CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: จีนกำลัง “กอบกู้” ตลาดอสังหาฯ อย่างไร? แล้วทำไมสิ่งนี้จะไม่มีทางเกิดในไทย
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Opinion > จีนกำลัง “กอบกู้” ตลาดอสังหาฯ อย่างไร? แล้วทำไมสิ่งนี้จะไม่มีทางเกิดในไทย
Opinion

จีนกำลัง “กอบกู้” ตลาดอสังหาฯ อย่างไร? แล้วทำไมสิ่งนี้จะไม่มีทางเกิดในไทย

CTD admin
Last updated: 2024/10/01 at 8:17 AM
CTD admin Published May 24, 2024
Share

วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม 2024 จีนได้ทำในสิ่งที่ “เกินความคาดหมาย” สำหรับหลายฝ่าย สิ่งนั้นคือรัฐทำการกอบกู้ตลาดอสังหาฯ ที่ซบเซาด้วยมาตรการที่ถ้าเป็นอเมริกาก็คงจะเรียกว่าเป็นการ Bailout เพราะมีตั้งแต่สั่งให้รัฐบาลระดับมณฑลไปไล่ซื้อยูนิตอสังหาฯ ที่ขายไม่ออก รวมถึงซื้อที่ดินที่ไม่ถูกนำไปพัฒนาคืน และพร้อมกันนั้นทางธนาคารกลางก็ขยับไปในทางเดียวกันโดยการเอาระเบียบดอกเบี้ยกู้บ้านขั้นต่ำออก รวมทั้งลดข้อกำหนดเรื่อง “เงินดาวน์” เวลาซื้อบ้านด้วย

พูดง่ายๆ คือเป็นมาตรการที่มุ่งให้ทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันอัด “สภาพคล่อง” เข้าในอุตสาหกรรมอสังหาฯ เต็มที่

คำถามคือ ทำไมรัฐบาล “สังคมนิยม” อย่างจีนถึงทำตัวไม่ได้ต่างจากจากอเมริกากับภาคอุตสาหกรรมที่ขาดวินัยทางการเงิน ทำไมจีนถึงยังเอาภาษีประชาชนไปอุ้มภาคอุตสาหกรรมที่ทำตัวเสี่ยงจนเป็นภาระสังคม?

ทำไมจีนถึงอุ้มภาคอสังหาฯ ไม่ได้ต่างจากที่อเมริกาอุ้มภาคการเงินการธนาคาร?

คำตอบอาจเป็นเรื่องของ “ความชอบธรรม” ของรัฐบาลที่อิงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ จีนค่อนข้างจะเอียงมาในทาง “ทุนนิยม” มานานแล้ว หลายคนอาจรู้ แต่ในความเป็นจริง เศรษฐกิจจีนนับแต่ปี 1991 ไม่มีแม้แต่ปีเดียวที่เติบโตต่ำกว่า 7% มาต่อเนื่องเกือบ 30 ปี แน่นอนว่าเศรษฐกิจจีนสามารถโตไม่ต่ำกว่า 7% ได้ ทั้ง ๆ ที่เอเชียมีวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 1997 และโลกมีวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ในปี 2008 ซึ่งวิกฤติพวกนี้ไม่กระทบจีนเลย ทำให้จีนโตต่อเนื่องสม่ำเสมอ จนกลายเป็นมหาอำนาจอย่างปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี การเติบโตก็เริ่มสะดุด ในปี 2018 จีนเศรษฐกิจเติบโตต่ำกว่า 7% เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี และปี 2019 ก็โตลดลงอีก ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมาตั้งแต่โควิดระบาด อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจก็เละไปเลย พอมาในปี 2023 สถานการณ์เริ่มเป็นปกติ แต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนก็ต่ำยิ่งกว่าปี 2019 ดังนั้นในทางเศรษฐกิจจะเห็นได้ว่าสถานการณ์ไม่ดีเลย ใครมีพวกกองทุนหุ้นจีนก็คงจะเห็นได้ว่าหุ้นจีนเละเทะแค่ไหน

