุกี้จินดาที่ยังคงโมเดลนับไม้อยู่
ทั้งนี้กระแสหม่าล่าฟีเวอร์เริ่มซบเซาลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา หลังจากเปิดกันทั่วบ้านทั่วเมืองจนแทบจะเจอทุกมุมถนน แต่ก็ได้รับเสียงวิจารณ์จากผู้บริโภคถึงเรื่องของความคุ้มค่าไม่ต่างกัน ด้วยลักษณะการคิดเงินแบบนับไม้ ที่ปริมาณก็ไม่ได้เยอะอะไร แถมยังคิดค่าน้ำซุป น้ำจิ้ม และเครื่องดื่มเพิ่มอีกต่างหาก ทำให้กว่าจะอิ่มก็ต้องเจอราคาที่บานปลายหลายร้อยบาท ผู้บริโภคกินด้วยความระแวงและต้องคอยนับไม้อยู่ตลอด พอหลัง ๆ ร้านเปิดเยอะเข้า คนได้ลองกันแล้ว ก็ไม่ค่อยไปกันเพราะมองว่าไม่คุ้ม
หลังจากนั้น วิธีที่จะทำให้ร้านเหล่านี้อยู่รอดได้ง่ายที่สุดคือ “Back to Basic” กลับมาทำร้านแบบบุฟเฟต์ คิดเงินรายหัวแบบดั้งเดิม ซึ่งร้านไหนเรียกลูกค้ากลับมาได้ ก็รอดไป ส่วนร้านไหนทำไม่ได้ ก็ต้องโบกมือลา
สำหรับสุกี้จินดานั้น ทางร้านเองก็เคยเปิดเป็นบุฟเฟต์มาก่อน ตั้งแต่เปิดร้านแรก ๆ เลย ในช่วงปี 2563 ที่เจอสถาณการณ์โควิดพอดี คิดหัวละ 199 ไม่จำกัดเวลา แต่พอกางบัญชีออกมาดูแล้วไม่มีกำไร จึงได้ปรับมาใช้โมเดลแบบนับไม้แทน และเพิ่มรายได้ โดยลูกค้าทานเฉลี่ยที่ 300 บาทต่อคน ได้กระแสดีจนเติบโตและต่อยอดไปเป็นสิบสาขา
แต่คราวนี้พอตลาดปรับตัว กระแสผู้บริโภคเปลี่ยนทิศทาง การยึดมั่นในโมเดลธุรกิจของตัวเองอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดอีกต่อไป ถึงแม้ว่าสุกี้จินดาเผยว่าทำโปรบุฟเฟต์ตามคำเรียกร้อง แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคในตลาดปัจจุบัน นี่อาจเป็นความตั้งใจที่จะปรับตัวของร้านอยู่แล้วก็ได้ เพราะตอนนี้สุกี้จินดาจากที่เคยรอคิวยาวหน้าร้าน ไม่มีคิวเลย และหลายสาขาก็ต้องปิดตัวไปแล้วด้วย การปรับตัวเป็นบุฟเฟต์จึงอาจเป็น “ทางรอด” มากกว่า “ทางเลือก” ของสุกี้จินดา
และสุดท้ายโปรโมชั่นบุฟเฟต์ของสุกี้จินดาจะกลายมาเป็นโมเดลธุรกิจถาวรไหม หรือจะหมดลงที่ 1 เดือนอย่างที่บอกไว้ ต้องรอติดตามกัน