CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: Web 3.0, Metaverse และโอกาสในการครอบครองที่ดินในจักรวาลนฤมิตร
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > Web 3.0, Metaverse และโอกาสในการครอบครองที่ดินในจักรวาลนฤมิตร
Investment (Closed)

Web 3.0, Metaverse และโอกาสในการครอบครองที่ดินในจักรวาลนฤมิตร

connectthedots admin
Last updated: 2023/07/01 at 5:26 AM
connectthedots admin Published June 30, 2022
Share

หลังจากที่บริษัท Facebook หนึ่งผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ได้ออกมาประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘Meta’ พร้อมประกาศวิสัยทัศน์ว่า ในอนาคตข้างหน้า ธุรกิจที่ Meta มุ่งเน้นคือการให้บริการทางด้านธุรกิจโลกเสมือน หรือ ‘Metaverse’ และมีการแสดงออกอย่างชัดเจนว่าจะทุ่มทรัพยากรอย่างเต็มที่ในการพัฒนาบริการโลกเสมือน เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานในวงกว้างทั่วโลกได้ 

Contents
การเดินทางจาก Web 1.0 สู่ Metaverseโอกาสของนักลงทุนใน Web 3.0 และ Metaverse  

.

ซึ่งทันทีที่ Meta ได้ประกาศถึงแนวทางในการทำธุรกิจ ส่งผลให้แวดวงคริปโตเคอร์เรนซี่ และนักพัฒนาบล็อกเชนมีความตื่นตัวกับการประกาศดังกล่าว เพราะเชื่อว่าการเกิดขึ้นของจักรวาลโลกเสมือน จะเป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีการใช้งานอินเตอร์เน็ตรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Web 3.0 รูปแบบของอินเตอร์เน็ตที่มีบล็อกเชนเป็นกระดูกสันหลัง ซึ่งอาจส่งผลให้มูลค่าของสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ มีการปรับตัวขึ้นอย่างมากมายมหาศาลในอนาคต

.

Creative Investment Space จึงอยากจะเล่าให้ฟังถึงประวัติศาสตร์การใช้งานอินเตอร์เน็ตจนกว่าจะมาถึงยุคของ Metaverse หรือ Web 3.0 นั้นมีความเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด และนักลงทุนจะสามารถคว้าโอกาสจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้อย่างไรได้บ้าง

การเดินทางจาก Web 1.0 สู่ Metaverse

.

ในยุคปฐมกาลของการใช้งานอินเตอร์เน็ตนั้น เราเรียกช่วงแรกเริ่มนี้ว่ายุค Web 1.0 หรืออธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ การมาถึงของสิ่งที่เรียกว่า World Wiide Web หรือ WWW นั้นเปิดให้ผู้คนสามารถที่จะสร้างเว็บไซต์ส่วนตัวของตนเองได้ และเจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวสามารถที่จะอัพโหลดข้อมูลอย่างข้อความ หรือวิดีโอต่างๆ ขึ้นไปบนเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นได้ 

.

ทำให้ในยุคแรกเริ่มนั้นเป็นยุคที่ผู้คนสามารถเพียงที่จะดาวน์โหลด หรือเข้าไปอ่านคอนเทนต์บนเว็บไซต์เพียงเท่านั้น แต่จะไม่มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้ใช้งานอย่างอิสระเสรีมากนัก ในยุค Web 1.0 อินเตอร์เน็ตจึงเป็นเพียงเรื่องของการสื่อสารทางเดียวระหว่างผู้ใช้งาน

.

ต่อมาเมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ามากขึ้นข้อจำกัดในการสื่อสารระหว่างผู้ใช้งานก็ได้ถูกพังทลายลงไป เมื่อเหล่านักพัฒนาผู้สร้างเว็บได้มุ่งเน้นไปในเรื่องของ การสร้างคอนเทนต์จากผู้ใช้งานทุกคน (User-Generated Content) ไม่ใช่เพียงแค่จากผู้ดูแลเว็บไซต์เท่านั้น อีกทั้งยังมุ่งเป้าไปในการสร้างประสบการณ์ของผู้ใช้ เพื่อให้ผู้ใช้งานใช้เวลากับตัวเว็บไซต์ให้นานยิ่งขึ้นกว่าเดิม จนเกิดสิ่งที่เรียกว่า โซเชียลเว็บ หรือยุคของ Web 2.0 นั่นเอง 

.

การเกิดขึ้นของแอพพลิเคชั่นมือถือประเภทโซเชียลมีเดีย ที่ไม่เพียงให้ผู้ใช้งานได้อ่าน หรือดู แต่ยังสามารถอัพโหลด ข้อความ,ภาพ,เสียง หรือวิดีโอได้ อย่างเช่น YouTube, Twitter, หรือแม้แต่บริษัทในเครือ Meta อย่าง Facebook และ Instagram ที่บางแพลตฟอร์มมีการให้ผลตอบแทนแก่ผู้ใช้งานที่สร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดผู้คนให้เข้ามาอยู่กับแพลตฟอร์มได้ แต่ด้วยความนิยมของโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่เหล่านี้นี่เอง ที่ดึงดูดผู้ใช้งานให้มาใช้งานแพลตฟอร์มจนเกิดเป็นปัญหา เพราะในเมื่อแทบทุกภาคส่วนเข้ามาใช้งาน ทำให้อำนาจทุกอย่างนั้นอยู่ในมือของตัวแพลตฟอร์มที่สามารถควบคุมความเป็นไปของแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มรูปแบบ

.

