ส่องแนวโน้มหุ้น IPO ปี 2024 มี 257 บริษัท มีแนวโน้มจะ IPO ในอีก 12 – 18 เดือนข้างหน้า สหรัฐ – อินเดีย – จีน 3 อันดับแรก กลุ่ม Enterprise Tech มาแรง มูลค่าประเมินสูงสุดอยู่ในกลุ่มเฮลธ์แคร์ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เปิด 3 หุ้น IPO มูลค่าสูงสุดในสหรัฐ จ่อ IPO เร็ว ๆ นี้
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ร่วมกับ สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน (CMRI) เปิดเผยแนวโน้มการ IPO ของบริษัทร่วมทุนทั่วโลก ในปี 2024 พบว่า มี 257 บริษัทร่วมทุนที่มีแนวโน้มว่าจะ IPO ในอีก 12 ถึง 18 เดือนข้างหน้า โดย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. สหรัฐอเมริกา 153 บริษัท 2. อินเดีย 31 บริษัท และ 3. สหราชอาณาจักร 9 บริษัท
สำหรับประเทศที่มีมูลค่าประเมินของบริษัทสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. สหรัฐอเมริกา 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ 2. อินเดีย 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 3. จีน 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าประเมินเฉลี่ยสูงสุด คือ สาขา Healthcare & Life Sciences โดยมีมูลค่ารวมประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถัดมาคือ สาขา Media & Entertainment จำนวน 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สาขา Consumer & retail จำนวน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เช่นเดียวกับ สาขา Financial Services จำนวน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และสาขา Industrials จำนวน 2.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
กลุ่มอุตสาหกรรม Enterprise Tech มีจำนวนบริษัท IPO สูงสุด 103 บริษัท ส่วนมูลค่าระดมทุนเฉลี่ยสูงสุด คือกลุ่ม Industrials อยู่ที่ 810 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับประเทศไทยมี Flash Express เป็นบริษัทเดียวที่มีแนวโน้มจะได้ IPO จัดอยู่ในกลุ่ม Industrials โดยมีมูลค่าประเมิน 807 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเลื่อนมาจากปีที่แล้ว
ส่อง IPO มูลค่าสูง จากเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง
ทิศทางหุ้น IPO ของสหรัฐ ในเดือนเมษายนมีแนวโน้มมูลค่าสูงขึ้น หลังอัตราดอกเบี้ยปรับทิศสู่ระดับปานกลาง และอยู่ในช่วงขาลง ซึ่งสัญญาณดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา สังเกตได้จากดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้นถึง 24.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี MSCI ของโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.7% และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การประเมินราคาหุ้น IPO มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษต่อการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการประเมินมูลค่า
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า แนวโน้มหุ้น IPO สหรัฐ ในช่วง 12 – 18 เดือนข้างหน้าที่จะออกมา มีมูลค่าประเมินไว้ราว 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับแนวโน้มหุ้น IPO ของสหรัฐ ที่มีการประเมินมูลค่าสูง และคาดว่าจะสร้างความร้อนแรงในตลาด มี 3 ตัวที่น่าสนใจ ดังนี้
Stripe มูลค่า IPO 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
Stripe บริษัทผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลจากไอร์แลนด์ ถือว่าร้อนแรงสุด ๆ ในขณะนี้ แม้จะยังไม่กำหนดวันเสนอขายหุ้น IPO แต่คาดว่าจะเป็นหุ้น IPO ที่ใหญ่ที่สุดในปี 2024 ธุรกิจบริการชำระเงินออนไลน์สำหรับอีคอมเมิร์ซของ Stripe มีความแข็งแกร่ง โดยมีปริมาณการชำระเงินถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 เพิ่มขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า และมีกระแสเงินสดที่เป็นบวก เป็นรองเพียงแค่ Paypal ระบบการชำระเงินระดับโลก
Stripe ได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก โดยมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่แข็งแกร่ง และเป็นผู้นำในตลาดระบบชำระเงินดิจิทัล จากข้อมูลของ Statista มีส่วนแบ่ง 18% จากตลาดเทคโนโลยีระบบการชำระเงิน รวมถึงมีส่วนแบ่ง 45% ในบริการซื้อก่อน จ่ายทีหลัง (buy now, pay later) เป็นอุตสาหกรรมที่ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง และ Stripe มีโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้เป็นอย่างดี
Shein มูลค่า IPO 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
Shein ผู้จำหน่ายสินค้าแฟชั่นรายใหญ่จากสิงคโปร์ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ในปี 2024 โดยกำลังพิจารณาจะเข้าระดมทุนในตลาดสหรัฐ หรืออังกฤษ ซึ่งล่าสุดมีแนวโน้มว่าฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐจะแจ้งข้อกล่าวหากรณีบังคับใช้แรงงานไม่เป็นธรรมในจีน และมีการหลบเลี่ยงภาษีจากการส่งสินค้าโดยตรงจากจีนสู่ประเทศต่าง ๆ ในโลก รวมถึงส่งข้อมูลคำสั่งซื้อสินค้าไปยังผู้ผลิตเสื้อผ้ากว่า 5,000 รายทั่วโลก ที่มีการขายสินค้าราคาถูกผ่านแพลตฟอร์มของ Shein
การประเมินมูลค่าที่ค่อนข้างสูงของ Shein สะท้อนถึงความโดดเด่นในการทำธุรกิจแบบ Fast Fashion โดยใช้ประโยชน์จากห่วงโซ่อุปทานที่คล่องตัว และมีการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว ทำให้ Shein เป็นหนึ่งในหุ้น IPO ที่ร้อนแรงที่สุดในปี 2024 นี้
Astera Labs Inc. หรือ ALAB มูลค่า IPO 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
Astera Labs เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันการเชื่อมต่อสำหรับ AI และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ได้ประกาศราคาเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกจำนวน 19.8 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่ราคา 36 ดอลลาร์ต่อหุ้น การซื้อขายหุ้นเปิดที่ 52 ดอลลาร์ต่อหุ้นในวันที่ 20 มีนาคม ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินเดิมถึง 46% ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนที่จะตกลงมาที่ราคา 64.49 ดอลลาร์ในวันที่ 19 เมษายน 2567 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดราคาเป้าหมายในช่วง 1 ปี อยู่ที่ประมาณ 86 ดอลลาร์ต่อหุ้น
Astera ถือเป็นหนึ่งใน IPO ที่ร้อนแรงที่สุดในปีนี้ โดยได้ประโยชน์จากความต้องการของนักลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งบริษัท AI ส่วนใหญ่ ยังใหม่สำหรับการเข้าตลาดฯ แต่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วนอกตลาด ปัจจุบันมีบริษัทมหาชนเพียงไม่กี่แห่งที่เข้าระดมทุน ทำให้ไม่ว่าจะเป็น Arm, Nvidia และ Astera จึงมีผลการดำเนินงานที่ดี และนักลงทุนมองเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคอินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ ยังมีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI และมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเข้าระดมทุนในระยะเวลาอันใกล้นี้ ได้แก่ บริษัทชิป การจัดเก็บข้อมูล และโครงสร้างพื้นฐานของ AI และมีความต้องการอย่างมากจากนักลงทุน
สำหรับหุ้น IPO ของไทย ตั้งแต่ต้นปี 2567 ที่ผ่านมา เสนอขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) รวม 6 ตัว ได้แก่ SPREME NEO BKGI NL CREDIT ADVICE โดยมี 2 ตัว ได้แก่ SPREME และ CREDIT ซึ่งราคาซื้อขายวันแรกลดลงจากราคาเสนอขาย ส่วนปี 2566 มีทั้งหมด 20 ตัว สำหรับ SET มีเพียง 6 ตัวเท่านั้นที่มีราคาซื้อขายวันแรกสูงกว่าราคาเสนอขาย ขณะที่ mai 20 ตัว มี 6 ตัวที่ติดลบ
อย่างไรก็ตาม สำหรับหุ้น IPO แม้จะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจ ขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงเฉพาะตัว การประเมินมูลค่าที่สูง อาจทำให้นักลงทุนต้องจ่ายเงินมากเกินไป และเมื่อมีการเทขายหุ้นออกมาจากผู้ถือหุ้นจะทำให้ราคาตกต่ำลงได้ ดังนั้นนักลงทุนควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่จะทำให้พอร์ตการลงทุนของคุณเสียหาย