ปกติแล้ว…เมื่อนักลงทุนนึกถึงคำว่าการประเมินมูลค่าหุ้น ก็มักจะให้ความสำคัญในธุรกิจที่ดี มีความมั่นคงประมาณหนึ่ง และอนาคตสามารถคาดการณ์ได้ง่าย เพราะถ้าคาดการณ์ได้ นั่นก็หมายถึงการประเมินตัวเลขต่างๆ ได้ง่ายขึ้น หรืออาจจะช่วยทำกำไรให้กับการลงทุนได้
แต่จะมีหุ้นอยู่บางกลุ่มที่นักลงทุนในสายประเมินมูลค่าเมื่อ 20 ปีก่อนอาจไม่เลือกลงทุน เนื่องจากความยากในการเข้าใจและเข้าถึงของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี มันยากมากที่เราจะประเมินแนวโน้มของบริษัทที่ผลิตคอมพิวเตอร์ ไปประเมินมูลค่าหุ้น สู้เอาเงินไปลงทุนขายของกินน่าจะง่ายกว่าเยอะ
แต่มีนักลงทุนคนหนึ่ง คนที่กล้าที่จะซื้อหุ้นบริษัทเทคโนโลยีด้วยหลักการประเมินมูลค่าหุ้น คนๆ นั้นคือ อสวัถ ทาโมทรัน (Aswath Damodaran) และหุ้นที่เขาซื้อคือหุ้น Apple ตั้งแต่เมื่อ 20 ปีก่อน จนเขาทำเงินได้กว่า 120 เท่าจากหุ้นเพียงตัวเดียว
ชื่อของคุณ อสวัถ ทาโมทรัน (Aswath Damodaran) อาจไม่คุ้นสายตาของนักลงทุนไทยเท่าไหร่ แต่ใครที่ได้เรียนไฟแนนซ์หรือศึกษาเรื่องการประเมินมูลค่าหุ้นแบบเจาะลึกจะต้องรู้จักนักลงทุนคนนี้ เพราะเขาได้ชื่อว่าเป็นเทพพระเจ้าแห่งการประเมินมูลค่าก็ว่าได้
แน่นอนว่าแนวทางการลงทุนที่เขาใช้จะต้องเป็นการประเมินมูลค่าหุ้นแน่ๆ เพียงแต่ความไม่เหมือนใครของเขาก็คือ คุณอสวัถกล้าซื้อหุ้น Apple ตั้งแต่ปี 1997 หรือราวๆ 20 ปีก่อน ที่ว่าแปลกก็เพราะในตอนนั้น Apple ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนทุกวันนี้ iPhone หรือ iPod ยังไม่ได้ออกมาเป็นแนวคิดการพัฒนาเลยด้วยซ้ำ และถ้าใครที่ติดตามประวัติศาสตร์ของบริษัท Apple จะรู้ว่าช่วงนั้นบริษัทกำลังจะเจ๊งแหล่มิแหล่อยู่แล้ว
คำถามคือ ทำไมคุณอสวัถถึงกล้าลงทุนในหุ้น Apple และการประเมินมูลค่าหุ้นมันใช้กับบริษัทที่อนาคตลุ่มๆ ดอนๆ ได้ด้วยหรือ?
จริงๆแล้วในความคิดของคุณอสวัถ การประเมินมูลค่าหุ้นยังสามารถทำได้กับทั้งหุ้น IPO, หุ้นวัฎจักร, หุ้นเติบโต, หุ้นโตเต็มที่ หรือกระทั่งหุ้นของบริษัทที่กำลังจะเจ๊ง นั่นแปลว่าเราสามารถประเมินมูลค่าหุ้นได้เกือบทุกรูปแบบ อยู่ที่ว่าเรารู้และเข้าใจกิจการนั้นมากน้อยแค่ไหน
อย่างในกรณีหุ้น Apple อาจอยู่ในเคสของบริษัทที่กำลังจะเจ๊งก็ว่าได้ แต่ด้วยปัจจัยเชิงบวกหลายๆ อย่าง ทั้งการเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ หรือการได้ สตีฟ จ็อบส์ กลับมาบริหารบริษัทอีกครั้ง ที่สุดแล้วคุณอสวัถจึงตัดสินใจซื้อหุ้น Apple เมื่อปี 1997 ในราคาหุ้นละประมาณ 5 เหรียญ
และหลังจากนั้นก็อย่างที่เรารู้ Apple ก็ได้กลายเป็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกจนทุกคนเกือบลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเคยเกือบเจ๊ง ก่อนที่เขาจะขายหุ้น Apple ออกไปเมื่อปี 2012 ที่ราคาราวๆ 600 เหรียญ นับได้ว่านั่นคิดเป็นกำไรได้กว่า 120 เท่าหรือเป็นผลตอบแทนกว่าปีละ 37% เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้ราคาหุ้น Apple เพิ่มขึ้นมาอีกเกือบ 5 เท่า ถ้าคุณอสวัถเลือกที่จะถือหุ้นมาจนตอนนี้ เขาจะได้กำไรจากหุ้น Apple กว่า 540 เท่าเลยทีเดียว
แต่ถึงจะพูดอย่างนั้น เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝีมือในการเลือกหุ้น การมองอนาคต และความอดทนในการถือหุ้นนับสิบปี ก็ถือได้ว่าคุณอสวัถเป็นนักลงทุนที่ไม่ธรรมดา จริงอยู่ว่าเขาขายหมูตัวใหญ่ แต่อย่าลืมว่าคงมีไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าประเมินมูลค่าหุ้นในบริษัทที่คาดเดาอนาคตได้ยาก และยิ่งน้อยกว่านั้นไปอีกที่จะมีคนอดทนพอจนถือหุ้นได้นานขนาดนี้
ความกล้าและความอดทนที่ให้ผลตอบแทนอย่างงามกว่า 120 เท่า ด้วยการประเมินมูลค่าหุ้นในแบบของ อสวัถ ทาโมทรัน
หากสนใจลงทุนในหุ้นต่างประเทศ
นักลงทุนสามารถลงทุนในหุ้นต่างประเทศกับ eToro ได้ ที่นี่ เพราะ eToro เป็นโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือโดยได้รับความไว้วางใจภายใต้การกำกับของ FCA และ CySec และนักลงทุนสามารถมั่นใจได้ว่าเงินทุนของท่านได้รับการคุ้มครองด้วยโปรโตคอลความปลอดภัยชั้นนำของอุตสาหกรรมอย่างมั่นคงปลอดภัย นอกจากนั้นคุณจะได้รับความเป็นส่วนตัวระดับสูง เพราะ เราจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
#CISThai
Line Official: https://lin.ee/jO65rNq
Website: https://connectthedotsth.com/
FB Fanpage: https://www.facebook.com/CreativeInvestmentSpace