ถ้าพูดถึง Influencer สักคน (หรือสองคน) ในช่วงนี้เชื่อว่าหลายคนคงจะนึกถึง คัลแลน และ พี่จอง จากช่อง YouTube: 컬렌 Cullen HateBerry เพราะนาทีนี้กระแสเขาดีแบบไม่มีใครเกิน หรือถ้าเป็นในฝั่ง TikTok ก็คงเป็นสาวเกาหลี กามิน จากช่อง mmini.j ที่แน็กชาลีเข้าไปดูและโด่งดังในชั่วข้ามคืน
ซึ่งความสำเร็จของพวกเขาเหล่านี้สะท้อนให้เราเห็นว่าจริง ๆ คนธรรมดา ที่ไม่จำเป็นต้องมีโปรไฟล์เลิศหรูหรืออยู่ในวงการบันเทิงมาก่อน คนทั่วไปแบบคุณก็สามารถกลายเป็น Influencer ดังที่สร้างมูลค่ามหาศาลให้ตัวเองได้
พี่จองกับคัลแลนนอกจากจะมีผู้ติดตามเกือบ 2 ล้านคนแล้ว ยอดวิวแต่ละคลิปก็หลายล้าน แม้คลิปหนึ่งจะยาวเกือบชั่วโมง ซึ่งเอาจริง ๆ คงมีไม่กี่ช่องยูทูปในโลกที่ทำได้ และล่าสุดที่ไปงานของ La Roche Posay ก็ทำสยามแตกเพราะแฟนคลับไปรอเจอกันอย่างคับคั่ง แถมยังได้ร่วมงานกับ Sumsung Thailand โฆษณา Galaxy S24 Ultra ตัวเรือธงของค่ายเลย ซึ่งเหมาะมากเพราะทั้งคู่ก็ใช้มือถือของ Sumsung อยู่แล้ว โดยเชื่อกันว่าทั้งสองแบรนด์น่าจะใช้งบสูงพอสมควรจึงจะได้สองหนุ่มมาร่วมงานด้วย
โดยทั้งพี่จองและคัลแลนเองก็ไม่ใช่คนที่โด่งดังวงการบันเทิงมาก่อน และงานที่ทำก็ทั่ว ๆ ไป คัลแลน เป็นโปรดิวเซอร์เพลง EDM ของวง Hateberry และเคยเป็น DJ ที่ K Bomb บาร์เกาหลีในไทยของเขาเอง (แต่น่าเสียดายที่โดนพิษโควิด ปิดไปแล้ว) จึงได้ผันตัวมาเป็นนายแบบด้วย และเริ่มทำช่องยูทูปแนวไลฟ์สไตล์ ซึ่งในตอนแรกก็ยังพูดภาษาเกาหลีอยู่ แต่ภายหลังก็เริ่มหันมาพูดไทยในคลิป แม้จะยังพูดไม่คล่องก็ตาม ส่วนพี่จอง เป็นนักธุรกิจที่รู้จักกัน ซึ่งเรียนรู้ภาษาไทยได้เร็วมาก ด้วยนิสัยที่เข้ากันได้ดีมาก ๆ ก็ชวนกันมาถ่ายคลิปในช่อง ซึ่งทั้งคู่ก็มีเคมีความน่ารักที่เข้ากันมาก ดูเป็นธรรมชาติในทุก ๆ เรื่องที่ทำ ทุกอย่างที่พูด อีกทั้งภาษาไทยสไตล์เกาหลีที่น่าเอ็นดูสุด ๆ ทำให้ได้ใจแฟน ๆ ชาวไทยไปเต็ม ๆ
ส่วนอีกคนที่ถูกจุดกระแสขึ้นมาเร็ว ๆ นี้เลยคือ กามิน TikToker สาวเกาหลีที่ทำคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ พากินเที่ยว หรือคลิปเต้นทั่วไป และไลฟ์สด เดิมทีเธอก็มีผู้ติดตามแค่หลักหมื่นคนเท่านั้น และคนดูไลฟ์หลักสิบ ซึ่งเธอก็ไลฟ์ทุกวันเป็นงานเพื่อหาเงินเป็นทุนเรียนต่อโท จนดาราไทยมาดกวนอย่าง แน็ก ชาลี เข้าไปเฝ้าดูไลฟ์สดของเธอเป็นประจำ และพาให้แฟนคลับตามไปดูไลฟ์ของเธอ จนได้ยอดดีขึ้นที่ 1 ในอันดับรายวันและรายสัปดาห์ มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 2.9 แสนคน และมีแฟน ๆ ชาวไทยจำนวนมากที่คอยให้กำลังใจเธอทุกครั้งที่ขึ้นไลฟ์
