ยุคนี้ใครๆก็พูดถึงคำว่า Metaverse หลังจากที่ Facebook กำลังเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจาก Social Media มาเป็นโลกเสมือนจริงอย่างเต็มตัว หลังจากนั้นบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆอย่าง Microsoft ก็กระโดดตามมาติดๆรวมถึงแบรนด์สินค้าต่างๆให้ความสนใจที่จะเข้ามาร่วมขบวนด้วย
เป็นไปได้สูงว่า Metaverse จะกลายเป็น Mega Trend ใหม่ของโลกที่จะผลักดันให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องมีการเติบโตใหม่ตามมา ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่จะต้องผลิตชิปที่มีกำลังสูงขึ้นรองรับต่อการแสดงผลภาพสามมิติ ธุรกิจคอนเทนท์ก็จะมีรายได้ใหม่ๆจากคอนเทนท์ที่มีมิติมากขึ้น รวมไปถึงภาคธุรกิจอื่นๆที่มีโอกาสจะเกาะไปกับกระแสการเติบโตนี้
ส่วนในโลกของการลงทุนที่นอกเหนือจากหุ้นหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง การมาของ Metaverse น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงโลกของการลงทุนโดยเฉพาะสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีบล็อกเชนและ NFT รวมถึง DeFi เป็นแรงขับดัน
สินทรัพย์ที่จะสามารถลงทุนและซื้อขายได้ในโลกของ Metaverse มีตั้งแต่โทเคนที่สร้างโดยแพลตฟอร์มเจ้าของโลกเสมือนจริง งานศิลปะหรือทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าที่สร้างโดยแบรนด์ต่างๆ ไอเท็มในเกมส์ ฯลฯ
ข้อแรก..สินทรัพย์ในรูปแบบดิจิทัลจะได้รับการยอมรับมากขึ้น สินทรัพย์ที่ได้รับยอมรับในปัจจุบันเกือบทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ในรูปแบบของ Physical อย่างเช่น หุ้นที่มีกิจการจริงๆรองรับ อสังหาริมทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ หรือแม้แต่ของสะสม แต่อนาคตสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนจับต้องได้จริงจะมีมูลค่าและได้รับยอมรับเช่นเดียวกันกับสินทรัพย์ที่จับต้องได้
จริงๆแล้วนักลงทุนให้มูลค่ากับสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนมานานแล้ว อย่างเช่นหุ้นของ NETFLIX ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคอนเทนท์ก็มีมูลค่ามาจากคอนเทนท์ที่จับต้องไม่ได้มานานแล้ว ถ้าหากการวัดมูลค่าสินทรัพย์จะต้องเป็นสิ่งที่จับต้องได้เท่านั้น มูลค่าหุ้นของ NETFLIX ก็ต้องมีค่าเท่ากับเครื่อง Server เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงมูลค่าของหุ้น NETFLIX คือคอนเทนท์ที่ทรงพลังนั่นเอง
ข้อสอง..ผู้ลงทุนที่มาจากทั่วโลกการลงทุนในรูปแบบเดิมอาจจะจำกัดเฉพาะผู้ลงทุนในประเทศของเราเอง แต่ในโลกของ Metaverse เรามีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับคนทั่วโลกที่มาใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์ร่วมกัน เท่ากับว่าเรามีโอกาสที่จะได้ซื้อขายสินทรัพย์ต่างๆกับใครก็ได้บนโลกนี้ สภาพคล่องการซื้อขายจะมีมากขึ้น ความหลากหลายของสินทรัพย์ นักลงทุนอาจจะต้องเพิ่มมุมมองในการเลือกสินทรัพย์ที่เป็นความต้องการของคนทั้งโลกแทนที่จะจำกัดเฉพาะความต้องการในประเทศ
ข้อสาม..วิเคราะห์ระบบเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในโลกเสมือนจริงปัจุบันเราต้องวิเคราะห์เศรษฐกิจในภาพรวมเช่นทิศทางดอกเบี้ย อัตราแลกเปลี่ยน ฯลฯ ก่อนตัดสินใจลงทุนแต่ในโลกเสมือนจริงที่มีผู้คนมาใช้ชีวิตร่วมกันจริงๆ อนาคตอาจจะต้องมีการวิเคราะห์ระบบเศรษฐกิจใหม่ที่เกิดขึ้นใน Metaverse เพราะที่ๆใดก็ตามที่มีผู้คนที่นั่นย่อมเกิดระบบเศรษฐกิจขึ้น เพียงแค่อยู่ในรูปแบบของดิจิทัลเท่านั้น
เห็นได้ว่า Metaverse เข้ามาเปลี่ยนแปลงมุมคิดของการลงทุนยุคใหม่ได้พอสมควร ผู้ที่เป็นนักลงทุนจะต้องเปลี่ยนไมนด์เซตของตัวเองให้กาวทันต่อยุคสมัยด้วย เพื่อที่จะไม่ตกขบวน Mega Trend อันนี้ที่เพิ่งจะออกตัวเท่านั้นเอง