#Tales of Numbers เพราะตัวเลขไม่เคยหลอก แต่กำลังบอกอะไรเรา?
ไทยเป็นประเทศที่มีหมาจำนวนมาก แต่น้อยคนที่จะรู้จำนวนหมายในประเทศไทย ในงานวิจัยของวารสาร Frontier in Veterinary Science ฉบับเดือนธันวาคม 2021 ได้มีการประเมินจำนวนหมาในประเทศไทยว่ามีมากถึงประมาณ 12.8 ล้านตัว
.
ถามว่าจำนวนเหล่านี้น่าสนใจไหม? คำตอบคือมันสื่อได้ว่าประเทศไทยมีหมาเยอะมากพอๆ กับจำนวน “เด็ก” ในไทย เพราะตามข้อมูลทะเบียนราษฎรของปี 2021 ประเทศไทยมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 12.8 ล้านคน
.
ถ้าเป็นตามนี้มีในราวปี 2021 ในไทยน่าจะมีทั้งหมาและเด็กจำนวนเท่าๆ กัน 12.8 ล้านตัว/คน แต่ประเด็นคืออัตราการเติบโตมันไม่ได้เท่ากัน เพราะจากการประเมินของทีมวิจัย อัตราการเติบโตของประชากรหมาทั้งหมดในไทยน่าจะอยู่ที่ปีละประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่อัตราการโตของประชากรไทยนั้นปัจจุบันอยู่ที่ประมาณถึง 0.2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และลดลงเรื่อยๆ ตามประสาสังคมผู้สูงอายุที่มีเด็กเกิดน้อยลงทุกปี
.
และนั่นคือข้อมูลจากปี 2021 ตอนนี้ปี 2023 แล้ว เราน่าจะสรุปได้แล้วว่า ณ ปีนี้มีจำนวน “หมา” ในประเทศไทยมากกว่า “เด็ก” เรียบร้อยแล้ว
ตรงนี้ บางคนอาจจะบอกว่าจะนับหมารวมๆ ไม่ได้ ต้องนับหมาเฉพาะที่เป็นสัตว์เลี้ยง สมมติจะเอาแบบนี้งานวิจัยที่ว่าก็มีประเมินอีกว่า ถ้าจะนับเฉพาะหมาที่เป็นสัตว์เลี้ยงในไทยก็จะได้ประมาณ 11.2 ล้านตัว ซึ่งน้อยกว่าเด็ก แต่ถ้ามาแบบนี้ ปกติเค้าจะนับเทียบ “สัตว์เลี้ยง” รวมๆ กับเด็กเลย หรือพูดง่ายๆ ก็คือต้องนับ “แมว” ด้วย ไม่ได้นับแค่ “หมา”
.
ในไทยไม่ได้มีการประเมินข้อมูลจำนวนแมวละเอียดและอัปเดตแบบหมา แต่ในปี 2020 มีการประเมินว่าในไทยมีแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงอยู่ 3.3 ล้านตัว และปัจจุบันก็น่าจะไม่ได้มีตัวเลขลดลงแน่ๆ
ดังนั้นถ้ารวมหมาแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงเข้าด้วยกัน ก็รวมกันได้ 14.5 ล้านตัวแน่ๆ เป็นขั้นต่ำ และนี่คือจำนวนที่มากกว่า “เด็ก” ในไทยแน่นอน ดังนั้นเราสรุปได้แน่ๆ ว่า ณ ปัจจุบันคน “มีสัตว์เลี้ยง” มากกว่า “มีลูก” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
.
ในขณะที่ประเด็นนี้นั้นคงมีประเด็นสาธารณะให้พูดคุยกันเยอะ แต่จริงๆ ประเด็นในเชิงธุรกิจภาคธุรกิจได้ขยับไปนานแล้ว
ภาคธุรกิจรู้นานแล้วว่าเรากำลังอยู่ในโลกที่ “มีสัตว์เลี้ยงมากกว่าเด็ก” เพราะอย่างน้อยๆ ในอเมริกา ถ้านับ “สัตว์เลี้ยง” รวมๆ แล้ว สังคมอเมริกันมีสัตว์เลี้ยงมากกว่าเด็กมานานแล้ว และถ้าดูจำนวนแบบอัปเดตเลยในปี 2023 ก็จะเห็นว่าประชากรหมาแมวอเมริกาที่เป็นสัตว์เลี้ยงมีถึง 100 ล้านตัว ในขณะที่มีเด็กประมาณ 70 ล้านคนเท่านั้น โดยช่องว่างก็ห่างกันไปเรื่อย
.
