CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: เกือบหลับแต่กลับมาได้!ย้อนมองการฟื้นตัวของญี่ปุ่น ที่ไม่ล้มแม้เจอภัยพิบัตินับครั้งไม่ถ้วน
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Opinion > เกือบหลับแต่กลับมาได้!ย้อนมองการฟื้นตัวของญี่ปุ่น ที่ไม่ล้มแม้เจอภัยพิบัตินับครั้งไม่ถ้วน
Opinion

เกือบหลับแต่กลับมาได้!ย้อนมองการฟื้นตัวของญี่ปุ่น ที่ไม่ล้มแม้เจอภัยพิบัตินับครั้งไม่ถ้วน

CTD admin
Last updated: 2024/03/12 at 9:35 AM
CTD admin Published January 13, 2024
Share

ญี่ปุ่นเป็นประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ต้องเผชิญภัยพิบัติร้ายแรงนับครั้งไม่ถ้วน แต่เศรษฐกิจของประเทศยังคงแข็งแรงและฟื้นตัวกลับมาได้ทุกครั้ง

ญี่ปุ่นนับเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจที่เติบโตได้รวดเร็วมากภายในระยะเวลาไม่กี่สิบปีหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยโดดเด่นในด้านสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหนักอย่างรถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงเทคโนโลยีชั้นสูง และเคมีภัณฑ์ และยังเป็นแหล่งวัฒนธรรมสำคัญระดับโลก ทั้งอาหารอย่าง ราเมนและซูชิ และสื่อบันเทิงมากมาย อย่างมังงะและอนิเมะ

แต่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพราะแม้เศรษฐกิจและประเทศจะเจริญรุ่งเรืองมาก ญี่ปุ่นกลับต้องเผชิญกับภัยพิบัติร้ายแรงอยู่หลายครั้ง อ้างอิงจากกราฟความเสี่ยงภัยพิบัติในแต่ละประเทศ ญี่ปุ่นจัดว่ามีความเสี่ยงในระดับสีแดงเข้ม หรือเสี่ยงสูงมากอยู่ตลอด เนื่องจากอยู่ในแนววงแหวนแห่งไฟ และที่ผ่านมาญี่ปุ่นต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติแทบทุกรูปแบบ ทั้งอุบัติเหตุนิวเคลียร์ ดินถล่ม พายุไต้ฝุ่น น้ำท่วม ภูเขาไฟระเบิด และล่าสุด สึนามิยักษ์และแผ่นดินไหวรุนแรง

โดยที่ผ่านมาทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติขึ้นในญี่ปุ่น สร้างความเสียหายมหาศาลทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน อย่างแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ในปี 2011 มีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คน และสร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 210,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งยังทำให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัวลง

เรียกได้ว่าแต่ละครั้งที่ผ่านมาภัยพิบัติเล่นญี่ปุ่นจนเกือบหลับ แต่โดนขนาดนั้น ญี่ปุ่นกลับมาได้อย่างไร

จริง ๆ อาจจะพูดได้ว่า “Abenomics” หรือ แผนพัฒนาเศรษฐกิจของอดีตนายกฯของประเทศญี่ปุ่น นายชินโซ อาเบะ เข้ามามีบทบาทสำคัญไม่น้อย อย่างตอนแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ปี 2011 เขาได้เข้ามาควบคุมความเสียหาย และเชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นจะสามารถก้าวหน้าได้หากสามารถทำให้สิ่งที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศทำงานร่วมกัน

จึงเกิดเป็นนโยบายการเงินที่ปรับปรุงใหม่ และการปฏิรูปโครงสร้าง ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการเติบโต อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมถูกลงเพื่อช่วยให้ประชาชนและธุรกิจได้มีเครดิตที่ดีขึ้น และสามารถใช้จ่ายที่มากขึ้น มีความต้องการสูงขึ้น และภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

