CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ใช้เพลงประกอบฯ ปลุกกระแสหนังไม้เด็ดสตูดิโอดังที่ช่วยดันหนังตั้งแค่ GTH ถึง GDH
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Business > ใช้เพลงประกอบฯ ปลุกกระแสหนังไม้เด็ดสตูดิโอดังที่ช่วยดันหนังตั้งแค่ GTH ถึง GDH
Business

ใช้เพลงประกอบฯ ปลุกกระแสหนังไม้เด็ดสตูดิโอดังที่ช่วยดันหนังตั้งแค่ GTH ถึง GDH

thuck@connectthedotsth.com
Last updated: 2024/03/12 at 11:53 AM
[email protected] Published November 3, 2023
Share

หากพูดถึงภาพยนตร์ไทย เชื่อว่าหลายคนก็มักจะนึกถึงค่ายหนังดังอย่าง GDH อย่างแน่นอน

เพราะนอกจากจะเป็นค่ายหนังที่ขยันสร้างสรรค์ภาพยนตร์คุณภาพมาเสิร์ฟสายตาผู้ชมอยู่ทุกปี ปีละหลายเรื่องแล้ว แต่ละเรื่องที่ทำออกมาก็ถูกจริตคนไทยเสียเหลือเกิน จนทำรายได้เป็นกอบเป็นกำ ขึ้นแท่นทะลุ 100 ล้านไปหลายเรื่อง และเป็นหนังโปรดในดวงใจของใครหลายคน
แต่สิ่งที่ผลักดันให้หนังของค่ายตราตรึงใจผู้ชมได้อาจไม่ใช่แค่ตัวหนังเท่านั้น สำหรับ GDH แล้ว หนึ่งเครื่องมือสำคัญที่ผลักดันให้ภาพยนตร์คือ เพลง

แน่นอนอยู่แล้วว่าเพลงกับหนังเป็นของคู่กันมาช้านานที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะฝั่งหนังที่ถ้าขาดเพลงไปคงจืดมาก ๆ แล้วในยุคนี้

ไม่ใช่แค่กับเพลงประกอบฉากเท่านั้น แต่หมายถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ที่ทุกเรื่องต้องมี เพราะนอกจากจะเพิ่มอรรถรสในการชมให้คนอินกับเนื้อเรื่องมากขึ้นแล้ว ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการโปรโมต ฝังภาพจำ หรือพูดให้ถูกก็ “เสียงจำ” ที่จะติดหูผู้ชมตั้งแต่ก่อนไปดูจนหลังดูเสร็จก็จะยังนึกถึงภาพยนตร์ผ่านบทเพลงนั้น ๆ ได้ไปอีกสักระยะหนึ่ง

ซึ่งนี่แหละคือเครื่องมือสำคัญที่ GDH ใช้ และที่สำคัญคือเป็นจุดแข็งเหนือค่ายหนังส่วนใหญ่ในไทยด้วย

นั่นก็เพราะว่า GDH มีพาร์ตเนอร์สำคัญเป็นค่ายเพลงอันดับหนึ่งของไทยอย่าง จีเอ็มเอ็ม แกรมมี (GMM Grammy)

แรกเริ่มเดิมทีตั้งแต่ยังใช้ชื่อเก่าอย่าง GTH เป็นตัวอักษรย่อมาจากความร่วมมือกันระหว่าง 3 บริษัทใหญ่ คือ จีเอ็มเอ็ม พิคเจอร์ (GMM Pictures), ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (Tai Entertainment) และ หับ โห้ หิ้น บางกอก (Hub Ho Hin Bangkok) ร่วมกันเปิดค่ายหนัง

ก่อตั้งในปี 2546 และประสบความสำเร็จอย่างมาก สร้างภาพยนตร์ที่ตราตรึงใจคนดูอย่าง Season Change หรือ เพื่อนสนิท และยังมีหนังหลักร้อยล้านหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น กวน มึน โฮ, รถไฟฟ้า มาหานะเธอ, ไอ ฟาย แต๊งกิ้ว เลิฟยู รวมถึงภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกอย่าง พี่มากพระขโนง ด้วย

จนในเวลาต่อมาเหล่าพาร์ตเนอร์มีความเห็นไม่สอดคล้องกัน ทาง ไท เอ็นเตอร์เทนเมนต์ต้องการนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์เพื่อพัฒนาโปรเจ็กต์ที่ใหญ่ขึ้น

แต่อีกสองเจ้าไม่เห็นด้วย คิดว่ายังไม่พร้อมและอาจส่งผลต่อคุณภาพผลงาน จึงได้ตัดสินใจแยกตัวออกมา จาก GMM กับ หับ โห้ หิ้น ร่วมกันเปิดบริษัทใหม่ภายใต้ชื่อ GDH 599 ย่อมาจาก Gross Domestic Happiness หรือ ความสุขประชาชาติ และยังมุ่งมั่นสร้างภาพยนตร์ที่คุณภาพรายได้ไม่ตกมากมาย เช่น น้องพี่ที่รัก, ฉลาดเกมส์โกง, One for the Road, Friend Zone

