CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ปิดตำนานสตาร์ซอกเกอร์ 30 ปี สยามสปอร์ตยังไหวไหม?
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Business > ปิดตำนานสตาร์ซอกเกอร์ 30 ปี สยามสปอร์ตยังไหวไหม?
Business

ปิดตำนานสตาร์ซอกเกอร์ 30 ปี สยามสปอร์ตยังไหวไหม?

connectthedots admin
Last updated: 2024/03/08 at 4:09 PM
connectthedots admin Published June 25, 2023
Share

ข่าวการปิดตัวหนังสือพิมพ์ นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ อาจไม่ใช่เรื่องแปลกในยุคปัจจุบัน จากสถานการณ์สื่อที่เป็นออนไลน์มากขึ้น
•
แต่ล่าสุดการปิดตัวหนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเกอร์รายวัน หลังตีพิมพ์และออกจำหน่ายกว่า 30 ปี ทำเอาแฟนบอลและแฟนกีฬาใจหาย เมื่อมีข่าวยืนยันว่า โดย บอ.บู๋ บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร คอลัมนิสต์ชื่อดังในเครือสยามสปอร์ตฯ ออกมาโพสต์ข้อความสั้นๆ ว่า “เล่มเล็กจะไม่มีแล้วนะครับ”
โดยออกฉบับสุดท้ายเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยเล่มใหญ่ที่ว่า นั่นคือ สยามกีฬา ซึ่งถือเป็นหนังสือพิมพ์หลักของสยามสปอร์ตฯนั่นเอง
•
สำหรับหนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเกอร์รายวัน วางจำหน่ายฉบับเเรกเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2535 เริ่มจากนิตยสารสตาร์ซอคเกอร์รายสัปดาห์ ก่อนวางจำหน่ายเป็นหนังสือพิมพ์รายวันจนถึงปัจจุบันดำเนินผลิตมาทั้งสิ้น 30 ปี
•
ย้อนไปจุดเริ่มต้นของบริษัท สยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด(มหาชน) หรือคนส่วนใหญ่มักคุ้นเคยกับชื่อ สยามกีฬา ก่อตั้งโดยนายระวิ โหลทอง อดีตหัวหน้าข่าวกีฬาหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ หรือเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว
•
เนื่องจากสมัยก่อน แหล่งข้อมูลในการติดตามฟุตบอลต่างประเทศของคนไทยยังค่อนข้างจำกัด แม้มีการนำเสนอข่าวสารฟุตบอลในหนังสือพิมพ์ แต่ก็เป็นเพียงกรอบเล็กๆ หรือเป็นเพียงรายงานผลการแข่งขันทางวิทยุเท่านั้น
•
อย่างฟุตบอลโลก แม้จะเริ่มแข่งขันกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2473 แต่กว่าที่คนไทยจะได้ติดตามฟุตบอลโลกอย่างจริงจัง คือปี พ.ศ. 2513 ที่ประเทศเม็กซิโก
•
ช่วงนั้นกระแสของฟุตบอลโลก ดังมากจนทำให้หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและเดลินิวส์ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า และเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่คนไทยได้ดูการถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์อีกด้วย
นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เกิดความนิยมในฟุตบอลต่างประเทศ นับแต่นั้นเป็นต้นมา
•
เมื่อคุณระวิ ตัดสินใจมาทำธุรกิจหนังสือพิมพ์กีฬาของตัวเองภายใต้ชื่อ หจก.สยามสปอร์ต
ช่วงนั้นมีแต่คนบอกว่าเขาบ้า ออกไปทำเองมีแต่จะขาดทุน เพราะกลุ่มคนที่สนใจข่าวสารด้านฟุตบอลคงมีจำนวนไม่มาก
•
แต่นั่นทำให้สยามสปอร์ตถือกำเนิดขึ้น โดยเริ่มจัดพิมพ์นิตยสารกีฬาสยามขึ้นเป็นฉบับแรก และมีนิตยสารสตาร์ซอคเก้อร์รายสัปดาห์ กับหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่สร้างชื่อเสียงให้แก่บริษัทฯ