อีกทั้งประสบการณ์คือบทเรียนที่สอนให้ญี่ปุ่นรู้ว่าต้องรับมืออย่างไร ที่ผ่านมาญี่ปุ่นจึงได้ลงทุนมหาศาลกับระบบการป้องกันและระบบเตือนภัยพิบัติ รวมถึงการช่วยเหลือต่าง ๆ ด้วย ตั้งแต่ปี 1980 ญี่ปุ่นทุ่มเงินราวปีละ 6.4 ล้านดอลลาร์ในการพัฒนามาตรการป้องกันภัยพิบัติ รวมถึงประกันภัยแผ่นดินไหวสำหรับธุรกิจ

อย่างช่วงหลังเกิดอุบัติเหตุนิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ ญี่ปุ่นก็ได้ลงทุนในการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนอย่างแสงอาทิตย์ พลังงานความร้อนใต้พิภพมาทดแทน

อีกทั้งยังได้เตรียมความพร้อมการรับมือภัยพิบัติที่ดียิ่งขึ้น ทั้งการพัฒนาระบบเตือนภัย แผนอพยพ ศูนย์หลบภัยฉุกเฉิน และแผนการช่วยเหลือมากมาย อย่างในจังหวัดมิยากิก็ได้มีการนำโดรนเข้ามาช่วยในการเตือนภัย รวมถึงสำรวจและส่งข้อมูลให้หน่วยช่วยเหลือ ซึ่งรวดเร็วกว่าการใช้เฮลิคอปเตอร์มาก และไม่ถูกตัดขาดเมื่อเครือข่ายการสื่อสารเสียหาย และยังมีการใช้ Big Data จากข้อมูลสภาพอากาศมากมายมาคำนวณเพื่อวางแผนระวังภัยพิบัติในแต่ละพื้นที่อีกด้วย

นอกจากนี้เม็ดเงินมหาศาลยังถูกใช้ไปกับมาตรการช่วยเหลือที่หลากหลาย ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจและธุรกิจ ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นก็ช่วยส่วนนี้ในรูปแบบของมาตรการด้านภาษี การลงทุนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติจะจ่ายภาษีที่ถูกลงหรือได้รับการยกเว้นภาษีที่ดิน และอาจมีการสนับสนุนด้านการเงินอื่น ๆ ธุรกิจขนาดเล็กและกลางจึงได้ประโยชน์จากมาตรการแบบนี้เต็ม ๆ และไม่กลัวที่จะกลับมาสร้างตัว ทุกอย่างจึงกลับมาเข้าที่เข้าทางได้ไม่ยาก

และที่สำคัญคือธุรกิจเหล่านี้ไม่เพียงรอดจากภัยพิบัติ แต่ยังสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน มีมากกว่า 52,000 ธุรกิจในญี่ปุ่นที่อยู่มานานมากกว่า 100 ปี

ซึ่งธุรกิจเก่าแก่เหล่านี้เรียกว่า “ชินิเสะ (Shinise)” ซึ่งพวกเขาทำธุรกิจโดยมุ่งเน้นไปที่สินค้าหรือบริการที่เป็นหัวใจหลักของธุรกิจเท่านั้น ไม่ได้หาเงินหลายทาง ทำหลายอย่างเพื่อได้เงินจำนวนมากแบบฉาบฉวย

เช่น “อิจิวะ” ร้านขายโมจิที่อยู่มาตั้งแต่ปี 1000 ที่ยังคงขายแต่โมจิอย่างเดียว ซึ่งมีธุรกิจแบบนี้จำนวนมาก ข้อดีของธุรกิจแบบนี้คือง่ายต่อการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติมากกว่า

ที่มากกว่าเรื่องของการกลับมาทำเงินของภาคธุรกิจแล้วคือ ภาคธุรกิจเองยังมีส่วนช่วยสำคัญที่ทำให้ชุมชนกลับมาเข้มแข็งได้ โดยไม่ได้สนใจเรื่องผลกำไร ซึ่งก็จะเป็นผลดีย้อนกลับมาสู่ภาคธุรกิจอีกครั้ง

ในช่วงภัยพิบัติปี 2011 Lawson แจกจ่ายอาหารกว่า 200,000 มื้อให้กับผู้ประสบภัย ทั้งที่ตัวเองก็ได้รับผลกระทบร้ายแรงเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้คนประทับใจ เมื่อกลับมาเปิดให้บริการใหม่ 11 วันให้หลัง ก็มีลูกค้ามาอุดหนุนจนทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้อีกครั้ง ซึ่งหลายธุรกิจในญี่ปุ่นอย่าง Yakult, Yamato, Uniqlo ฯลฯ ก็ทำแบบเดียวกัน และอาจส่งผลให้ธุรกิจเหล่านี้คงอยู่ได้อีกนานจนกลายเป็นชินิเสะในอนาคต

นอกจากนี้ในฐานะหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลก ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญต่อการค้าและเศรษฐกิจโลก และเกี่ยวโยงกับประเทศสำคัญอย่าง จีน เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป็นพันธมิตรที่ดีกับหลายประเทศ จึงไม่แปลกที่จะได้รับการสนับสนุนความช่วยเหลือที่ดีอยู่เสมอมา เพราะถ้าหากญี่ปุ่นฟื้นไม่ได้ ประเทศเหล่านี้และอีกหลายประเทศทั่วโลกจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย

โดยสรุปคือ ญี่ปุ่นมีการวางแผนมาตรการทางเศรษกิจไว้เป็นอย่างดี เอื้อต่อการฟื้นฟูของภาคธุรกิจ และการใช้จ่ายของประชาชน ที่สำคัญคือมีการลงทุนกับการพัฒนามาตรการป้องกันภัยพิบัติอย่างจริงจัง ภาคเศรษฐกิจดั้งเดิมที่มุ่งเน้นแกนหลักเพียงอย่างเดียวก็ทำให้ฟื้นตัวได้เร็ว รวมถึงหลายธุรกิจใหญ่ช่วยเหลือชุมชนในช่วงภัยพิบัติโดยไม่สนผลประโยชน์ ซึ่งสุดท้ายจะย้อนกลับมาเป็นผลให้ทั้งชุมชนและธุรกิจฟื้นตัวไปพร้อมกันได้อีกครั้ง และญี่ปุ่นเองก็เป็นหนึ่งประเทศที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก ได้รับการสนับนุนความช่วยเหลือที่ดีมาตลอด ทั้งหมดนี้จึงทำให้ญี่ปุ่นฟื้นตัวกลับมาได้ทุกครั้งแม้จะเจอภัยพิบัติหนักนาบ่อยแค่ไหนก็ตาม

ส่วนสถานการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดตอนนี้ยังคงดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตต่อไป อย่างไรก็ร่วมส่งกำลังใจให้ญี่ปุ่นกันด้วยนะครับ

You Might Also Like

วัดกำลังอสังหาฯ ยามพบศึกหนัก แผ่นดินไหว vs สงครามการค้า บ้านแนวราบโต แต่ตลาดคอนโดตึกสูงสั่นคลอน

ไม่ใช่แค่แรงงานไทยมักง่าย แต่นายจ้างเกาหลีก็อยากได้ผีน้อย

ไม่เอาแอปจีน! รัฐเท็กซัสประกาศแบนทั้ง DeepSeek, RedNote, Lemon8 

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2568 คาดยอดจัดส่งรถยนต์ EV โต 17%

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin January 13, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article เปิดตัว “ShopBit” แอปฯ สะสมแต้มแนวใหม่ ที่ให้ “Bitcoin” ฟรี ทุกครั้งที่ช้อป
Next Article ตลาดอสังหาฯไทยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรในสังคมผู้สูงอายุ?
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?