ทุกๆครั้งของวัฐจักรขาขึ้นในโลกคริปโตจะมาพร้อมกับธีมการลงทุนหรือ Narrative ใหม่เสมอ
ตลาดขาขึ้นรอบที่แล้วเราจะได้ยินชื่อของ DeFi, GameFi และ Metaverse แต่ปีหน้าซึ่งคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นรอบใหม่อาจจะเป็นธีมของ Real World Asset หรือสินทรัพย์ในโลกการเงินดั้งเดิมที่จะเข้ามาสู่บล็อกเชน
โลกคริปโตที่เคยมองว่าถูกแยกออกจากโลกของการเงินดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิงกำลังจะเปลี่ยนไปโดยมีเม็ดเงินที่อยู่ในระบบเศรษฐกิจไหลเข้ามาในโลกคริปโตอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หนึ่งในตัวจุดประกายของเรื่องนี้ก็คือการที่ ก.ล.ต.สหรัฐฯมีโอกาสที่จะอนุมัติจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF ซึ่งจะดึงเม็ดเงินจำนวนมหาศาลจากนักลงทุนสถาบันเข้ามาสู่ Bitcoin
และบางส่วนอาจจะไหลเข้าไปยังตลาดคริปโตอื่นๆ แต่ Real World Asset ยังมีอีกหลายมิติที่น่าจะได้เห็นในปี 2024 ซึ่งจะมาทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนเดิมที่มีอยู่พัฒนาขึ้นไปอีกระดับ
ไม่ว่าจะเป็นการ Tokenize โปรดักต์การเงินดั้งเดิมให้อยู่ในรูปแบบโทเคนดิจิทัลบนบล็อกเชน เพื่อลดต้นทุนในการทำธุรกรรมและทำให้เกิดกระบวนการ Fraction แตกย่อยความเป็นเจ้าของให้ผู้ที่มีเงินน้อยสามารถเข้าถึงได้
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วคือการ Tokenize พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯผ่านแพลตฟอร์ม Ondo Finance ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถลงทุนได้
สินทรัพย์การลงทุนต่างๆเช่นอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน งานศิลปะ ฯลฯ จะถูก Tokenize ให้เป็นโทเคนดิจิทัลเพื่อใช้ในการระดมทุนและกระจายความเป็นเจ้าของ (Fractional Ownership) เพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของสินทรัพย์ต่างๆแทนที่จะต้องใช้เงินจำนวนมากเป็นเจ้าของคนเดียว
DeFi ที่จะมีสินทรัพย์ดั้งเดิมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรม ตัวอย่างเช่น AAVE และ MakerDAO ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Lending Protocol ในสายของ DeFi จากเดิมที่ต้องใช้คริปโตในการทำธุรกรรมก็เปิดให้ใช้สินทรัพย์ทั่วไปมาใช้วางเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอกู้เหรียญ DAI มาใช้งาน หรือ AAVE ที่เปิดให้ผู้ลงทุนนำสินทรัพย์ดั้งเดิมมาวางเป็นสินทรัพย์ค้ำประกันการปล่อยกู้แบบ Decentralized ได้
GameFi Metaverse และ NFT จะได้เห็นการเข้ามาของภาคธุรกิจที่นำโปรดักต์ของตัวเองเข้าสู่โลกของบล็อกเชน นอกจากจะเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานยังทำให้มีเม็ดเงินใหม่ๆเข้ามาสู่เทคโนโลยี GameFi Metaverse และ NFT ทำให้แพลตฟอร์มเหล่านี้มีเสถียรภาพมากขึ้นจากเดิมที่มีเพียงแค่สินทรัพย์แบบดิจิทัล
Real World Asset ยังมีส่วนผลักดันให้เกิดการใช้งาน Public Blockchain ทั้งกลุ่มของ Blockchain Layer1 อย่างเช่น Ethereum รวมถึงบางเชนอย่าง Avalanche ที่มีการทำงานกับสถาบันการเงินอย่าง JPMorgan และ Citi ที่นำบล็อกเชนมาใช้ Tokenize เงินฝากเพื่อการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำลง นอกจากนี้ยังมี Oracle Protocol อย่าง Chainlink ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลของสินทรัพย์การเงินดั้งเดิมให้เข้าสู่บล็อกเชนก็จะมีการใช้งานที่ขยายตัวขึ้น
มูลค่าตลาดคริปโตเคยมีมูลค่าสูงสุด 3 ล้านล้านดอลลาร์ แต่การมาของ Real World Asset จะทำให้มูลค่าตลาดคริปโตเติบโตอย่างก้าวกระโดดเปรียบเสมือนกับมวลน้ำขนาดใหญ่ไหลเข้ามาในคลองเล็กๆจนขยายตัวเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ได้ในที่สุดและโลกคริปโตจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
เขียนโดย นเรศ เหล่าพรรณราย Founder Ricco,นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย