CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ลุ้นตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว โค้งท้ายปี
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > กูรูลงทุน > เปโดร พุกกะมาน > ลุ้นตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว โค้งท้ายปี
เปโดร พุกกะมาน

ลุ้นตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัว โค้งท้ายปี

connectthedots admin
Last updated: 2022/12/10 at 2:55 PM
connectthedots admin Published October 11, 2022
Share

ลุ้นตลาดหุ้นทั่วโลกโค้งท้ายปี ฟื้นตัว หากก้าวผ่าน 3 ปัจจัยเสี่ยง

“Recession – Emerging Market ผิดนัดชำระหนี้ และสงครามรัสเซียยูเครน”

.

Contents
ลุ้นตลาดหุ้นทั่วโลกโค้งท้ายปี ฟื้นตัว หากก้าวผ่าน 3 ปัจจัยเสี่ยง“Recession – Emerging Market ผิดนัดชำระหนี้ และสงครามรัสเซียยูเครน”

นักลงทุนรุ่นใหม่ ลุ้นตลาดหุ้นทั่วโลกก้าวผ่านสามความเสี่ยงสำคัญที่อาจเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก การผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ และสงครามรัสเซียและยูเครนที่อาจรุนแรงขึ้น หากผ่านได้คาดตลาดหุ้นทั่วโลกจะฟื้นตัวส่งท้ายปี ตอบรับช่วงไฮซีซั่น ซึ่งเป็นปีแรกที่ทั่วโลกคลายความกังวลและจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและขึ้นปีใหม่ 

.

คุณ ณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ในไตรมาส 4/2565 จนถึงไตรมาส 1/2566 เศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินจะมีปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ส่งผลต่อการลงทุนที่ต้องจับตา ปัจจัยแรก คือ ภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก หรือ Global Recession เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลังจากที่หายไปเกือบสามปี แต่ถึงอย่างไรเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อระดับสูงทั่วโลก ซึ่งกดดันต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค เนื่องจากการประกาศใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ FED รวมทั้งตลาดยังได้รับผลกระทบจากกรณีสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน  

.

“เศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มชัดเจนแล้วว่ากำลังเข้าสู่ Recession ตามมาด้วยยุโรป ทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อระดับสูงที่เคยเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนถูกเปลี่ยนมาเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยแทน ซึ่งการที่เกิด Recession จะส่งผลลบต่อตลาดหุ้นค่อนข้างมากถ้าเปรียบเทียบกับสถิติในอดีต”

.

ปัจจัยที่สอง การผิดนัดชำระหนี้ของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นกว่า 18% ในปีนี้ ส่งผลให้ค่าเงินของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นทุนสำรองอ่อนค่าลงอย่างมาก โดย IMF ได้ระบุว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เงินทุนสำรองของชาติต่าง ๆ ลดลงไปแล้วกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ การที่ทุนสำรองของประเทศต่าง ๆ ปรับตัวลดลงเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิด Default หรือ การผิดนัดชำระหนี้ในพันธบัตรรัฐบาล เนื่องจากต้นทุนในการชำระหนี้คืนเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศเกิดใหม่ หรือ Emerging Market ซึ่งถ้าหากเกิดขึ้นจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อตลาดการเงินอย่างแน่นอน

.

ปัจจัยที่สาม ความรุนแรงของสงครามรัสเซียและยูเครนที่มีแนวโน้มสูงขึ้น หลังจากที่สงครามระหว่างสองชาติยืดเยื้อนานเกินครึ่งปี ล่าสุดดูเหมือนว่าความรุนแรงจะทวีเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียกระดมพลสำรองเพิ่มของรัสเซีย ตลอดจนการเตรียมรับมือผลกระทบจากนิวเคลียร์ของยูเครน ถ้าหากเกิดความรุนแรงขึ้นจริงจะทำให้ตลาดเกิดแรงขายจากภาวะตื่นตระหนกได้

.