ซึ่งสำหรับพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทำให้ตัวเองกลายเป็นคนดัง มีทั้งชื่อเสียงและเพิ่มมูลค่ามหาศาลให้กับตัวเอง แม้ว่าเดิมทีพวกเขาจะไม่ได้เป็นที่รู้จักขนาดนี้ก็ตาม ทำให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วเรื่องแบบนี้มันก็อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ที่ลงมือทำอะไรสักอย่าง อาจจะเป็นคุณก็ได้
นั่นก็เพราะว่าตัวคัลแลนเองก็ไม่ได้จำกัดตัวเองไว้แค่การโปรดิวซ์เพลง EDM หรือนายแบบ เขาตัดสินใจเริ่มทำยูทูป แม้ว่าในตอนแรกเพื่อนร่วมงานจะไม่ค่อยเห็นด้วยก็ตาม และจากที่ตอนแรกทำคลิปที่เน้นชีวิตของคนเกาหลีในไทย กินอะไร ทำอะไรที่มีความเป็นเกาหลีอยู่มาก และพูดแต่ภาษาเกาหลี ก็ได้พัฒนามาเริ่มพูดภาษาไทย ร่วมงานกับพี่จอง เปลี่ยนแนวทางการทำคอนเทนต์ไปเป็นแนวท่องเที่ยว สัมผัสกับความเป็นไทยมากขึ้นโดยเฉพาะในท้องถิ่นต่าง ๆ และแสดงออกทุกอย่างจากใจจริง จนกลายเป็นเสน่ห์ในการทำคอนเทนต์ของตัวเองที่ถูกจริตแฟน ๆ ชาวไทย
ส่วนกามินเองก็นั่งไลฟ์หลังขดหลังแข็งคุยกับคนดูนานถึง 20 ชั่วโมงเป็นประจำ และใส่ใจคนดูอยู่เสมอแม้จะไม่เยอะก็ตาม จนแน็กชาลีไปเจอเข้า และเป็นโอกาสสำคัญให้เธอโด่งดังขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่ลืมที่จะรักษาความใส่ใจต่อคนดูของเธอไว้ ยังขอบคุณทุกคนอย่างดีอยู่ตลอด และฝึกพูดภาษาไทยมาคุยกับแฟน ๆ มากขึ้นด้วย
จะเห็นได้ว่าจริง ๆ แล้วพวกเขาก็เคยเป็นคนธรรมดาทั่วไปที่มีความพิเศษในแบบของตัวเอง เพียงแต่การตัดสินใจลงมือทำอะไรสักอย่างและพยายาม เป็นการเปิดโอกาสให้ตัวเอง และคนอื่นได้เห็นถึงความพิเศษนั้นได้ อย่างที่คุณเองก็อาจทำได้
ทั้งนี้หลายคนอาจตั้งข้อสังเกตและแย้งว่า “ก็เขาหน้าตาดีนี่” แน่นอนแหละว่าในสังคมเราคงหลีกเลี่ยงการให้คุณค่ากับคนหน้าตาดีไม่ได้ แต่พูดแบบไม่อคติแล้วพวกเขาก็เป็นแค่คนหน้าตาดีทั่วไป ที่ไม่ได้ต่างจากคนหล่อสวยทั่วไปที่เราเจอได้เวลาเดินถนนนี่นา จะไปบอกว่าเพราะเขาหล่อเขาสวยอย่างเดียวก็ไม่ได้หรอก และที่สำคัญคือ คุณไม่ควร “ดูถูกตัวเอง” ไม่ว่าจะเรื่องความงามหรือความสามารถ โลกนี้มีมาตรฐานความงามที่หลากหลาย และคนมากมายที่อาจชื่นชอบในสิ่งที่คุณทำ เพราะฉะนั้น ขอให้รู้ไว้ว่าจริง ๆ แล้วนี่อาจไม่ใช่อะไรที่ไกล หรือเกินตัวคุณเลย
คุณเองก็พิเศษ และเป็นได้มากกว่าที่คุณคิด คุณมีค่า และอาจสร้างมูลค่าให้ตนเองได้อีกมากมาย
ที่มา: https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/2758909
https://www.tiktok.com/@mmini.j