แต่ภาคธุรกิจไม่ใช่รู้แค่นี้ เค้ารู้ถึงขั้นว่า กลุ่มคนรุ่นที่เป็น “พ่อแม่” สัตว์เลี้ยงที่สำคัญสุดของยุคนี้คือคน Gen Y เพราะนี่คือกลุ่มประชากรที่เลี้ยงสัตว์มากเป็นพิเศษแบบเห็นได้ชัดเลยถ้าเทียบกับคนรุ่นอื่น และคนรุ่นนี้ไม่ใช่แค่เลี้ยงเฉยๆ แต่เลี้ยงแบบทนุถนอมเหมือนลูก ซึ่งความรักและผูกพันแบบนี้ถูกแปลงเป็นสินค้าสัตว์เลี้ยงได้มากมายตั้งแต่ อาหาร เสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์เพื่อความสะอาด ยันของเล่น
ซึ่งเค้าก็จะมีคำอธิบายมาตรฐานของปรากฎการณ์นี้ว่า มันเป็นสิ่งเกิดควบคู่กับการ “มีลูกช้า” จนถึง “ไม่มีลูก” ของคน Gen Y ที่สุดท้ายก็ต้องการสิ่งมีชีวิตบางอย่างมาสร้างสมดุลในชีวิตครอบครัวอยู่ดี และการมีสัตว์เลี้ยงก็เป็นคำตอบของหลายๆ คน
.
นี่เป็นสิ่งที่ทั้งทางอุตสาหกรรมและคนเลี้ยงสัตว์จำนวนไม่น้อยรู้มานานแล้ว และก็เล็งมาแล้วว่านี่เป็นเทรนด์ระยะยาวที่มาช้าๆ แต่มาแน่ๆ ดังนั้นพวกธุรกิจที่เห็นโอกาสก็ไปจับจองพื้นที่กันล่วงหน้าแล้ว แต่ที่โหดกว่านั้น ก็คือช่วงโควิดที่ผ่านมา มันดูจะพิสูจน์ความโหดอีกอย่างของตลาดสินค้าสัตว์เลี้ยง เพราะในขณะที่ภาคธุรกิจจำนวนมากซบเซาช่วงโควิด ยอดขายสินค้าสัตว์เลี้ยงกลับทะยานขึ้น และนี่คือข่าวตื่นเต้นช่วงโควิดของอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในระดับโลกเลยเลย
.
ซึ่งก็อย่างที่บอก จากตัวเลขการเติบโตของสัตว์เลี้ยง เราจะเห็นว่าอะไรพวกนี้มันเพิ่งเริ่มเท่านั้น ประชากรของสัตว์เลี้ยงน่าจะขยายอีกในเวลาอันใกล้ และนี่เป็นตลาดที่มีศักยภาพจะเติบโตมากๆ ในช่วง 10-20 ปีข้างหน้า ซึ่งในตอนนั้นตลาดมันจะใหญ่กว่านี้แน่ๆ และพื้นที่ของสัตว์เลี้ยงมันจะขยายไปอาณาบริเวณอื่นๆ ด้วย ดังเช่นถ้าย้อนไปสัก 10 ปีที่แล้ว เราจะแทบหาคอนโดและห้างสรรพสินค้าใน กทม. ที่เอาสัตว์เลี้ยงเข้าไปไม่ได้เลย แต่ตัดมาทุกวันนี้ เราจะพบว่าห้างสรรพสินค้าใน กทม. จำนวนมากก็เริ่มให้เอาสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้แบบไม่ต้องหลบซ่อนแล้ว และโครงการคอนโดอีกจำนวนหนึ่งก็เริ่มสร้างมาตอบสนองคนเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะ
.
และก็บอกเลยว่าอะไรพวกนี้ต้องคุยกันยาวๆ เลยเพราะมันอาจต้องลามพูดถึงการอาจต้อง “ออกแบบเมือง” ใหม่ให้เป็นมิตรกับคนเลี้ยงสัตว์ขึ้นกว่าตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบสวนสาธารณะให้มีโซนสำหรับสัตว์เลี้ยงกันเป็นมาตรฐาน ไปจนถึงการให้สิทธิ์สัตว์เลี้ยงสามารถขึ้น BTS และ MRT ได้แบบในต่างประเทศหลายๆ ประเทศ
เขียนโดย : อนาธิป จักรกลานุวัตร
•
สามารถติดตามความเคลื่อนไหว connect the dots ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/th.connectthedots
YouTube : www.youtube.com/@th.connectthedots
และทาง Spotify Podcast : connectthedotsth
#Connectthedots
•
ที่มา
https://www.frontiersin.org/…/fvets.2021.790701/full
https://data.go.th/th/dataset/os_01010401_0101
https://apps.fas.usda.gov/newgainapi/api/Report/DownloadReportByFileName?fileName=Thailand%27s%20Pet%20Food%20Market%20_Bangkok_Thailand_08-31-2021#:~:text=According%20to%20the%20Thai%20Pet,other%20pets%20(15%25.)
https://www.forbes.com/…/pet…/pet-ownership-statistics/
https://www.petfoodindustry.com/…/10831-pet-food-market…