การที่เคยมีและยังมี GMM เป็นหุ้นส่วน ให้ข้อได้เปรียบสำคัญแก่ GDH คือสามารถใช้ศักยภาพและความสามารถของ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี สร้างสรรค์เพลงประกอบภาพยนตร์ที่ออกมากี่เรื่อง ก็มีเพลงติดหูชวนให้นึกถึงหนังเรื่องนั้นอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็น
ช่างไม่รู้ OST. เพื่อนสนิท
ยินดีที่ไม่รู้จัก OST. กวน มึน โฮ
โปรดส่งใครมารัก OST. รถไฟฟ้า มาหานะเธอ
คิดมาก OST. Friend Zone
ฯลฯ
จึงไม่แปลกเลยที่นอกจากหนังจะแน่นด้วยคุณภาพแล้ว เพลงประกอบก็ดีอยู่ตลอด

ซึ่งวิธีการโปรโมตของ GDH ก็เคยมีสูตรสำเร็จที่พอจะแกะได้อยู่บ้างจากการโปรโมตหลาย ๆ เรื่อง

อย่างการโปรโมต “แฟนเดย์”เริ่มแรกจะมีการประกาศสร้างภาพยนตร์ในแต่ละปี ว่าช่วงนี้จะทำหนังอะไรบ้าง ให้พอได้ลุ้นกันคร่าว ๆ และพอถึงช่วงการโปรโมต ก็จะเริ่มปล่อยภาพนิ่ง พร้อมเรื่องย่อเล็กน้อยให้พอรู้ว่าหนังเกี่ยวกับอะไร หลังจากนั้นก็จะมีการปล่อย MV เพลงประกอบตามมาในระยะเวลาห่างกันไม่นานนัก

ในบางเรื่องก็เว้นระยะเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง และเป็นเหมือนการเรียกกระแสตูมใหญ่ด้วยการอัดข้อมูล และองค์ประกอบต่าง ๆ ของการโปรโมตให้ผู้ชมแบบต่อเนื่องในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งก็ถูกนำมาใช้ในหลายเรื่องแม้จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ด้วยการเพิ่มคอนเทนต์ต่าง ๆ เข้าไป และระยะเวลาที่ปล่อย

อย่างในเคสของ One for the Road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ แม้ส่วนหนึ่งจะรู้จักกับตัวหนังมาบ้างแล้ว เพราะถูกนำไปประกวดที่ Sundance Film Festival 2021 และสามารถคว้ารางวัล World Dramatic Special Jury Award มาได้

ทางค่ายได้ใช้การโปรโมตรูปแบบเดิม โดยยังมีเพลงเป็นองค์ประกอบสำคัญเช่นเคย แต่ความพิเศษคือ ทำ 2 รอบ รอบแรกโปรโมตด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก่อน เพลง “Nobody Knows”

ส่วนอีกรอบโปรโมตตอนใกล้ฉายด้วยเวอร์ชั่นภาษาไทย เพลง “ถ้าเธอ” เหมือนเป็นการย้ำกระแสไม่ให้ตก เพราะตัวหนังเป็นที่รู้จักมาตั้งแต่ต้นปี 2021 แต่ได้ฉายจริงในไทยต้นปี 2022 เลย

แต่ในช่วงหลังมา สูตรการโปรโมตดังกล่าวเหมือนจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป GDH ปรับเปลี่ยนวิธีการใหม่ให้เข้ากับยุคสมัย ตามอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มและพฤติกรรมการเสพสื่อในปัจจุบัน

เช่น อย่างเรื่องล่าสุดที่กำลังเข้าฉาย “เพื่อน(ไม่)สนิท” ก็มีการประกาศไทม์ไลน์การโปรโมตอย่างชัดเจน และยังคงมีเพลงประกอบเป็นส่วนหนึ่ง

รวมถึงกิจกรรมประกวด MV และอีเวนต์มากมาย แต่ได้กระแสที่ค่อนข้างเงียบ เพราะช่วงโปรโมตดันไปชนกับครบรอบ 20 ปี “แฟนฉัน” พอดี ทำให้กระแสตีกัน และหนังเก่าในดวงใจผู้ชมก็เป็นฝ่ายชนะแบบขาดลอย

แต่ถึงอย่างนั้น เพลง เพื่อน(ไม่)สนิท ก็ทำให้เห็นว่า GDH ยังทุ่มทุนทุ่มเทกับเพลงประกอบเหมือนเคย

ด้วยการนำศิลปินจากหลากหลายวงดังรุ่นใหม่ของไทยมารวมตัวกัน ทั้ง อ๊ะอาย 4EVE, พิมมา PiXXiE, แทด ATLAS, กีตาร์ NEW COUNTRY, อาโป 789TRAINEE, และ ฮาย Paper Planes ทั้งยังจัดประกวด MV เพลงนี้ให้คนเข้ามามีส่วนร่วมกับเพลงและหนังมากขึ้น