ภาวะแบบนี้ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนค่อนข้างจะเสียหน้า เพราะก่อนหน้านี้จีนเคยทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าเป็นไปได้ ก็คือการที่เศรษฐกิจโตต่อเนื่องกว่า 20 ปีทั้งๆ ที่แก่นกลางการปกครองเป็นแบบคอมมิวนิสต์ พูดอีกแบบก็คือจีนสร้างความชอบธรรมระดับโลกให้กับระบอบคอมมิวนิสต์ในศตวรรษที่ 21 ด้วย “ความเจริญ” ทางเศรษฐกิจ และถ้า “ความเจริญ” นี้ถดถอยลง ความชอบธรรมก็ย่อมถดถอยลงเหมือนกัน

แล้วอะไรพวกนี้มันเกี่ยวอะไรกับตลาดอสังหาฯ ?

ในความเป็นรัฐสังคมนิยม จีนต้องการให้สังคมมีระเบียบ และก็มีมาตรการจัดระเบียบภาคธุรกิจมากมายในช่วงโควิด พวกธุรกิจอสังหาฯ ก็เป็นพวกหนึ่งที่โดน “จัดระเบียบ” โดยจีนทำการระงับการสร้างหนี้ความเสี่ยงสูงของธุรกิจพวกนี้ ผลก็คือธุรกิจพวกนี้ล้มระเนระนาด จากบริษัทอสังหาฯ อันดับ 1 ของจีนอย่าง Evergrande ลามไปบริษัทอสังหาฯ ใหญ่ๆ เต็มไปหมด

ถามว่าจีน “พอใจ” มั้ย ในแง่หนึ่งคือ พอใจ เพราะจีนต้องการ “ทุบ” ราคาอสังหาอยู่แล้ว

คือต้องเข้าใจก่อนว่าในความเป็นชาติสังคมนิยม แต่บริษัทอสังหารวยเอา ๆ จากการปั่นราคาอสังหาฯ ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนราคาอสังหาฯ เมืองใหญ่สูงจน “คนรุ่นใหม่ไม่มีปัญญาซื้อบ้าน” และจริงๆ คือจีนก็มีมาตรการ “คุมราคาอสังหาฯ” แบบที่ประเทศจำนวนมากไม่มี ตั้งแต่การห้ามธนาคารให้ดอกเบี้ยกู้บ้าน “ต่ำเกินไป” ไปจนถึงกำหนดห้ามกู้บ้านในมูลค่า 100% แต่กู้ได้ 20-25% เท่านั้น พูดง่าย ๆ คือบังคับให้คนต้องเก็บเงินจนดาวน์ได้ ถึงจะซื้อบ้านได้

จีนทำแบบนี้ เพื่อให้พวกธนาคารไม่ปล่อยกู้บ้านรัว ๆ เนื่องจากจะทำให้ราคาบ้านขึ้น เพราะคนไม่ได้เอาเงินปัจจุบันของตัวเองมาซื้อ แต่เอาเงินในอนาคตมาซื้อ

อย่างไรก็ดี การวางมาตรการแบบนี้มาทำให้คนรุ่นใหม่ของจีนซื้อบ้านไม่ได้ เพราะไม่มีเงินดาวน์ (สมมติบ้าน 5 ล้าน ต้องดาวน์ขั้นต่ำ 1 ล้านบาท) แต่มันก็ไม่สามารถป้องกันให้คนที่ทุนหนาสามารถซื้อบ้านปั่นราคาขึ้นได้อยู่ดี และก็ต้องบอกเลยว่าทั้งหมดนี้ฝีมือคนจีนทั้งนั้น เพราะจีนเป็นชาติที่ห้ามต่างชาติถือครองที่ดิน (ซึ่งต่างจากโลกตะวันตกและทวีปอเมริกา ที่ไม่มีข้อห้ามแบบนี้)

