เข้าฉายแล้วสำหรับ Inside Out 2 มหัศจรรย์อารมณ์อลเวง 2 ภาคต่อของภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องดังจาก Pixar ซึ่งผ่านการเปิดตัวในช่วงสุดสัปดาห์แรกมาด้วยรายได้มากถึง 295 ล้านดอลลาร์ ขึ้นแท่นแอนิเมชันที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในโลก และเป็นภาพยนตร์ที่มีรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในปีนี้ จากทุนสร้างเพียง 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งนอกจากจะเปิดตัวได้สวยแล้ว Inside Out 2 ยังเป็นภาพยนตร์แก้มือของ Pixar ที่จะมาลบล้างความล้มเหลวในช่วงหลายปีมานี้ด้วย
อย่างที่รู้กันว่า Pixar เป็นค่ายภาพยนตร์แอนิเมชันในเครือ Disney ที่มีฝือมือดี สร้างสรรค์แอนิเมชันระดับตำนานมาแล้วมากมายอย่าง Toy Story ทั้ง 4 ภาค และผลงานจำนวนมากก็ทำรายได้ทะลุ 1,000 ล้านดอลลาร์ได้สบาย แต่นั่นมันเป็นเรื่องของอดีต
หลังจากวิกฤติการณ์โควิด-19 ที่ทั่วโลกเผชิญ อุตสาหกรรมภาพยนตร์คือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ในตอนนั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ Pixar ปล่อยภาพยนตร์เรื่อง Onward เข้าฉายในปี 2020 และเจ๊งแบบไม่ต้องลุ้น ทำรายได้รวมทั่วโลกเพียง 142 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้างราว 200 ล้านดอลลาร์
นั่นคือช่วงเดียวกับที่แพลตฟอร์มสตรีมมิงได้รับความนิยมมากขึ้น Disney เองก็ได้ตัดสินใจฉายภาพยนตร์ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเองอย่าง Disney+ แทน รวมถึงแอนิเมชันจาก Pixar ด้วย ได้แก่ Soul (2020), Luca (2021), และ Turning Red (2022) ซึ่งไม่สามารถนำมาคำนวณรายได้ที่แน่ชัดได้ เนื่องจากรูปแบบรายได้มาจากค่าสมาชิกรายเดือนของแพลตฟอร์ม ไม่ใช่การขายตั๋วรายเรื่อง
จนปี 2022 ในช่วงที่สถานการณ์เริ่มกลับมาสู่ภาวะใกล้เคียงปกติ Disney และ Pixar ตัดสินใจอย่างกล้าหาญ ส่ง Lightyear เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ครั้งแรกในรอบ 2 ปี หวังคืนสู่จอยักษ์อีกครั้ง แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะ Lightyear ทำรายได้เพียง 226 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้าง 200 ล้านดอลลาร์ พูดกันง่าย ๆ ก็เจ๊งนั่นแหละ
ในปีต่อมาทางค่ายก็ยังไม่หยุดยั้งความพยายาม ส่ง Elemental เข้าฉายด้วยคอนเซ็ปต์ใหม่ พาไปเปิดโลกของธาตุต่าง ๆ แบบที่ไม่เคยทำในอนิเมชันเรื่องก่อน ๆ และถึงจะทำรายได้ที่ดีขึ้นบ้างแต่ก็ไม่ถือว่าประสบความสำเร็จ Elemental ทำรายได้รวม 496 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้างราว 200 ล้าน ซึ่งรายได้เท่านี้ก็นับว่าทำกำไรแต่ยังไม่ได้ทำให้ Pixar กลับมาอยู่ในเกมเดิมก่อนโควิด
จนในปีนี้ที่ Inside Out 2 เข้าฉาย นี่คือการเดิมพันสำคัญที่จะกอบกู้สถานการณ์ของ Pixar และก็ดูเหมือนว่าจะทำได้จริง เพราะแค่รายได้ช่วงเปิดตัวก็ทะลุ 1.5 เท่าของต้นทุนการผลิต แม้จะไม่รู้ว่าลงทุนทำการตลาดไปมากน้อยแค่ไหน แต่ด้วยท่าที่และกระแสแบบนี้ น่าจะเข้าถึงจุดคุ้มทุนและเริ่มกวาดกำไรได้ในไม่กี่วัน อีกทั้งยังน่าติดตามว่ารายได้จะทะยานไปถึง 1,000 ล้านหลังจบโปรแกรมฉายได้หรือไม่
การกลับมาด้วย inside Out2 ถือเป็นการตัดสินใจที่ฉลาด เพราะนี่คือ “ภาคต่อ” จากแอนิเมชันที่ได้รับความนิยมสูงและทำรายได้ไปกว่า 858 ล้านดอลลาร์ในปี 2015 นั่นทำให้มีโอกาสสูงที่แฟนจากภาคแรกจะกลับมาร่วมสานต่อเรื่องราวอีกครั้ง ต่างจากแอนิเมชัน 6 เรื่องก่อนหน้าที่เป็นการเปิดเรื่องราวใหม่ทั้งหมด