แต่ก็ใช่ว่าเล่นท่านี้จะไม่มีคู่แข่งเลย GDH ก็ไม่ใช่เจ้าเดียวที่ใช้เพลงเป็นเครื่องมือสำคัญในการโปรโมตหนัง เพราะอีกค่ายหนึ่งที่ตึงเรื่องนี้ไม่แพ้กันคือ ไทบ้าน สตูดิโอ ผู้สร้าง “จักรวาลไทบ้าน” ที่มีภาพยนตร์เรื่องล่าสุดอย่าง “สัปเหร่อ” ที่ตอนนี้รายได้ทะลุ 500 ล้านบาทไปแล้ว

ซึ่งไทบ้าน สตูดิโอ เป็นเจ้าของค่ายเพลงอีสาน เซิ้ง มิวสิค ด้วย นั่นทำให้ไทบ้านมีศักยภาพสูงพอที่จะเอาเพลงมาใช้เป็นเครื่องมือหลักในการโปรโมตหนังของตัวเองเช่นกัน

ไทบ้านใช้วิธีที่แตกต่างจากเพลงประกอบหนังทั่วไป และเรียกได้ว่าโดดเด่นใช่เล่น เพราะแทนที่จะเอาฉากจากในหนังมาตัดใส่ใน MV เพลง เพื่อสร้างบรรยากาศให้คนอยากไปดู หรือยังอบอวลด้วยอารมณ์จากหนัง ไทบ้านเลือกที่จะนำเรื่องราวบางส่วนที่ไม่ได้ถูกเล่าในหนังมาเล่าใน MV แทน ทำให้ผู้ชมเข้าถึงเรื่องราวส่วนเสริมได้มากขึ้นจากเพลง และไม่ใช่แค่ทำให้รู้สึกเข้าถึงอารมณ์แต่ถ้าอยากรู้เรื่องราวเพิ่มเติม ก็ต้องมาฟังเพลง มาดู MV ด้วย

ส่งผลให้เกิดการดึงดูดผู้ชมจากทั้งสองทาง ทั้งคนที่ฟังเพลง ดู MV แล้วชอบ อยากรู้เรื่องเต็ม ก็ต้องไปดูหนัง ส่วนคนที่ดูหนังมาแล้วอยากรู้เรื่องเพิ่มเติม ก็ต้องไปดู MV นับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดมากเลยทีเดียว

นี่สะท้อนให้เห็นว่าความเป็นที่หนึ่งของ GDH ก็สั่นสะเทือนได้ แม้ว่าไทบ้านเองจะไม่ได้มีตลาดที่กว้างเหมือน GDH แต่การที่ค่ายเล็ก ๆ อย่างไทบ้านสามารถเติบโตอย่างรวดเร็วด้วยวิธีการที่คล้ายคลึงกัน แต่สร้างผลตอบรับที่ดีกว่าได้ ก็หมายถึงค่ายเพลงค่ายหนังอื่น ๆ อาจพัฒนาขึ้นมาแข่งขันได้ดีไม่แพ้กัน และอาจสะท้อนถึงความไม่พอดีบางอย่างของวิธีการที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะตัวหนังเอง หรือวิธีการโปรโมต แต่ GDH ยังจะต้องปรับตัวอยู่เรื่อย ๆ และไม่ประมาทกับการเป็นที่หนึ่ง เพราะถ้าวันหนึ่งผู้ชมไม่ตอบรับกับกลยุทธ์เดิม ๆ อีกต่อไป ก็อาจต้องเตรียมตัวหาวิธีการใหม่ ๆ มาใช้เพื่อให้ยังเติบโตได้ในอุสาหกรรมนี้

https://www.longtunman.com/6308
https://www.facebook.com/gdh559
https://www.instagram.com/gdh559/?hl=en
https://www.serngmusic.co.th/%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%a1…/

You Might Also Like

เอพี ไทยแลนด์ โชว์ผลประกอบการ Q1/68 ยอดขายพุ่งทะลุ 12,110 ล้าน ย้ำศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง

SET – Nasdaq ลงนาม MOU เสริมศักยภาพตลาดทุนไทยด้วยเทคโนโลยี

การบินไทยเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 สะท้อนการเติบโตต่อเนื่อง เตรียมออกจากแผนฟื้นฟู พร้อมกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์

ก.ล.ต. นับ 1 ไฟลิ่ง MASTEC พร้อมขาย IPO 79 ล้านหุ้น เข้าตลาด SET

TAGGED: Business, connectthedots, ctd, Entertainment, GDH, GTH, Movie, Music

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
[email protected] November 3, 2023
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article ทำไมร้านนี้มีแต่ Pepsi ไม่มี Coca-Cola? Yum Brands เครือ Fast Food ที่ใหญ่ที่สุดในโลก กำเนิดจากสงครามน้ำอัดลม
Next Article “ตลาดแรงงานสูงวัย” เมื่อคนแก่เยอะ คนทำงานน้อย ญี่ปุ่นเขาทำยังไง?
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?