ซึ่งผลรวมก็คือหายนะมาก ราคาบ้านขึ้นไปเรื่อย ๆ อสังหาฯ ก็รวยเอา ๆ สร้างยูนิตที่ไม่มีคนอยู่ แล้วก็กู้เงินมาสร้างเพิ่มอีก ปั่นราคาขึ้น ส่วนคนรุ่นใหม่เจอบ้าราคาขึ้นไปเรื่อยจะรีบซื้อก็ไม่ได้ เพราะรวบรวมเงินก้อนมาดาวน์บ้านก็ไม่ได้ จนสุดท้ายทำให้ทางการจีนลงมา “จัดระเบียบ” ในที่สุด

การจัดระเบียบตลาดอสังหาฯ ทำราคาบ้านในจีนร่วงได้ดั่งใจจริง แต่สิ่งที่รัฐบาลจีนอาจคาดไม่ถึงคือมันทำเอาเศรษฐกิจซบเซาไปด้วย เพราะถ้าหลายคนรู้ ว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนเกิดจากการพัฒนาอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจีนมันมีภาคการก่อสร้างที่ใหญ่โตและสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจมานาน ซึ่งพอภาคอสังหาฯ โดนเหยียบเบรค ภาคก่อสร้างก็ชะงักตาม ผลคือจีนหยุดการโตของราคาบ้านได้จริง แต่การทำแบบนี้คือหยุดการเติบโตของเศรษฐกิจด้วย ซึ่งมันก็กลับมาประเด็นที่ว่าในตอนแรก ว่าจีนมีปัญหาเศรษฐกิจโตไม่ได้ดั่งใจมาตั้งแต่ก่อนโควิดแล้ว และการที่ภาคอสังหาฯ จวนเจียนจะล้ม สถานการณ์ก็ยิ่งแย่

พูดง่าย ๆ คือจีนต้องเลือกว่าจะปล่อยตลาดอสังหาฯ ล้มและทำให้ราคาอสังหาฯ ลดลงให้คนซื้อไหว หรือจีนจะลงไปช่วยเพื่อให้ภาคนี้สามารถดันให้เศรษฐกิจโตต่อได้
เพราะตอนนี้คือพอภาคอสังหาฯ ขาดสถาพคล่อง มันก็ขาดสภาพคล่องเป็นโดมิโน เพราะเศรษฐกิจจีนผูกกับการขยายตัวของภาคอสังหาฯ

ซึ่งจีนเลือกอย่างหลัง แต่ก็มีการประนีประนอมว่าให้พวกรัฐบาลระดับมณฑลทำการซื้อยูนิตที่เหลือมาทำ “ห้องเช่าราคาถูก” ให้คนสามารถอยู่อาศัยได้ คือพรรคคอมมิวนิสต์ไปซื้อยูนิตอสังหาฯ ที่เหลือจากการผลิตแบบทุนนิยมมาทำ “การเคหะ” นั่นเอง เรียกว่าอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปให้อุตสาหกรรมอสังหาฯ ไม่ล้ม จนทำเศรษฐกิจพัง พร้อมกับเปิดโอกาสให้รัฐได้บริหารที่พักราคาถูกกับประชาชนด้วย

ประเด็นคือโครงการนี้ก็ยังไม่แน่ชัด เพราะเมืองใหญ่ ๆ ในจีนค่าเช่าแพง ถ้ารัฐบาลลงมาทำยูนิตปล่อยเช่าราคาถูก มันจะเป็นการ “ทุบราคา” ค่าเช่า แล้วลามไปทุบราคาอสังหาฯ อีกทีหรือไม่? แล้วผลมันจะเกิดอะไรต่อ สิ่งเหล่านี้ต้องดูกันต่อไป

แต่ที่แน่ๆ อะไรพวกนี้น่าจะเกิดในไทยไม่ได้ ถ้่ให้พูดตรงๆ คือ “ชนชั้นนำ” ไทยก็ไม่คิดถึงทางออกนี้

