ปีสองปีมานี้นับว่าเป็นช่วงที่วงการรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV โตเร็วมาก ๆ ยอดจองยอดจดทะเบียนโตหลายเท่าตัว สถานีชาร์จมากขึ้น และมีประกันที่ครอบคลุม จนมี EV วิ่งบนท้องถนนให้เห็นกันเป็นเรื่องปกติ
ล่าสุด อาจารย์ ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ก็ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าตัวเองใช้รถยนต์ไฟฟ้ามา 6 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2559 ไม่ได้ซื้อแต่เลือกใช้บริการ “เช่า” เพราะแม้จะมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนไม่ต่างจากราคาผ่อนเลย แต่การเช่าเปิดโอกาสให้เขาได้ใช้รถ EV รุ่นที่แตกต่างกันในแต่ละปี จนถึงตอนนี้ใช้มา 5 คันแล้ว โดยอาจารย์ได้แนะนำไว้ว่าเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ยังลังเลใจเรื่องแบตเตอรี่ หรือยังอยากจะรอให้รถไฟฟ้าพัฒนาอีกหน่อย เลยยังไม่อยากซื้อ ให้เช่าใช้ไปก่อน แต่ก็บอกว่าถ้าวันหนึ่งเจอรถที่ถูกใจก็อาจจะซื้อ
ซึ่งนี่อาจเป็นบริการที่ใครหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีอยู่ หรือ ไม่ได้สนใจ เพราะอาจมองว่าถ้าจะใช้รถทั้งที มีเป็นของตัวเองสบายใจกว่า ลองมารู้จักธุรกิจนี้ขึ้นอีกสักนิดเผื่อความคิดคุณจะเปลี่ยนไป
ธุรกิจเช่ารถ EV ก็ไม่ได้ต่างจากเช่ารถยนต์ทั่วไปนัก ต่างกันแค่ตัวรถนั่นแหละครับ ซึ่งก็มีมาหลายปีตั้งแต่ยุคที่รถไฟฟ้ายังไม่เป็นกระแสในไทย แต่เมื่อปีก่อนที่รถไฟฟ้าเริ่มเข้ามาตีตลาดจริงจัง ธุรกิจเช่ารถ EV ก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นด้วย
ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลากหลายเจ้า ที่ดัง ๆ ก็มี EVme, SIXT,Hertz และ HUAUP โดยสามารถเลือกเช่าผ่านแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ของพวกเขาได้เลย เลือกเช่าได้ตั้งแต่ 1 ชั่วโมง 1 วัน ยัน 1 ปี และเรนจ์ราคาหลากหลาย หาได้ตั้งแต่หลัก ร้อย พัน หมื่น เลือกให้ไปส่ง หรือเข้าไปรับรถได้ตามสะดวกอีกด้วย
เอาล่ะ รู้แล้วว่าอยู่มานาน แปลว่ามันก็น่าจะเปิดโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์คนใช้รถได้ประมาณหนึ่ง แต่คำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้คือ เช่ารถ EV เนี่ยมันคุ้มไหม จะเหมาะกับเราหรือเปล่า เป็นไปตามที่อาจารย์ปริญญาว่าไว้ไหม เดี๋ยวลองวิเคราะห์แบบง่าย ๆ ดูครับ
จากที่ได้ลองเทียบราคาในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ราคาให้เช่ารถไฟฟ้าจะเริ่มต้นที่วันละราว ๆ 2,000 กว่าบาท ไปจนถึงหมื่นกว่าบาท หรือสูงกว่านั้นตามรุ่นรถ ซึ่งจ่ายจริงก็อาจจะมีค่ามัดจำอีก มากน้อยแล้วแต่ผู้ให้บริการ แต่ถ้าเป็นรายปีจะคุ้มกว่ามาก เริ่มต้นราวเดือนละ 25,000 บาท และสูงได้ถึงหลักแสน
ซึ่งในราคาเริ่มต้นนี้ก็พอ ๆ กับราคาผ่อนรถยนต์ EV ราคาแสนปลาย ๆ ถึงล้านต้น ๆ ด้วยเงินดาวน์ขั้นต่ำซึ่งรวมประกันและค่าบำรุงรักษาแล้ว โดยผ่อนราคานี้จะใช้เวลาประมาณ 4 ปีในการปิดยอดและเป็นเจ้าของรถ
แปลว่าในเวลา 4 ปีที่จ่ายไปพอ ๆ กัน หากเลือกผ่อนเราก็จะมีรถเป็นของตัวเองได้สำเร็จ และพูดถึงอายุการใช้งานแล้ว แบตเตอรี่ของรถ EV จะได้รับการรับประกันอยู่ที่ 8 ปีโดยทั่วไป เขาจึงถือว่านั่นเป็นอายุการใช้งานคร่าว ๆ (แต่จริง ๆ ใช้ได้นานกว่านั้น เพียงแต่แบตเตอรี่จะเสื่อมลงเป็นปกติ) หมายความว่าใช้ต่ออีก 4 ปีโดยที่เราจ่ายแค่ค่าบำรุง+ประกัน และค่าไฟเท่านั้น
