ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนถึงวันนี้ อเมริกาฯ ก็ยังคงรับศึกหนักทั้งเรื่องโรคระบาดโควิด-19 นโยบายการรับมือกับโรคระบาด การประท้วงเพื่อสิทธิมนุษยชนคน“ผิวสี” อีกทั้งยังมีข่าวการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 อีก มีผลทำให้เศรษฐกิจในประเทศผันผวนอย่างหนัก รวมถึงการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ในระยะยาวอีกด้วย ดังนั้นแอดสรุปภาพรวม 3 ประเด็นหลักที่น่าสนใจจับตาช่วงนี้มาฝากกัน
1. จับตากิจการการเงินสหรัฐ
การรายงานผลประกอบการในวันนี้ประกอบไปด้วย UnitedHealth (NYSE:UNH) และ Goldman Sachs (NYSE:GS) UnitedHealth จะรายงานผลประกอบการก่อนเวลาตลาดเปิด โดยคาดว่ากำไรต่อหุ้นจะเท่ากับ $5.18 จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว $3.60 ส่วนรายได้คาดว่าจะเท่ากับ 6.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ จากปีก่อนหน้านี้ 6.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่หุ้นยังคงมีราคาซื้อขายที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
Goldman Sachs ก็จะรายงานผลประกอบการเช่นกัน และคาดว่ารายได้จะเท่ากับ 9.7 พันล้านเหรียญสหรัฐจากปีที่แล้ว 9.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนผลกำไรต่อหุ้นน่าจะเท่ากับ $3.90 ต่างจากปีที่แล้ว $5.81 โดยหุ้นของธนาคารได้ปรับตัวขึ้นมากว่า 56% แล้วนับตั้งแต่ระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคมปี 2020
2. วันของตลาดน้ำมัน
OPEC+ จะประชุมกันวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 และตลาดคาดว่าน่าจะมีการเพิ่มอัตราการลดกำลังการผลิตน้ำมันกลับคืนมา แม้สหรัฐได้ประกาศล็อกดาวน์อีกครั้งเนื่องจากโควิด-19 เมื่อเดือนเมษายน ซาอุดิอาระเบียได้ผลักดันให้ประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 23 ประเทศจากกลุ่ม OPEC+ ที่ประกอบไปด้วยรัสเซียและประเทศอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในเครือ OPEC ลดกำลังการผลิตน้ำมัน 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน อ้างอิงจากคำกล่าวของสมาชิกคณะกรรมการนิรนามระบุว่า ซาอุดิอาระเบียและประเทศสมาชิกส่วนใหญ่สนับสนุนการลดกำลังการผลิตน้ำมันในอัตรา 2 ล้านถึง 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ล่วงหน้าก่อนการประชุม OPEC คาดว่าอุปสงค์น้ำมันประจำปี 2020 จะลดลงเหลือราว 8.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่างจากผลคาดการณ์เมื่อเดือนมิถุนายนที่คาดว่าจะลดลง 9 ล้านบาร์เรล ทว่า OPEC ยังเสริมด้วยว่าในปี 2021 คาดว่าอุปสงค์น้ำมันจะฟื้นตัวเล็กน้อยจากปีนี้และสูงขึ้นในอัตรา 7 ล้านบาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐจาก EIA ที่จะรายงานออกมาในวันนี้คาดว่าจะลดลงไป 2.1 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนที่สูงขึ้น 5.6 ล้านบาร์เรล
3. รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book)
ล่วงหน้าก่อนการรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ Beige Book ของเฟดในวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 ผู้ว่าการเฟด แลล แบร์นาร์ด ได้กล่าวไว้ว่าเฟดควรที่จะดำเนินการเพื่อร่างกรอบนโยบายที่มีความเอื้ออำนวยมากขึ้น และ “การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจดูเหมือนว่าจะมีอุปสรรคแม้ปัจจัยเสี่ยงขาลงจะยังไม่ปรากฎอย่างชัดเจน แต่การระบาดระลอกที่สองก็น่าจะทำให้อุปสรรคดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างเป็นวงกว้างมากขึ้น” และ “แผนการเยียวยาเศรษฐกิจยังคงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก”
นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดประจำดัลลัส ได้เน้นย้ำในการให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่าการสวมหน้ากากอนามัยจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น
ที่มา : https://th.investing.com/news/stock-market-news/article-24408
#CISThai
Line Official: https://lin.ee/jO65rNq
Website: https://connectthedotsth.com/
FB Fanpage: https://www.facebook.com/CreativeInvestmentSpace