ช่วงต้นเดือนธันวาคม 2567 บริษัทจัดหาคู่ชั้นนำของไทย Bangkok Matching เผยผลสำรวจ ‘สรุปสถิติหาคู่ สเปคยอดนิยม ด้านการหาคู่ ออกเดท ประจำปี 2567/2024 ของหนุ่มโสด สาวโสดไทย’ ซึ่งมีความน่าสนใจตรงที่ผลสำรวจชี้ว่า “สเปคอาชีพยอดนิยมที่หญิงไทย 99% ชื่นชอบมากที่สุดยังคงเป็นอาชีพเจ้าของธุรกิจ” รองลงมาก็เป็นอาชีพที่มั่นคงและมีหน้าตาในสังคมอย่างแพทย์และข้าราชการระดับสูง ส่วนผู้ชาย “80% มักไม่เลือกอาชีพของหญิง แต่อาจมีระบุระดับรายได้ของหญิงไว้บ้าง เพื่อจะได้มั่นใจว่าหญิงมีการงานทำ เลี้ยงดูตนเองได้”
สื่อหลายสำนักจึงหยิบเอาประเด็นนี้ไปพาดหัวข่าวในทำนองว่า “หญิงไทย 99% ชอบเจ้าของธุรกิจ ชายไทยขอแค่ฝ่ายหญิงมีงานทำ” จนทำให้ชาวเน็ตโดยเฉพาะเพศชายแห่คอมเมนต์เสียดสีไปในทำนองว่า “ผู้หญิงไทยหน้าเงิน” หรือ “หวังเกาะผู้ชาย” กลายเป็นกระแสแง่ลบต่อสาวโสดไทยทั่วไปเสียอย่างนั้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลสำรวจชิ้นนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ชายหญิงโสดทั่วไปควรจะยึดมั่นหรือเก็บมาใส่ใจอะไรเลยด้วยซ้ำ…
เหตุผลก็คือ กลุ่มตัวอย่างที่ถูกเก็บรวบรวมข้อมูลในการสำรวจชิ้นนี้ อาจไม่ใช่ “คนส่วนใหญ่” อย่างที่หลายคนเข้าใจกัน เนื่องจากผลสำรวจนี้มาจากสถิติของบริษัทจัดหาคู่ ซึ่งให้บริการจัดหาคู่แบบจริงจัง ไม่ใช่แอปหาคู่ที่เข้าถึงได้ทั่วไป และในบทความเผยแพร่บนเว็บไซต์ของ Bangkok Matching ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกลุ่มตัวอย่างไว้เลยว่าเป็นใคร มาจากไหน จำนวนเท่าไร จึงทำให้มีความเป็นไปได้สูงว่าเป็นข้อมูลสถิติจากลูกค้าของบริษัทเอง
ถ้าถามว่า พอเป็นข้อมูลจากลูกค้าของ Bangkok Matching แล้วมันส่งผลของการสำรวจอย่างไร ก็ต้องบอกว่าลูกค้าของเขาไม่ใช่คนทั่วไป เพราะบริษัทนิยามตัวเองว่าเป็น “บริษัทจัดหาคู่ ระดับไฮเอนด์” ซึ่งหมายถึงบริษัทที่ให้บริการคุณภาพสูงและราคาก็สูงตาม แค่ฝากประวัติก็เริ่มที่ 9,900 บาทแล้ว
นั่นหมายความว่ากลุ่มลูกค้าก็จะต้องมีกำลังซื้อสูงด้วยเช่นกัน พูดกันง่าย ๆ คือ ลูกค้าเป็น “คนมีเงิน(เยอะ)” นั่นแหละ ซึ่งพวกเขาก็จะอยู่ในสังคมอีกรูปแบบที่ถูกแบ่งแยกได้ด้วยฐานะทางการเงินและสังคม และนั่นไม่ใช่สังคมที่คนส่วนใหญ่ในประเทศไทยอาศัยอยู่
เมื่อฐานะทางสังคมและการเงินแตกต่างกัน ความชอบและความคาดหวังย่อมแตกต่างกันเป็นธรรมดา นั่นทำให้ข้อมูลสเปคของคนกลุ่มนี้แตกต่างไปด้วย และถ้าจะมีความชอบและความคาดหวังที่สูงจนดู “เยอะ” สำหรับคนทั่วไปก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก
ถ้ามองด้วยตรรกะเป็นกลางว่า “คบกันต้องไม่เป็นภาระ” ผู้หญิงโสดที่มีหน้าที่การงานดี มีการเงินใช้เหลือเฟือ ก็คงต้องการคู่ที่การงานการเงินที่มั่นคงในระดับเดียวกัน เพื่อให้แน่ใจว่าไลฟ์สไตล์จะสามารถเข้ากันได้ ไม่ต้องเจอข้อจำกัดจากทั้งงานและเงินที่ต่างกันเกินไป
ส่วนผู้ชายในระดับนั้น แม้สเปคที่ตั้งไว้จะดูไม่สูงนัก แต่ก็ไม่ได้ต่ำเช่นกัน เพราะแม้ 80% จะไม่ได้สนเรื่องอาชีพ แต่ราว 60% ก็มีการตั้งระดับรายได้เอา โดยขั้นต่ำอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นบาท และที่สำคัญคือ 85% ยังต้องการคู่ที่มีการศึกษาสูงตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไป จะบอกว่าไม่เลือกเลยก็คงไม่ใช่เสียทีเดียว
อีกเรื่องก็คือคนที่จ่ายเงินเป็นหมื่นเพื่อใช้บริการหาคู่ก็คงไม่ได้มีสเปคง่าย ๆ แบบว่า “ใครก็ได้ ขอแค่จริงใจ” อยู่แล้ว นั่นจึงไม่แปลกที่จะมีการตั้งสเปคเอาไว้ระดับนี้
ดังนั้นการที่สเปคของชายหญิงส่วนใหญ่จากผลสำรวจชิ้นนี้ชอบคนที่มีหน้าที่การงานดี จึงไม่สามารถสะท้อนถึงสเปคของชายโสดและหญิงโสดส่วนใหญ่ในสังคมไทยได้ เพราะอาจเป็นข้อมูลจากลูกค้าของ Bangkok Matching ซึ่งเป็นคนกลุ่มเล็ก ๆ ที่มีฐานะการเงินดีกว่าคนส่วนใหญ่ ทำให้มีความชอบและความคาดหวังสูงกว่าเป็นปกติอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น เลิกดราม่า และหันมาตั้งใจอ่านอย่างมีสติ คิดวิเคราะห์ให้รอบคอบกันก่อนจะคอมเมนต์หรือตัดสินใครจะดีกว่า
ที่สำคัญก็คือ ไม่ว่าใครจะรวยกว่าจนกว่า หรือเป็นอย่างไร ก็อย่าลืมหันมาโฟกัสตัวเอง ทำการงานและการเงินของตัวเองให้มั่นคงเอาไว้ก่อน เพราะแม้สุดท้ายแล้วเงินจะซื้อความรักจากใครไม่ได้ตรง ๆ แต่เงินก็ให้เวลา ให้อิสระและความสามารถในการดูแลคนที่เรารักได้มากกว่าไม่มีเงิน