ถ้าเป็นแบบเช่า คิดตามการใช้งาน 8 ปี เราจะยังต้องจ่ายค่าเช่าต่อไปอีก ทำให้โดยรวมแล้วจะต้องจ่ายเงินมากกว่าการผ่อนอีกเกือบเท่าตัว นั่นหมายความว่า เทียบกันในอายุการใช้งาน 8 ปี การเช่าใช้ยังไงก็มีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
เพราะฉะนั้น ถ้าความคุ้มค่าของคุณมีเงินเป็นที่ตั้งและตัวแปรสำคัญ คุณได้ลองพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและมั่นใจแล้วว่ายังไงนี่ก็จะเป็นรถที่ฉันจะขับไปอีก 8 ปี การผ่อนจะคุ้มกว่าสำหรับคุณแน่นอน
แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าจะบอกว่าเช่ารถ EV มันไม่คุ้ม เพราะ “เงิน” อาจไม่ใช่ปัจจัยหลักในความคุ้มค่าของทุกคน การเช่ารถ EV มันมีข้อดีที่คุณหาไม่ได้จากการเลือกผ่อน นั่นคือการที่คุณสามารถเลือกขับได้หลากหลายรุ่น ในตลอดระยะเวลา 8 ปี คุณอาจเปลี่ยนรุ่นทุกปีเลยก็ได้ หรือถ้าอยากจะถี่กว่านั้น เป็นคนเบื่อง่าย ก็เช่าแบบรายเดือนและเปลี่ยนมันทุกเดือนไปเลย (แต่ก็แพงกว่านะ)
ซึ่งถ้าคุณผ่อนคุณก็จะต้องติดอยู่กับเจ้าหนูคันเก่งของคุณไปยาว ๆ และบางทีกว่าจะรู้ว่ามันไม่เหมาะกับเราก็ตอนที่ใช้ไปหลายเดือน หรือเป็นปีแล้ว ครั้นจะไปปล่อยมือสอง เอาเงินไปดาวน์คันใหม่ ก็เสียมูลค่าไปเยอะ และถ้าใช้ไปหลายเดือน-ปี ราคาอาจตกไป 30-50% เลย (แม้แบตเตอรี่จะยังอยู่ในการรับประกันก็ตาม) และตามที่ผู้เชี่ยวชาญหรือสื่อต่าง ๆ คาดการณ์ ตลาดรถ EV มือสอง คงไม่รุ่ง หรืออาจไม่สามารถมีอยู่เลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น นอกจากได้เปลี่ยนรถบ่อยแล้ว การเช่าจึงเป็นอีกทางเลือก เหมือนการ Test Drive ยาว ๆ ให้คุณทำความรู้จักรถแต่ละรุ่นมากขึ้นก่อนตัดสินใจซื้อไปอยู่ยาว โดยเฉพาะในช่วงการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี ที่บางทีคุณอาจยังไม่มั่นใจว่าอีกปีสองปี จะมีแบตที่คุณภาพดีกว่านี้หรือเปล่า ระหว่างนี้ เช่าไปก่อนก็ถือว่าคุ้ม
อีกปัจจัยที่ทำให้การเช่า EV คุ้มกว่าสำหรับบางคนก็คือ ไม่ได้ใช้รถบ่อย เช่น ปกติอยู่คอนโดกลางเมือง หรือเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเป็นหลัก ใช้รถแค่บางวันที่ออกไปเที่ยวกับแฟน กับครอบครัว หรือขับไปต่างจังหวัดใกล้ ๆ การเช่ารถ EV มาใช้ก็ทำให้คุณประหยัดเงินซื้อรถมาจอดแช่เพื่อใช้แค่ไม่กี่ครั้ง และใช้ทั้งทีก็ไม่ต้องเจอค่าน้ำมันโหด ๆ เพราะโดยทั่วไปแล้วรถ EV ประหยัดกว่ารถน้ำมันราว 3 เท่าตัวเลย (และอาจมากกว่านั้นตามแต่ละรุ่น)
และความสะดวกสบายอีกอย่างของการเช่ารถ EV คือ อย่างของ EVme เขาก็จะรวมค่าพ.ร.บ. บริการช่วยเหลือฉุกเฉินต่าง ๆ รวมถึงประกันชั้น 1 เอาไว้แล้ว ไม่ต่างจากรถที่เราเป็นเจ้าของเอง เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขณะขับขี่ก็สบายใจได้
นี่จึงทำให้โดยรวมแล้ว การเช่ารถ EV ใช้ ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่พอจะจ่ายไหว เพราะแม้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า แต่ใช้งานได้หลากหลาย สะดวก และไม่เป็นภาระผูกมัดระยะยาวด้วย
อย่างไรก็ตามในปีนี้คาดว่าตลาด EV จะยังคงเติบโตและคึกคักมากขึ้นอีก เนื่องจากโรงงานผลิตหลายแห่งในไทยมีความคืบหน้าเร็วมาก อาจเริ่มผลิตได้ภายในปีนี้ และหลายฝ่ายยังร่วมพัฒนา Ecosystem สำหรับรถ EV อย่างต่อเนื่อง คนทั่วไปน่าจะหันมาใช้ EV มากขึ้นอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเช่า หรือ ซื้อ
และถ้าคุณกำลังเตรียมตัวเข้าสู่วงการ EV หรือเข้ามาแล้วล่ะก็ ลองบอกกันหน่อยครับ ว่าคุณเลือก เช่าขับก่อน หรือ ซื้อเลยดี