CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: เหลี่ยมคนไทย ไม่แพ้ชาติไหนในโลก “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” กับ “บริการรับจ่ายบิล” เสี่ยงโกง เสี่ยงหนี้ เสี่ยงทุกอย่าง แต่ทำไมยังทำ?
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Opinion > เหลี่ยมคนไทย ไม่แพ้ชาติไหนในโลก “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” กับ “บริการรับจ่ายบิล” เสี่ยงโกง เสี่ยงหนี้ เสี่ยงทุกอย่าง แต่ทำไมยังทำ?
Opinion

เหลี่ยมคนไทย ไม่แพ้ชาติไหนในโลก “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” กับ “บริการรับจ่ายบิล” เสี่ยงโกง เสี่ยงหนี้ เสี่ยงทุกอย่าง แต่ทำไมยังทำ?

CTD admin
Last updated: 2024/04/29 at 9:46 AM
CTD admin Published April 29, 2024
Share

เมื่อวันก่อนมีโพสต์จากลุ่มเฟซบุ๊ก Shopee My SPayLater SEasyCash Thailand ที่ถูกแชร์ออกไปอย่างมหาศาล และเป็นการเปิดโลกสำหรับใครหลายคน เพราะเจ้าของโพสต์หาคนรับจ่ายบิลค่าไฟให้ จำนวน 3,079 บาท แลกกับเงิน 2,770 บาท ซึ่งเงินที่ให้มันน้อยกว่าเห็น ๆ และยังไม่พอจ่ายบิลเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งถ้าไปดูในคอมเมนต์ก็จะเห็นว่ามีคนเข้ามาหาคนรับจ่ายแบบเดียวกันอีกจำนวนมาก ทำให้หลายคนเกิดสงสัยว่าเขาทำไปทำไม ในบทความนี้ Connect the Dots จะช่วยอธิบายให้เข้าใจทั้งระบบของการรับฝากจ่าย รวมถึงความคุ้มค่าและความเสี่ยงด้วย

[Buy Now Pay Later]

การฝากจ่ายบิลที่ว่าเขาทำกันผ่านระบบซื้อก่อนจ่ายทีหลัง หรือ Buy Now Pay Later (BNPL) ที่มีบนแอปพลิเคชันชอปปิงออนไลน์ เป็นบริการสินเชื่อที่ให้เครดิตเงินแก่ผู้ใช้เพื่อใช้จ่ายซื้อของบนแอปหรือบริการที่รองรับได้ วงเงินเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันยันหลักหมื่น และยิ่งใช้จ่ายผ่านเครดิตนี้เยอะ ก็จะสูงขึ้นไปด้วย จนอาจได้วงเงินสะสมสูงสุดหลายหมื่นบาท 

ซึ่งถ้าใครเคยใช้ก็จะพอรู้ว่าระบบนี้มันมีข้อดีที่เป็นจุดเด่นคือเข้าถึงง่ายมาก ไม่ต้องตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวหรือเครดิตการเงินมากมายเหมือนการขอสินเชื่อทั่วไปหรือทำบัตรเครดิตกับธนาคาร แต่ไม่จำเป็นต้องมีสลิปเงินเดือน นั่นทำให้ใคร ๆ ก็สามารถมีเครดิตก้อนนี้ได้แม้ไม่มีรายได้ประจำ นอกจากนี้ก็ยังไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่มีภาระผูกพัน ผ่อนหมดก็จบเป็นชิ้น ๆ ไป และยังสามารถเลือกจำนวนงวดผ่อนชำระได้ตามเหมาะสม ตั้งแต่ 1-12 เดือนเลย

แต่ข้อเสียที่ชัดเจนของระบบนี้ก็มี นั่นคือข้อจำกัดในการใช้จ่าย จะสามารถใช้จ่ายซื้อของบนแพลตฟอร์มหรือบริการที่รองรับเท่านั้น ไม่สามารถถอนออกมาเป็นเงินสดเพื่อใช้จ่ายอย่างอิสระได้เหมือนสินเชื่อและบัตรเครดิต และดอกเบี้ยในบางรายการก็อาจสูงมาก ถ้าหากผิดนัดชำระก็อาจมีค่าธรรมเนียมการจ่ายล่าช้าเพิ่มเข้าไปอีก

[เหลี่ยม]

ด้วยข้อเสียหลัก ๆ อย่างการไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ ก็ทำให้หลายคนเริ่มมองหาวิธีการจากช่องโหว่ของระบบ ซึ่งช่องโหว่ที่ว่าคือการจ่ายบิลให้ “ใครก็ได้” ไม่จำเป็นต้องเป็นบิลของตัวเอง จึงมีวิธีการเปิดรับฝากจ่ายบิลด้วยเครดิตในระบบ Pay Later ที่ตัวเองมี แลกกับการที่เจ้าของบิลจะต้องให้เงินสดกับคนรับฝาก โดยจะหักเปอร์เซ็นต์ไปตามที่ตกลงกัน โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 10-15% แต่ในบางครั้งก็อาจหักมากถึง 25% เลย

[ประโยชน์…?]

