เมื่อมองย้อนกลับไป…เราก็ตกอยู่ในวิกฤติ Covid-19 มาปีกว่าๆแล้ว ซึ่งวิกฤตินี้ก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจโลกอย่างมาก ทำให้ความผันผวนของตลาดหุ้น ตลาด FX และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆมีสูงมาก บทความนี้จะพาไปส่องกลยุทธ์ฝ่า Covid-19 ของ 3 นักลงทุนแนวหน้าของไทย
1.ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร หรือ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เมืองไทย
ผู้เผยแพร่แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (VI) คนแรกของประเทศ โดยมีสไตล์การลงทุนระยะยาว เน้นหุ้น Defensive ราคาถูก ให้ปันผลสูง 5%-6% ต่อเนื่องทุกปี โดยดูคุณภาพของกิจการ การเติบโตที่ต่อเนื่อง โอกาสถูก Disrupt ของธุรกิจ และราคาที่เหมาะสม นอกจากนั้น ดร. นิเวศน์ มีแนวทางรับมือ Covid-19 ดังนี้
1.1 “ไม่ทำอะไร” เมื่อตลาดแตกตื่น
ไม่ซื้อ และไม่ขาย เวลาที่ตลาดกำลังขึ้นหรือตกแรงๆ เขายังกล่าวอีกว่า “เราเป็นนักลงทุน นัก ลงทุนเนี่ย เราซื้อแบบใจเย็น เราจะไม่ไปซื้อในช่วงแพนิค หรือขายในช่วงแพนิค”
1.2 ไม่เอาความกลัว “ตกรถ” มาบีบบังคับให้รีบตัดสินใจ
ควรวิเคราะห์ธุรกิจมาอย่างรอบคอบและติดตามมาพอสมควรแล้ว และซื้อเมื่อถึงเวลา เพราะ เห็นว่าราคาหุ้นกับผลตอบแทนสมเหตุสมผลแล้วเท่านั้น
1.3 เลือกหุ้น “ไม่เจ๊ง” ก่อนวิกฤตจบ
ดร. นิเวศน์ลงทุนในหุ้นที่สถานะทางการเงินแข็งแกร่ง มีวี่แววผ่านวิกฤตไปได้ และธุรกิจน่าจะ กลับมาได้เท่าเดิมหรือดีกว่าเดิม มีผู้บริหารที่มีฝีมือ เคยผ่านวิกฤติมาได้หลายครั้งแต่ก็ยัง รับมือได้ดี
1.4 กระจายความเสี่ยงถือหุ้นหลายตัว
การกระจายความเสี่ยงถือหุ้นหลายๆ ตัวเป็นเรื่องจำเป็น เพราะช่วงภาวะวิกฤติ จะมีโอกาสผิด พลาดสูงกว่าปกติ
1.5 เด็ดเดี่ยว มั่นคงในการตัดสินใจ
สิ่งสำคัญที่ชี้ชะตาว่าคุณจะเป็นนักลงทุนธรรมดา หรือนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ก็คือการ ตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยว และความมั่นคงในแนวทาง ไม่วอกแวกตามสถานการณ์
2.โจ ลูกอีสาน หรือ อนุรักษ์ บุญแสวง
นักลงทุนคนนี้มีดีกรีเป็นอดีตนายกสมาคมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ประเทศไทย มีสไตล์การลงทุน
สาย VI ผู้เดินตามแนวทฤษฎี “กำไรทบต้น” สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่ 8 ของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เน้นลงทุนหุ้นขนาดเล็กในตลาดหลักทรัพย์ mai ในราคาต่ำกว่ามูลค่า พร้อมบริหารความเสี่ยงให้ต่ำที่สุด เช่น กระจายความเสี่ยงด้วยการซื้อหุ้นหลายๆ ตัว ไม่ใช้มาร์จิ้นในการลงทุน และวิเคราะห์หาความเสี่ยงของบริษัท ซึ่งเป็นอีกสิ่งสำคัญรองจากโมเดลธุรกิจ มีแนวทางรับมือ Covid-19 ดังนี้
2.1 สถานการณ์เคลียร์หน่อยค่อยลง
ไม่ควรทุ่มซื้อหุ้นแบบเต็มที่ในวิกฤตินี้ แต่เมื่อเห็นภาพชัดเจนขึ้นแล้ว หรือสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว ค่อยซื้อก็ไม่สายเกินไป
2.2 เก็บเงินสด 5-10% รอจังหวะช้อน
ปกติคุณโจจะลงทุนในหุ้น 100% แต่ตอนนี้ถ้ามีโอกาสก็จะเก็บเงินสดบ้างสัก 5%-10%
2.3 เล่นหุ้นใหญ่ตามกองทุน
เนื่องจากโครงสร้างนักลงทุนรายย่อยระยะหลังเริ่มลดลง ทำให้หุ้นขนาดเล็กลงนาน เราอาจ ลองปรับกลยุทธ์จากหุ้นเล็กเป็นหุ้นใหญ่ ทั้งนี้ต้องใช้พื้นฐานในการวิเคราะห์ เลือกหุ้นที่ไม่แพง และเป็นธุรกิจที่มั่นคง
2.4 มองอนาคตบริษัทให้ทะลุ
นี่เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับคนที่ต้องการลงทุนช่วงวิกฤตนี้ คือต้องมองระยะยาว และคาดการณ์ ผลตอบแทนบริษัทที่ลงทุนให้ได้ว่าอนาคตจะไปในทิศทางไหน
3. วิชัย วชิรพงษ์ หรือ เสี่ยยักษ์
นักลงทุนรายใหญ่เจ้าของพอร์ต 4 พันล้าน คร่ำหวอดในตลาดหุ้นไทยมากว่า 30 ปี มีสไตล์การลงทุนระยะกลาง-ยาว แบบเน้นคุณค่าผสมเทคนิคในหุ้นแนว turnaround หรือ “หุ้นที่ไม่มีใครคิดว่าจะดี” เขาเลือกลงทุนโดยดูพื้นฐานธุรกิจก่อน ต้องเป็นธุรกิจที่ตนเองคุ้นเคยเข้าใจ มีโอกาสเติบโตสูง และผู้บริหารต้องดี จากนั้นจึงใช้กราฟเทคนิคดูจุดซื้อขาย ซื้อ ณ จุดต่ำสุดที่ราคาไม่น่าร่วงไปมากกว่านั้นเยอะ แล้วถือรอจนกว่าจะเติบโตถึงเป้าหมาย ซึ่งแนวทางรับมือ Covid-19 มีดังนี้
3.1 มองภาพใหญ่ก่อน
โดยวิเคราะห์เศรษฐกิจโดยรวมเพื่อหาคำตอบว่าช่วงเวลานี้เหมาะกับการลงทุนหรือไม่
3.2 เลียนแบบคนที่จินตนาการแล้วชนะ
การเลียนแบบในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าใครซื้ออะไรก็ซื้อตาม แต่เป็นการสังเกตนักลงทุนที่ ประสบความสำเร็จเป็นตัวอย่าง ย่อยกระบวนการคิดวิเคราะห์ของนักลงทุนเหล่านั้นออกมา แจกแจงเป็นหลักการที่ ชัดเจน แล้วจึงนำไปปฏิบัติตาม
3.3 อย่าลืมความฝันและเป้าหมาย
ความรู้เรื่องหุ้นมีเยอะแยะมากมายไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ แต่สุดท้ายผลตอบแทนจะเป็นอย่างไรขึ้น อยู่กับการนำความรู้เหล่านั้นไปใช้ หมั่นถามตัวเองว่าสิ่งที่คุณตัดสินใจทำ หรือจะทำ มันจะช่วย ให้คุณไปถึงฝั่งฝันได้หรือไม่
3.4 เลือกซื้อหุ้นที่ผลกระทบน้อย
ช่วงวิกฤตแบบนี้มีหุ้น P/E ต่ำเพียง 5 เท่า ซึ่งหมายถึงกำไรเป็นขาขึ้น หรือสามารถรักษา ระดับกำไรไว้ได้ ทำให้หุ้นตัวนั้นๆ มีราคาที่ถูกสำหรับการลงทุน
3.5 เลือกบริษัทที่ผู้บริหารใจซื่อมือสะอาด
ผู้บริหารสำคัญที่สุด ต้องพูดจริงทำจริง ใช้จ่ายอย่างประหยัด บริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ มีผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์สม่ำเสมอ ไม่ใช่มีแต่คารมวาดฝันสวยหรูให้นักลงทุนหลงเชื่อ
อย่างไรก็ตาม แนวทางรับมือนี้ไม่เพียงแต่เอาไปใช้ได้แค่วิกฤติ Covid-19 เท่านั้น เพราะสามารถนำไปปรับใช้ในกรณีทางเศรษฐกิจอื่นๆได้ แต่ที่สำคัญนักลงทุนต้องไม่โลภ ศึกษาข้อมูลการลงทุนให้ดี และวางแผนกลยุทธ์การลงทุนพร้อมหาแนวทางจำกัดความเสี่ยงด้วย
หากสนใจเปิดพอร์ตตลาดหุ้นไทย
สำหรับนักลงทุนที่สนใจเปิดพอร์ตตลาดหุ้นไทยกับ KTBST ได้ ที่นี่ เพราะ KTBST มีค่าธรรมเนียมต่ำ เป็น “ สถาบันการเงิน ” ในประเทศไทยที่มีความโดดเด่นในการให้บริการลูกค้า นอกจากนั้นยังเป็นตัวช่วยให้ผู้ถือหุ้น “เติบโตอย่างยั่งยืน” และมีส่วนช่วยสังคมในการ “ พัฒนาตลาดทุน ”
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
#CISThai
Line Official: https://lin.ee/jO65rNq
Website: https://connectthedotsth.com/
FB Fanpage: https://www.facebook.com/CreativeInvestmentSpace