แต่ในปัจจุบันเรามีสิ่งที่เรียกว่าบล็อกเชน และเทคโนโลยีกระจายศูนย์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของยุค Web 3.0 หรือ ‘Decentralize Web’ ที่การใช้งานเว็บไซต์นั้นจะมีการแชร์ฐานข้อมูลร่วมกันทั้งเครือข่าย อีกทั้งยังให้คนในชุมชนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางอย่างผู้ควบคุมแพลตฟอร์ม

.

ซึ่งด้วยแนวคิดนี้เองที่ทำให้ผู้คนเชื่อมั่นว่าบล็อกเชนจะกลายมาเป็นกระดูกสันหลังของเทคโนโลยี Web 3.0 และสร้างสิ่งที่เรียกว่าโลกเสมือนขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ การประกาศของ Meta ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในรูปแบบของ Web 2.0 ต้องการจะมุ่งเน้นในการให้บริการ Metaverse จึงเป็นจุดที่น่าจับตามองว่าหรือนี่จะเป็นก้าวสำคัญของการมุ่งสู่ยุคสมัย Web 3.0 อย่างเต็มตัว

โอกาสของนักลงทุนใน Web 3.0 และ Metaverse  

.

หากว่าในอนาคตเทคโนโลยี Web 3.0 นั้นถูกใช้งานได้อย่างแพร่หลายแล้วล่ะก็ ในปัจจุบันนักลงทุนควรจะเตรียมตัวอย่างไรเพื่อหารายได้จากการเกิด Mass Adoption ในอนาคตได้บ้าง จาก ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ โดยเฉพาะกับ ‘อสังหาริมทรัพย์ใน Metaverse’

.

แม้ว่าปัจจุบันกระแสของสินทรัพย์ดิจิทัลจะเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง แต่ในเรื่องของการใช้งานต้องพูดว่ายังไม่สามารถเรียกว่ามีการใช้งานอย่างแพร่หลาย โดยจากการเก็บข้อมูลของเว็บไซต์ Triple พบว่าสัดส่วนของผู้ถือครองคริปโตฯ ของประชากรแต่ละประเทศนั้มีเพียงแค่ 2-12% เท่านั้น ทำให้การเติบโตของมูลค่าตลาดของคริปโตฯ ยังคงสามารถที่จะเติบโตได้อีกมากมาย ซึ่งด้วยหาก Web 3.0 เกิดขึ้นจริง นั่นหมายถึง บล็อกเชน และคริปโตฯ จะเกิดการใช้งานในรูปแบบของ Mass Adoption อย่างเต็มตัว

.

อีกสิ่งหนึ่งที่เป็นประเด็นที่น่าจับตามองคือ ‘ที่ดินในโลกเสมือน’ เพราะหาก Metaverse ถูกสร้างบนบล็อกเชนแล้วล่ะก็ จะไม่มีเจ้าของแพลตฟอร์มมาคอยจัดการพื้นที่ต่างๆ อีกต่อไป ทำให้ผืนที่ดินใน Metaverse นั้นสามารถที่จะจับจอง และเป็นเจ้าของได้จากการสร้างให้อยู่ในรูปแบบของ NFT 

.

โดย ณ ปัจจุบันนั้น ที่ดินใน Metaverse นั้นมีราคาที่สูงลิ่วเกินกว่าทีใครหลายคนคาดไว้นัก โดยทีมงาน Republic Realm ผู้ที่เชี่ยวชาญในการออกแบบที่ดินในโลกเสมือนได้ทำการซื้อที่ดินจากแพลตฟอร์ม The Sandbox ไปในราคา 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อที่จะออกแบบพื้นที่ให้ผู้ใช้งานคนอื่นสามารถเข้ามาเยี่ยมชมพื้นที่ที่พวกเขาสร้างขึ้นมา

.

การจับตาดูราคาของที่ดินในแพลตฟอร์มโลกเสมือนต่างๆ อย่าง The Sandbox, Decentraland หรือ Gala จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเก็งกำไรสำหรับโอกาสที่จะเข้ามาในอนาคต แต่ดังที่เคยบอกไว้อยู่เสมอว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนเป็นเรื่องที่ใหม่ และต้องได้รับกาารพิสูจน์อีกมาก นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน และลงทุนตามความเสี่ยงที่ตนเองรับได้

Reference:

https://www.weforum.org/agenda/2022/03/metaverse-real-estate-prices-boom/

https://coinmarketcap.com/fiat-currencies/

https://triple-a.io/crypto-ownership/

You Might Also Like

Bitcoin ช่วยป้องกันเงินเฟ้อได้ดี ท่ามกลางการจัดระเบียบโลก

Pi เผยผลงานปี 67 พร้อมรุกกลยุทธ์ปี 68 ยกระดับบริการการลงทุนครบวงจร

Finnomena Funds เปิดตัวพอร์ตลงทุนใหม่ Dynamic Contrarian Model Portfolio : ย่อ-ซื้อ ขึ้น-ขาย เท่าทันทุกโอกาสที่เปลี่ยนแปลง

ความรู้คู่การลงทุนสร้างความเชื่อมั่นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างไร?

TAGGED: DrFi, การลงทุนยุคใหม่, บิทคอยน์, ลงทุน, สินทรัพย์, เทรดเดอร์, เศรษฐกิจโลก

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin June 30, 2022
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article หุ้นไทยกลุ่มไหนเด่น?
Next Article เกาะกระแสรถยนต์ไฟฟ้า EV
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?