•
โดยสตาร์ซอคเกอร์ รายสัปดาห์ ได้เริ่มออกจำหน่ายในปี 2518 และเป็นหนึ่งในนิตยสารที่ได้รับความนิยมสูงสุดของไทยในสมัยนั้น
•
ต่อมาในปี 2535 ได้ออกนิตยสารสตาร์ซอคเกอร์รายวัน โดยมีราคาขายครั้งแรกอยู่ที่เล่มละ 5 บาท จนมาถึงปัจจุบันอยู่ที่เล่มละ 20 บาท
•
ก่อนจะยุติการจำหน่าย ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สตาร์ซอคเก้อร์มียอดตีพิมพ์ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี
-ปี 2563 พิมพ์จำหน่าย 11,577 ฉบับต่อวัน
-ปี 2564 พิมพ์จำหน่าย 9,125 ฉบับต่อวัน
-ปี 2565 พิมพ์จำหน่าย 6,090 ฉบับต่อวัน
•
และสยามกีฬาถือว่าได้สร้างบุคลากรในวงการสื่อกีฬาชื่อดัง จากคนทำหนังสือพิมพ์ มาสู่ผู้ประกาศข่าวกีฬาทางโทรทัศน์ พิธีกรรายการโทรทัศน์ และผู้บรรยายกีฬา อาทิ ย.โย่ง เอกชัย นพจินดา หัวหน้าข่าวต่างประเทศ หนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน และบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเก้อร์รายวัน ที่เป็นผู้ประกาศข่าวและผู้บรรยายกีฬาที่ดังที่สุดและเป็นตำนาน
•
ตามมาด้วยน้องชายของย.โย่ง นั่นคือ น.หนู-ธราวุธ นพจินดา ซึ่งตามเอกชัยผู้เป็นพี่ชายมาทำงานที่สยามกีฬา ตั้งแต่ปี2525 โดยธราวุธก็เป็นรองหัวหน้า หรือผู้ช่วยดูแลงาน ในส่วนที่พี่ชายมอบหมาย
•
จากนั้น สยามสปอร์ตก็ส่งธราวุธไปทำข่าวการแข่งขันฟุตบอลโลก ที่ประเทศเม็กซิโก เมื่อปี 2529 และเป็นผู้สื่อข่าวชาวไทยคนแรก ที่ไปรายงานข่าวการแข่งขันฟุตบอลอังกฤษกลับมายังประเทศไทย
•
และยังมีอีกหลายท่าน เช่นพิศณุ นิลกลัด /สาธิต กรีกุล หรือ บิ๊กจ๊ะ / เอกราช เก่งทุกทาง /วีรศักดิ์ นิลกลัด / อดิสรณ์ พึ่งยา หรือ JACKIE
/ บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร หรือ บอ.บู๋ เป็นต้น
•
โดยจุดเด่นนอกจากการนำเสนอข่าวกีฬา โดยเฉพาะการแข่งขันฟุตบอลต่างประเทศที่โดนใจผู้อ่านแฟนบอลชาวไทยแล้ว สยามสปอร์ตฯถือว่าลงทุนส่งนักข่าวไปประจำที่ประเทศอังกฤษโดยตรง เพื่อไปรายงานข่าวและติตดามความเคลื่อนไหวแบบเจาะลึกและมีข้อมูลข่าวที่ไม่เหมือนใคร ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก ในยุคที่อินเตอร์เน็ตและโลกยังไม่ไร้พรมแดนเหมือนในปัจจุบัน
•
จนถึงสิ้นปี 2565 สยามสปอร์ตฯ มีหนังสือพิมพ์กีฬา 5 ฉบับ และนิตยสารด้านกีฬา
ประกอบด้วย สยามกีฬารายวัน เป็นหนังสือพิมพ์กีฬาฉบับแรกของบริษัท เริ่มจัดพิมพ์และจำหน่ายในปี 2527 เสนอข่าวกีฬาทุกประเภทกีฬาทั้งในและต่างประเทศ / สตาร์ซอคเกอร์รายวัน ซึ่งปัจจุบันปิดตัวแล้ว นำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับฟุตบอลโดยเฉพาะ /สปอร์ตพูลรายวัน เน้นเนื้อหาอัตราต่อรองกีฬาต่างประเทศ โดยเฉพาะฟุตบอล / สปอร์ตแมนรายวัน เน้นเนื้อหาอัตราต่อรองกีฬาทุกประเภททั่วโลก / ตลาดลูกหนังรายวัน มีเนื้อหาเกี่ยวกับโปรแกรม ผลการแข่งขัน และวิเคราะห์ฟุตบอลลีกรองของยุโรป /
สปอร์ตพูลสเปเชี่ยล วีคลี่ เนื้อหาเน้นการแนะแนวทางดูฟุตบอลจากเกจิลูกหนังอังกฤษ ทั้งอัตราต่อรอง ทีเด็ด วิเคราะห์ ทำนายผลสกอร์ และอื่น ๆ รวมทั้ง นิตยสารตามฤดูกาลที่มีการแข่งขันในต่างประเทศ โดยมีโรงพิมพ์เป็นของตัวเอง
•
และมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ธุรกิจโทรทัศน์ ธุรกิจอีเว้นท์ ธุรกิจดิจิทัลมีเดีย ธุรกิจระบบการจำหน่ายบัตร และธุรกิจรับจ้างพิมพ์
•
รวมทั้งในอดีตเคยเป็นเจ้าของสื่อบันเทิงผ่านบริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด รวมทั้งเคยจัดประกวดมีสทีนไทยแลนด์ หรือเป็นผู้ทำสถานีวิทยุกีฬา สปอร์ตเรดิโอ เป็นรายแรก หรือแม้แต่ร้านสตาร์ซอคเกอร์ ตามห้างสรรพสินค้าที่มีการจำหน่ายสินค้าและของที่ระลึกเกี่ยวกับฟุตบอลต่างประเทศ ที่มีหลายสาขาและได้รับความนิยมมากในยุค 90
•
เคยเป็นผู้บริหารบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันยังมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทั้ง2ฝ่ายเกือบ 1 พันล้านบาท และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณา แม้บางคดีทางสยามสปอร์ตฯจะชนะคดีแล้วก็ตาม
•
และทำให้ครอบครัวโหลทองเข้าไปบริหารสโมสรฟุตบอลอย่างเมืองทองยูไนเต็ดอีกด้วย
•
สยามสปอร์ตฯ ถือว่าประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจสื่อกีฬา สามารถเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เคยมีมูลค่ากิจการสูงถึงระดับหมื่นล้านบาท ก่อนที่ผลจากการขาดทุนต่อเนื่อง ทำให้มูลค่ากิจการเหลือต่ำกว่า 100 ล้านบาทมาแล้ว เมื่อปี 2561 และมีส่วนของผู้ถือหุ้นที่ติดลบ ทำให้ครอบครัวโหลทองต้องตัดสินใจซื้อหุ้นทั้งหมด เพื่อนำหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯในปี 2562
•
ที่ผ่านมา สยามสปอร์ตจะปรับตัวทางธุรกิจเหมือนหลายๆธุรกิจก็ตาม รวมทั้งเครือมติชนได้ว่าจ้างให้สยามสปอร์ตฯเป็นผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือพิมพ์ทั้งมติชนและข่าวสดให้แทน
•
แต่สยามสปอร์ตฯได้ชี้แจงถึงสาเหตุของการขาดทุนจำนวนมากและหลายปีติดต่อกัน มาจากผลกระทบอย่างรุนแรงจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี หรือ Digital Disrutpion ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการบริโภคข่าวสาร มีคนอ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารน้อยลง เพราะสามารถติดตามอ่านข้อมูลข่าวสารได้ผ่านทางเว็บไซต์และสื่อออนไลน์ ทำให้กระทบการขายสื่อสิ่งพิมพ์ของบริษัท ซึ่งผู้ประกอบการสื่อสิ่งพิมพ์ทุกราย ได้รับผลกระทบเช่นกัน รวมทั้งการใช้งบโฆษณาลดลงสำหรับสื่อสิ่งพิมพ์ตามภาวะเศรษฐกิจและความนิยมของคนอ่าน
•
ส่วนผลประกอบการของสยามสปอร์ตฯลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ และโฆษณาที่ได้รับผลกระทบแล้ว ก็เป็นผลมาจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย
•
-ปี 2563 รายได้รวม 413 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 187 ล้านบาท
-ปี2564 รายได้รวม 427 ล้านบาท ขาดทุน 307 ล้านบาท
-ปี 2565 รายได้รวม 326 ล้านบาท ขาดทุน 354 ล้านบาท
•
โดยปี 2565 รายได้สูงสุดมาจากการรับจ้างพิมพ์ 153 ล้านบาท คิดเป็น 36% และธุรกิจหนังสือพิมพ์ 84 ล้านบาท ดิจิทัลมีเดีย 25 ล้านบาท และนิตยสาร 42 ล้านบาท
•
ส่วนรายได้โฆษณา หนังสือพิมพ์อยู่ที่ 15 ล้านบาท แต่ดิจิทัลมีเดียอยู่ที่ 61 ล้านบาท
•
รายได้ที่ลดลงต่อเนื่อง และผลขาดทุนของสยามสปอร์ตฯ ก็ส่งผลต่อฐานะทางการเงิน ที่ขณะนี้ติดลบต่อเนื่องเกือบ 1 พันล้านบาท