ประโยชน์ที่คนรับฝากจ่ายจะได้คือ ได้เปลี่ยนเครดิตในแอปที่มีมาเป็นเงินสด เพื่อนำไปใช้จ่ายอย่างอิสระนอกแพลตฟอร์ม ส่วนประโยชน์เจ้าของบิลจะได้คือ จ่ายบิลค่าบริการต่าง ๆ ในราคาที่ถูกลงตามเปอร์เซ็นที่หักไป 

ดูภาพรวมก็เหมือนจะเป็นข้อตกลงแบบ วิน-วิน แต่ถ้าลองไตร่ตรองดี ๆ เราอาจพบว่ามีคนได้ไม่คุ้มเสีย เพราะแม้เจ้าของเครดิต หรือผู้รับฝากจ่ายจะได้เงินสดจากแอปออกมาใช้จ่าย แต่อย่าลืมว่าเงินก้อนนี้มาจาก “เครดิต” ซึ่งหมายความว่า “ต้องชำระคืน”  ซึ่งนอกจากจะต้องจ่ายคืนในจำนวนเงินที่มากกว่าที่ได้รับมา (เพราะถูกหักเปอร์เซ็นไป) ก็อาจมีดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นด้วยหากผ่อนชำระหลายงวด หรือผิดนัด ทำให้ในระยะยาวแล้วมันก็ไม่คุ้มอยู่ดี และยัง “เข้าเนื้อ” อีกต่างหาก แม้จะมีคูปองส่วนลดหรือโบนัสเงินคืนบ้างแต่ก็มักมีเงื่อนการใช้จ่ายตามมาอยู่ดี

[ความเสี่ยง: หนี้บานปลาย, โกง]

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงแอบแฝงของตัวระบบ BNPL เอง ด้วยการให้เครดิตที่เข้าถึงง่ายมาก ๆ นั่นอาจทำให้คนที่มีความเข้าใจในการเงินต่ำเข้าถึงเครดิตก้อนนี้ได้ด้วย ซึ่งพวกเขาอาจใช้จ่ายเกินตัวและไม่สามารถจ่ายคืนได้ กลายเป็นหนี้เสียสะสม ต้องมาจ่ายดอกมากขึ้น บางคนค้างชำระไว้หลายเดือนจนถึงเป็นปี หรือถึงขั้นที่บางคนเข้าไปใช้เครดิตก้อนนี้แล้วไม่จ่ายคืนเลย นี่แค่บนแพลตฟอร์มที่มีข้อจำกัดในการใช้จ่ายเท่านั้น ลองคิดดูว่าเมื่อเครดิตก้อนนี้กลายเป็นเงินสดที่ใช้ได้อย่างอิสระจะบานปลายได้มากขนาดไหน

ในฝั่งของเจ้าของบิลที่ฝากจ่าย ก็ต้องรับความเสี่ยงในการถูกโกงด้วย เพราะมันคือข้อตกลงที่ไม่ผ่านระบบ จากคนสู่คนโดยตรง ซึ่งโกงกันได้ไม่ยาก แม้บางครั้งจะมีคนกลางเข้ามาช่วยรับเงินไว้ก่อนก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดูน่ากังวลน้อยลงเลย เพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ต้องจ่ายเงินก่อนอยู่ดี และด้วยความที่ไม่มีระบบรองรับเงินที่จ่ายไปแล้วจึงไม่สามารถดึงกลับมาได้ (จ่ายบิลก็จ่ายก็จ่ายไปนอกแพลตฟอร์ม ไม่เหมือนการซื้อสินค้าในแอปที่คืนเงินคืนของได้) ตามกลุ่มที่คุยกันหาคนรับจ่ายแบบนี้จึงมักมีการแจ้งเตือนคนโกงอยู่เสมอ

[สุดท้ายก็ต้องจ่าย]

โดยสรุปแล้ววิธีนี้คือการดึงเงินในอนาคตมาใช้โดยเสียค่าแลกมา และฉีกกรอบการใช้มันออกไป ทำให้ความเสี่ยงในการสร้างหนี้ และภาระที่ต้องจ่ายมากขึ้น มีข้อเสียที่มากกว่าข้อดีอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นคนจำนวนไม่น้อยก็ยังเลือกที่จะทำอยู่ ซึ่งเหตุผลของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป และเชื่อว่าหลายคนก็อาจมี “ความจำเป็น” บางอย่าง ที่คนไม่ทำก็อาจไม่เข้าใจ แต่ไม่ว่าใครจะทำหรือไม่ทำ ทุกคนควรมีความรู้ความเข้าใจทางการเงินให้มากพอ และประเมินตัวเองให้ได้ก่อนจะใช้จ่ายอะไร เพราะสุดท้ายแล้วจะเงินสดหรือเครดิตจากไหนเราก็ต้องหามาจ่ายอยู่ดี 

เครดิตหรือสินเชื่อถ้าเราใช้อย่างฉลาดมันจะเป็นผลดีกับสภาพคล่องของเรามาก แต่ถ้าเราประมาทมันอาจทำให้การเงินเราพังเลยก็ได้

You Might Also Like

วัดกำลังอสังหาฯ ยามพบศึกหนัก แผ่นดินไหว vs สงครามการค้า บ้านแนวราบโต แต่ตลาดคอนโดตึกสูงสั่นคลอน

ไม่ใช่แค่แรงงานไทยมักง่าย แต่นายจ้างเกาหลีก็อยากได้ผีน้อย

ไม่เอาแอปจีน! รัฐเท็กซัสประกาศแบนทั้ง DeepSeek, RedNote, Lemon8 

แนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2568 คาดยอดจัดส่งรถยนต์ EV โต 17%

TAGGED: Buy Now Pay Later, credit, shopee, SPayLater, ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin April 29, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article SCB EIC มองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวตามการท่องเที่ยวและแรงกระตุ้นการคลัง
Next Article มาตรการอสังหาฯ ปลดล็อควิกฤตกำลังซื้อแค่ไหน?
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?