“ทั้งสามปัจจัยนี้ หากเกิดขึ้นจะทำให้ตลาดหุ้นและราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ ปรับตัวลดลงต่อและจะลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้ง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทองคำ บิทคอยน์ ต่างปรับตัวลงมาใกล้เคียงจุดต่ำสุดเดิมของปีนี้ ช่วงเวลานี้จึงยังไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าไปลงทุน เพราะยังมีความเสี่ยงที่จะเกิด Downside Risk ได้อยู่”

.

อย่างไรก็ตามถ้าหากยังไม่เกิดปัจจัยเสี่ยงทั้งสามนี้ อาจจะได้เห็นตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ ที่อาจจะเกิดความคึกคักทางเศรษฐกิจทั่วโลก เนื่องจากทั่วโลกคลายความกังวลจากกรณีการแพร่ระบาดของโควิด และกลับมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงเทศกาลคริสมาสต์และขึ้นปีใหม่ ยกเว้นประเทศจีนที่ยังใช้นโยบายเข้มงวด แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณของการที่นักท่องเที่ยวจีนที่เริ่มออกเดินทางไปต่างประเทศแล้วเช่นกัน

.

คุณ ณพวีร์ กล่าวว่า สำหรับสินทรัพย์ที่น่าลงทุน ได้แก่ “ทองคำ” ซึ่งแนวโน้มราคาจะปรับตัวสูงขึ้น หากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความรุนแรงขึ้น โดยคาดการณ์แนวต้านมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ “ตลาดหุ้นเวียดนาม” มีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังจากที่ผ่านมาได้ปรับตัวลดลงจากจุดสูงสุดแล้วเกือบ 40% ขณะที่ตลาดมีปัจจัยสนับสนุนจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2565 ที่เติบโตกว่า 13% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ แต่ระยะสั้นมีปัจจัยลบเรื่องน้ำมันหมดสต๊อก และข่าวลือประเด็นความไม่มั่นคงในสถานะการเงินของภาคธนาคาร ถ้าหากปัจจัยลบดังกล่าวไม่เกิดขึ้นจริง ถือเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นเวียดนาม

.

“กรณีที่เกิดปัจจัยเสี่ยงทั้งสามขึ้น ไตรมาส 4 ของปีนี้ อาจยังไม่ใช่จังหวะที่จะเข้าไปลงทุน แต่น่าจะเริ่มทยอยสะสมได้ ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีหน้า โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่น่าจะเกิด Recession ก่อนประเทศอื่น และจะผ่านพ้นไปก่อนประเทศอื่นด้วยเช่นกัน”

.

ขณะที่สัปดาห์นี้ มีไฮไลต์สำคัญทางเศรษฐกิจ คือวันพุธนี้ (12 ต.ค. 65) จะมีการเปิดเผยผลการประชุมของ FED ในรอบการประชุมครั้งที่ผ่านมา รวมถึงวันพฤหัสบดีนี้ (13 ต.ค. 65) จะมีการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ รอบเดือนกันยายน โดยตลาดคาดหวังว่าจะออกมาอยู่ที่ 8.1% ถ้าหากเงินเฟ้อประกาศออกมาสูงกว่าระดับนี้จะเป็นผลลบต่อตลาด เพราะนักลงทุนจะกังวลว่า FED จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง แต่ถ้าเงินเฟ้อปรับตัวลดลงจะส่งผลดีต่อตลาด

You Might Also Like

Pi ยกระดับการลงทุนในหุ้นไทยและ TFEX ผ่านแพลตฟอร์ม MT5 มอบโซลูชันการเทรดสุดล้ำให้กับนักลงทุน

AOT ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าถูก?

“เอกา โกลบอล” ประเมินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รับมือนโยบาย ‘ทรัมป์’

นโยบายประชานิยม กับดักความจน ตัวการพังเศรษฐกิจไทย?

TAGGED: การลงทุน, การลงทุนยุคใหม่, การลงทุนโลก, ตลาดหุ้น, นักลงทุน, สินทรัพย์, หุ้น, เซียนหุ้น, เศรษฐกิจ, เศรษฐกิจโลก

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin October 11, 2022
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article ตราสารหนี้ 01
Next Article ส่องเทรนด์ Pet Friendly
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?