-ปี 2563 : สินทรัพย์ 975 ล้านบาท หนี้สิน 1,243 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น -267 ล้านบาท

-ปี 2564 : สินทรัพย์835 ล้านบาท
หนี้สิน 1,411 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น -576 ล้านบาท

-ปี 2565 : สินทรัพย์ 550 ล้านบาท
หนี้สิน 1,474 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น -923 ล้านบาท

ซึ่งยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นและมีสภาพนี้มาหลายปีแล้ว
•
นอกจากนี้ แม้สยามสปอร์ตฯจะมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ ครอบครัวโหลทอง ถึง 97% และคนในครอบครัวโหลทองจะเป็นผู้บริหารใหญ่
แต่ปรากฎว่า ครอบครัวโหลทอง คือ บุตรชายของคุณระวิ โหลทอง ทั้งนายวิลักษณ์ โหลทอง ลาออกจากประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 และลาออกจากกรรมการเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 รวมทั้งนายวรรคสร โหลทอง ลาออกจากกรรมการเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2565
•
น่าสนใจว่า ผู้บริหารและคณะกรรมการที่ไม่มีครอบครัวโหลทองในขณะนี้ กำลังจะตัดสินใจทางธุรกิจอย่างไรต่อไป แม้จะยังคงดำเนินธุรกิจสื่อด้านกีฬาต่อไป หรืออาจจะเตรียมการทางนิติกรรมทางบริษัทในอนาคตหรือไม่ โดยเฉพาะหลังจากไม่ได้เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯมากว่า 4 ปีแล้ว
•
ทั้งหมดคือเรื่องราวของสยามสปอร์ตฯ เจ้าของธุรกิจสื่อกีฬาชื่อดัง กับการปิดตัวสตาร์ซอคเกอร์ แม้จะเป็นที่เสียดายของแฟนๆกีฬาและแฟนฟุตบอลก็ตาม
•
แม้จะเคยประสบความสำเร็จในวงการสื่อกีฬา และได้พยายามปรับตัวทางธุรกิจ แต่ด้วยสภาพตบาด พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวททั้งคู่แข่งสื่อกีฬาที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะในโลกออนไลน์ ที่ไม่ต้องใช้ทีมงานจำนวนมาก ทุกคนสามารถนำเสนอข่าวและข้อมูล และเข้าถึงได้แทบจะไม่แตกต่างกันในปัจจุบัน
•
ดังนั้นอนาคตบนเส้นทางธุรกิจของสยามสปอร์ตฯนับจากนี้ ที่จะต้องแก้ไขสถานะทางการเงินที่เป็นตัวชี้วัดทางธุรกิจที่สำคัญที่สุด
•
และการปิดตัวนิตยสาร หนังสือพิมพ์ หรือ สื่อสิ่งพิมพ์ อาจจะยังไม่มีแค่นี้ เพราะด้วยพฤติกรรมผู้บริโภค ที่ส่งผลต่อยอดจำหน่ายและยอดโฆษณาที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
•
แม้ผู้คนยังต้องการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร แต่การจะสามารถทำรายได้และกำไร คือสิ่งที่จะชี้วัดได้ในปัจจุบัน ส่วนความสำเร็จในอดีจ อาจกลายเป็นเพียงเรื่องเล่าขานและตำนานบนหนึ่งที่อาจหายไปตามกาลเวลานั่นเอง
•
สามารถติดตามความเคลื่อนไหว connect the dots ได้ที่
Facebook : Connect the Dots
YouTube : www.youtube.com/@th.connectthedots
และทาง Spotify Podcast : connectthedotsth
#Connectthedots
•
ที่มา :
-รายงานประจำปี 2565 บมจ.สยามสปอร์ตซินดิเคท
https://marketeeronline.co/archives/309601
https://www.pptvhd36.com/sport/news/197575
https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/1071135
https://thestandard.co/fa-thailand-vs-siam-
https://www.bangkokbiznews.com/news/844930
https://www.matichon.co.th/sport-slide/news_3623113

You Might Also Like

PTG โชว์ยอดขาย Non-Oil โต 32.2% กาแฟพันธุ์ไทย ขยายสาขาได้เฉลี่ย 1.5 สาขา/วัน

AOT ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าถูก?

เอพี ไทยแลนด์ โชว์ผลประกอบการ Q1/68 ยอดขายพุ่งทะลุ 12,110 ล้าน ย้ำศักยภาพทางการเงินแข็งแกร่ง

SET – Nasdaq ลงนาม MOU เสริมศักยภาพตลาดทุนไทยด้วยเทคโนโลยี

TAGGED: กีฬา, ธุรกิจ, สตาร์ชอกเกอร์

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin June 25, 2023
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article ขนาดของ “ก้นม้า” มากำหนดขนาดของไอพ่นจรวดได้อย่างไร?
Next Article ปลา อัจฉรา บุรารักษ์ จากร้านไอศครีม iberry สู่ร้านอาหารมากกว่า 10 แบรนด์
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?