ครึ่งแรกของปีนี้สถานการณ์ของตลาดคริปโตยังยากลำบากโดยเฉพาะการรุกหนักของ SEC สหรัฐฯ ที่ออกมาคุมเข้มผู้ประกอบการในสหรัฐฯไม่ว่าจะเป็น Binance USA จนถึง Coinbase รวมไปถึงการสั่งฟ้อง CZ ซึ่งเป็นซีอีโอของ Binance อีกด้วย ทำให้ตลาดคริปโตขาดความเชื่อมั่นอย่างหนัก
.
นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุน และคอลัมนิสต์จาก Connect the Dots ชี้ แม้ว่าราคา Bitcoin จะยังไม่เสียภาพการฟื้นตัวสู่ขาขึ้น แต่ราคาเหรียญ Altcoin เกือบทั้งตลาดถูกเทขายอย่างหนัก จนบางเหรียญราคาทำจุดต่ำสุดใหม่ในปีนี้ รวมถึงวอลลุ่มการซื้อขายที่หายไปกว่า 70% สาเหตุหลักมาจากการที่ SEC สหรัฐฯมีการบ่งชี้ไปยัง Altcoin หลายตัวเข้าข่ายการเป็นหลักทรัพย์ทำให้ต้องถูก Delist ออกจาก Exchange ในสหรัฐฯ
.
แม้ว่าตลาดคริปโตจะซื้อขายกันทั่วโลกแต่ต้องยอมรับว่าเม็ดเงินใหญ่ที่สุดยังคงอยู่ที่ตลาดสหรัฐฯซึ่งมีนักลงทุนสถาบันรวมอยู่ด้วย การที่นักลงทุนในตลาดสหรัฐฯขาดความเชื่อมั่นจึงทำให้วอลลุ่มซื้อขายในตลาดคริปโตทั่วโลกหายไปด้วย
.
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างยากที่ SEC สหรัฐฯจะปรับเปลี่ยนนโยบายที่มีต่ออุตสาหกรรมคริปโตในเวลานี้ ยกเว้นแต่จะมีการเปลี่ยนแปลงตัวประธานซึ่งยังไม่ถึงครบกำหนดวาระ
.
ท่ามกลางการกำกับดูแลอย่างเข้มข้นทำให้ผู้ประกอบธุรกิจคริปโตในอเมริกากำลังมองช่องทางที่จะขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียนในประเทศหมู่เกาะแคริเบี้ยนซึ่งจะทำให้สามารถเปิดการซื้อขายสินค้าที่เคยถูกห้ามในสหรัฐฯอย่างเช่นตราสารอนุพันธ์ได้
.
รวมถึงบาง Exchange ได้ขยายมายังประเทศในเอเชียโดยเฉพาะฮ่องกงซึ่งได้ปรับนโยบายใหม่หันมาเปิดรับคริปโตมากขึ้นหลังจากก่อนหน้านี้ได้ยึดตามนโยบายของรัฐบาลปักกิ่งที่สั่งห้ามซื้อขายคริปโตอย่างเด็ดขาด
.
แต่ปัจจุบันทางการฮ่องกงได้ผ่อนคลายกฎระเบียบให้รายย่อยสามารถซื้อขายคริปโตได้เฉพาะเหรียญที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ รวมถึงเปิดให้เข้ามาขอใบอนุญาต Exchange ได้จนทำให้ Exchange รายแห่งรวมถึงระดับ Top 5 ของโลกอย่าง OKX และ Huobi ให้ความสนใจที่จะเข้ามาขอไลเซ่นส์
.
นี้เป็นโอกาสหนึ่งที่จะทำให้ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักได้ถ้าหากเม็ดเงินที่เคยลงทุนในตลาดสหรัฐฯมีการย้ายเข้ามาลงทุนในตลาดฝั่งเอเชียที่มีนโยบายส่งเสริมคริปโตอย่างชัดเจน เพราะแท้จริงแล้วฝั่งเอเชียมีนักลงทุนคริปโตเป็นจำนวนมากเพียงแค่จำนวนเม็ดเงินลงทุนอาจจะน้อยกว่าฝั่งตะวันตก
.
นอกจากนี้ช่วงไตรมาสแรกของปีหน้าจะเกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving ขึ้นอีกครั้งซึ่งทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์นี้ราคา Bitcoin จะปรับตัวขึ้นและเป็นสัญญาณเริ่มต้นขาขึ้นรอบใหม่ของตลาดคริปโตซึ่งเป็นไปได้ว่าตลาดจะเริ่มลงมือก่อนล่วงหน้าในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้
.
อย่างไรก็ตาม การที่ FED ให้แนวทางนโยบายการเงินไว้ว่าจะยังไม่มีการลดดอกเบี้ยในปีนี้อาจทำให้กระแสฟันด์โฟลว์ยังไม่ไหลเข้ามาในตลาดคริปโตได้มากนัก ประกอบกับตอนนี้ยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆที่จะเข้ามาทำให้ตลาดมีความน่าสนใจ เราจึงยังไม่สามารถคาดหวังได้ถึงภาวะกระทิงที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้จนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
.
สรุปคือคริปโตยังมีโอกาสจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้ โดยตัวนำตลาดยังคงเป็น Bitcoin และถึงตามมาด้วยเหรียญ Altcoin มาร์เกตแคปใหญ่ ส่วนเหรียญเก็งกำไรคงจะตามมาในช่วงท้ายของตลาดขาขึ้น ช่วงนี้นักลงทุนคริปโตจึงต้องเฝ้ารอต่อไปก่อน
.
ถึงอย่างไรเราก็พอจะมองออกแล้วว่าตอนนี้เราอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่แย่ที่สุดของตลาดแล้วหลังจากนี้น่าจะมีโอกาสจะเห็นแสงสว่างรออยู่
•
สามารถติดตามความเคลื่อนไหว connect the dots ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/th.connectthedots
YouTube : www.youtube.com/@th.connectthedots
และทาง Spotify Podcast : connectthedotsth
#Connectthedots