หลายคนคงรู้ว่าพวกคอนโดในไทยแบบราคาถูกช่วงหลัง เริ่มขายไม่ออกแล้ว แต่ไอเดียว่าให้รัฐไปซื้อมาปล่อยเช่าในราคาถูกยังไม่อยู่ในหัวคนไทย เพราะคนไทยไม่ได้ขาดห้องเช่าราคาถูก ดังนั้นนี่ไม่ใช่ปัญหาของสังคม แต่เป็นปัญหาสำหรับภาคอสังหาฯ เท่านั้น ซึ่งปัญหาภาคอสังหาฯ นี้จริง ๆ ทางการไทยก็ “กระตุ้นเชิงนโยบาย” สุด ๆ ผ่านการ “ไม่ทำอะไร” คือไม่มีการกำหนดดอกเบี้ยขั้นต่ำ และปล่อยให้คนกู้ได้ 100% มาตลอด

ซึ่งจริง ๆ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะหลาย ๆ ประเทศ การกำหนด “เงินดาวน์ขั้นต่ำ” แบบจีนนี่ปกติมาก เพราะจะทำให้คนที่ “มีปัญญาซื้อ” จริงๆ เท่านั้นที่ซื้อบ้านได้ ไม่ใช่ใครที่มีปัญญากู้ก็ซื้อได้หมด พอใคร “กู้ 100%” ซื้อได้หมด ราคาอสังหาฯ ไทยเลยโดนปั่นไปเรื่อย ๆ ผ่าน “รายย่อย” ซึ่งต่างจากจีนที่ “รายใหญ่” เป็นผู้ปั่น และปัญหาที่ตลาดอสังหาฯ มาสุดทางก็คือ รายได้คนไทยขยายตัวไม่ทันราคาอสังหาฯ และ “รายย่อย” ก็ไม่มีปัญญาซื้ออีกแล้ว

ทางการเลยเริ่มเปิดให้ต่างชาติเข้ามาซื้อ และพอต่างชาติซื้อกันสุดทาง ก็เริ่มกดดันให้แบงค์ชาติลดอัตราดอกเบี้ย ทั้งหมดนี้เพื่อให้ตลาดอสังหาฯ ไทย “ไปต่อ” ได้ พื้นฐานปัญหาของไทยและจีนก็ต่างกัน จีนเศรษฐกิจเติบโตด้วยการขยายตัวของอสังหาฯ ถ้าอสังหาฯ ล้มก็จะทำให้อย่างอื่นล้มด้วย โดยนี่ไม่ใช่เรื่องทฤษฎี แต่มันเกิดขึ้นเห็น ๆ

แต่ในไทยนี่เราไม่น่าจะสามารถพูดแบบเดียวกันได้ ตลาดอสังหาฯ ในไทยไม่ได้สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจขนาดนั้น ดังนั้นการที่รัฐไทยจะไปช่วยตลาดนี้มันก็น่าจะไ่ม่มีใครเห็นว่าเหมาะสม

เขียนโดย อนาธิป จักรกลานุวัตร

You Might Also Like

วัดกำลังอสังหาฯ ยามพบศึกหนัก แผ่นดินไหว vs สงครามการค้า บ้านแนวราบโต แต่ตลาดคอนโดตึกสูงสั่นคลอน

primo เผยผลประกอบการปี 67 รายได้รวมกว่า 1,637 ล้านบาท กำไรสุทธิ 262 ล้านบาท

ไม่ใช่แค่แรงงานไทยมักง่าย แต่นายจ้างเกาหลีก็อยากได้ผีน้อย

ไม่เอาแอปจีน! รัฐเท็กซัสประกาศแบนทั้ง DeepSeek, RedNote, Lemon8 

TAGGED: China, จีน, อสังหาริมทรัพย์

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin May 24, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article รับกระแสลงทุนไทยและต่างชาติ 3 บิ๊กอสังหาฯ ผนึกกำลังเปิด Grand Lounge ใจกลางเมือง
Next Article มัดรวม! กฎใหม่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่นักลงทุนต้องรู้
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?