เรื่องน่ายินดีสำหรับวงการฟุตบอลไทย คือการจบเกมเสมอ 1-1 กับทีมชาติเกาหลีใต้ ได้ในรับคัดเลือกฟุตบอลโลกโซนเอเชีย ที่ไทยเป็นฝ่ายเยือน ไปเตะไกลถึงเกาหลีเมื่อสัปดาห์ก่อน แบ่งกันเก็บไปคนละ 1 แต้ม ทำให้แข้งช้างศึกและแฟน ๆ ชาวไทยมีขวัญกำลังใจขึ้นมาก แต่ในวันนี้ที่ไทยเป็นฝ่ายเหย้า เกาหลีใต้ก็มาพร้อมความหวังเก็บ 3 แต้ม ในชณะที่ไทยเองก็คาดหวังสิ่งเดียวกัน เพื่อให้ได้ไปต่อในฟุตบอลโลก และหากทำได้ก็จะเป็นการชนะเกาหลีใต้ครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปี จึงเป็นแมตช์ที่น่าจับตามองของฟุตบอลไทยที่สุดในตอนนี้ กระแสที่เรียกศรัทธาของแฟนบอลได้เป็นอย่างดี จึงส่งผลต่อเศรษฐกิจของสินค้าฟุตบอลไทยด้วย
นั่นก็เป็นเพราะว่าเรื่องเงินของวงการฟุตบอลมันไม่ได้จบแค่ค่าตั๋ว แต่อย่างที่รู้กันดีกว่ายังมีสินค้ามากมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเสื้อบอล ของที่ระลึกที่โดดเด่นและทรงคุณค่าที่สุดสำหรับแฟนบอลแล้ว
ตลาดเสื้อฟุตบอลทั่วโลกเคยถูกประเมิณว่ามีมูลค่าเกือบ 6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2565 และจะสูงกว่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2572 ซึ่งแม้ว่าส่วนใหญ่แล้วจะมาจากมูลค่าการซื้อขายเสื้อจากลีกดังอย่าง Premier League แต่ในไทยก็มีพื้นที่ตลาดของเราเองที่ซื่อขายเสื้อบอลไทยเหมือนกัน
โดยทั่วไปเสื้อบอลที่หาซื้อได้ก็จะแบ่งออกเป็น 3 เกรด ประกอบด้วย
- Cheer เกรดล่างสุดที่ราคาถูก หาซื้อง่าย วัสดุทั่วไป ใส่เชียร์ได้แบบชิล ๆ
- Replica เกรดที่แพงขึ้นมาหน่อย เรียกกันว่าเป็นเกรดเสมือนแข่ง มีรายละเอียดที่ดีขึ้น วัสดุดีขึ้น ใกล้เคียงกับที่นักเตะใส่
- Player เกรดเดียวกับที่นักเตะใช้แข่งขันในสนามจริง ๆ วัสดุพรีเมี่ยม ระบายอากาศดี มีทรงเสื้อที่พอดีตัว
แต่นอกจาก 3 เกรดที่ว่ามาก็จะมีอีก 2 เกรดพิเศษที่นิยมในหมู่นักสะสมคือ Match Issue เสื้อที่เตรียมไว้ให้นักเตะในการแข่งแต่ละครั้ง และ Match Worn เสื้อที่นักเตะใส่ลงสนามแล้วจริง ๆ ซึ่งทั้งสองแบบนี้ก็จะมีราคาที่สูงมาก ๆ หลายครั้งถูกขายในรูปแบบการประมูล ซึ่งถ้าเป็นแมตช์ดัง ๆ หรือของนักเตะระดับโลกก็จบเป็นล้านบาท แต่ถ้ากับของไทยก็จะประมูลกันอยู่ที่ราว ๆ หลักหมื่น หรือตัวไหนมีลายเซ็นด้วย มูลค่าก็ยิ่งสูง
ซึ่งตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ก่อน หลังเกมที่ไทยเสมอเกาหลีแบ่งคนละแต้มมาได้ แฟนบอลไทยก็เริ่มเห็นความหวังการไปบอลโลกอีกครั้ง และทำให้เสื้อทีมชาติกลับมาเป็นที่ต้องการ ในกลุ่มซื้อขายเสื้อบอลต่าง ๆ ก็มีการโพสต์ซื้อขายเสื้อทีมชาติบ่อยขึ้นด้วย ทั้งรุ่นเก่ารุ่นใหม่
ถ้าเป็นรุ่นใหม่ ๆ หน่อยก็จะเป็นเสื้อที่ผลิตโดย Warrix บริษัทเครื่องแต่งกายกีฬาน้องใหม่ที่มีประวัติไม่ยาวนานนัก แต่ก็ได้โอกาสเข้ามาเป็นผู้ผลิตชุดแข่งขันนักฟุตบอลทีมชาติไทยตั้งแต่ปี 2560 และจะยังถือสิทธิ์การผลิตต่อเนื่องไปถึงปี 2571 ซึ่งก็แน่นอนว่าในกระแสบอลไทยฟีเวอร์แบบนี้ Warrix เองคงขายดีไม่ใช่น้อย และวันนี้ก็ไปออกบูธหน้าสนามราชมังฯ อีกด้วย คนเต็มแบบไม่น่าแปลกใจ
โดยสรุปแล้วก็เป็นที่ชัดเจนว่าพลังศรัทธาของแฟนบอลไทยนั้นก็มีผลต่อการซื้อขายสินค้าที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะเสื้อบอลอย่างแน่นอน นอกจากจะเป็นแรงใจสำคัญให้กับเหล่านักแตะไทยแล้ว ยังเป็นแรงขับเคลื่อนสนับสนุนเศรษฐกิจฟุตบอลอีกด้วย และถ้าเกมนักนี้ไทยเอาชนะได้ ก็คงกลายเป็นนัดประวัติศาสตร์ย่อม ๆ ที่น่าจะส่งผลกับความต้องการและราคาเสื้อทีมชาติไทยชุดนี้อีกแน่นอน
สุดท้ายนี้ก็อย่าลืมส่งกำลังใจไปเชียร์ทีมชาติไทยกันด้วยนะครับ เผื่อใครที่สัญญาอะไรไว้ตอนบอลไทยได้ไปบอลโลก จะได้ทำตามสัญญาสักที ฮ่า ๆ ๆ