หากพูดถึงอาหารที่มีแทบทุกบ้าน หนึ่งในนั้นต้องมีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแน่นอน เพราะนอกจากจะเป็นหนึ่งในอาหารที่สะดวกสบายที่สุดแล้ว ใช้เวลาเตรียมเพียงไม่กี่นาทีโดยที่ไม่ต้องทำอาหารเป็นเลยด้วยซ้ำ แถมยังอร่อยและมีราคาไม่แพง เป็นตัวเลือกในการประหยัดได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญคือมันเป็นอะไรที่กินง่ายจนเข้าถึงผู้บริโภคได้หลากหลายกลุ่มมาก ๆ ตั้งแต่เด็กยันแก่เลย นั่นทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่ครองใจผู้บริโภคและมีอยู่ติดครัวคนจำนวนมากมาเป็นเวลานาน และในทุกวันนี้ยิ่งได้รับความนิยมกว่าเดิมมาก ทำให้ผู้สร้างสรรค์บะหมี่กึ่งเจ้าแรกอย่าง Nissin เติบโตเป็นเจ้าใหญ่ในตลาดบะหมี่กึ่งฯ มูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท)
สิ่งที่บางคนรู้แล้วแต่หลายคนก็ยังไม่รู้ หรืออาจไม่เคยสนใจก็คือ Nissin เป็นเจ้าแรกที่ริเริ่มประวัติศาสตร์ของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อปี 1958 โดย “โมโมฟุกุ อันโด” ผู้ก่อตั้ง Nissin ด้วยแนวคิดอยากสร้างอาหารที่ราคาย่อมเยาและสะดวก เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาหารในช่วงการฟื้นฟูประเทศ จึงพัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองแรกของโลกขึ้นมาและเป็นที่รู้จักในชื่อ “Chikin Ramen” หรือว่าราเมนรสไก่ กลายเป็นรากฐานของอุตสาหกรรมและปฏิวัติวัฒนธรรมอาหารของโลกนี้ไปตลอดกาล
ตัดภาพมาในปัจจุบันนี้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลก เป็นวัฒนธรรมที่แพร่ขยายไปทั่วในทุกทวีป ตลาดบะหมี่กึ่งฯ ทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 54,600 ล้านเหรียญสหรัฐ และความต้องการบะหมี่กึ่งฯ ทั่วโลกก็สูงมากด้วย จนในปี 2022 ทั่วโลกกินบะหมี่กึ่งฯ กว่า 1.2 แสนล้านเสิร์ฟแล้ว ซึ่งเรียกได้ว่าสูงเป็นประวัติการณ์เลย ทั้งนี้คาดว่ามันเป็นผลที่เกี่ยวข้องโดยตรงจากเงินเฟ้อและปัญหาเศรษฐกิจหลังโควิดนั่นแหละ เพราะข้าวของมันแพงขึ้น บะหมี่กึ่งเลยเป็นทางรอดที่ดีในสถานการณ์อย่างนี้
ซึ่งแน่นอนแหละว่าจีนที่มีประชากรมากเกือบที่สุดในโลกเป็นชาติที่มีการบริโภคเยอะที่สุด รวมถึงชาติอื่น ๆ ในเอเชีย เพราะคุ้นเคยกับการกินบะหมี่ในวัฒนธรรมอยู่แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือกลายเป็นว่าชาติอย่างเม็กซิโกและอเมริกาเองที่ไม่ได้มีวัฒนธรรมการกินบะหมี่อยู่แล้วกลับมียอดบริโภคบะหมี่กึ่งฯ พุ่งขึ้นด้วย นั่นทำให้เห็นว่าปัจจัยทางการเงินมันก้าวข้ามปัจจัยด้านวัฒนธรรม ผลักดันบะหมี่กึ่งฯ เข้าเส้นเลือดชาวอเมริกันไปด้วยแล้ว
ท่ามกลางการเติบโตของตลาดบะหมี่กึ่งฯ ที่พุ่งสูงแบบนี้ เราก็จะเห็นผู้เล่นในตลาดมากมายหลายเจ้า และมีกลยุทธ์การแข่งขัน การพัฒนารสชาติของผลิตภัณฑ์แตกต่างกันไป แต่แม้จะแข่งกันเดือดแดงแค่ไหน จะสังเกตได้ว่า Nissin ยังคงเป็นผู้เล่นเบอร์ใหญ่อยู่ โดยนอกจากจะเป็นเจ้าแรกแล้ว Nissin ก็ไม่เคยหายไปไหน ยังรักษาพื้นที่ในตลาดของตัวเองไว้ได้เสมอ และยังเป็นหนึ่งแบรนด์ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมนี้อย่างมาก
ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา Nissin มุ่งเน้นในการพัฒนารสชาติที่หลากหลายและตัวเลือกบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบสนองต่อรสนิยมที่แตกต่างกันของผู้บริโภคทั่วโลก ตั้งแต่บะหมี่ถ้วยแบบดั้งเดิม (ซึ่ง Nissin ก็ทำเป็นเจ้าแรกอีกแล้ว) สู่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากหลากหลายวัฒนธรรม
หนึ่งในปัจจัยที่มีส่วนร่วมในการสร้างอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้เติบโตได้โดยที่ Nissin ยังเป็นผู้นำเสมอ คือ การรับมือกับความต้องการที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภค อย่างเทรนด์การกินอาหารที่มีประโยชน์และดีต่อสุขภาพมากขึ้น Nissin ก็ได้ตอบรับโดยทำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปโซเดียมต่ำ ที่มีโซเดียมน้อยกว่าเดิม 28% โดยวิจัยเกลือกว่า 173 แบบกว่าจะได้สูตรที่ใช่และยังอร่อยเหมือนเดิม และมีแม้กระทั่งบะหมี่วีแกน การมุ่งมั่นนี้ไม่เพียงเพิ่มคุณภาพสินค้าของแบรนด์เท่านั้น แต่ยังช่วยดึงดูดผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพที่อาจเคยหลีกเลี่ยงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้หันมาชายตามองได้
นอกจากนี้ Nissin ยังรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว นำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาพัฒนาใช้ในหลาย ๆ ด้าน มีการพัฒนาเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ขั้นสูงได้ยืดอายุอายุของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปให้นานขึ้นในขณะที่ยังคงรักษารสชาติและความกรอบ และยังปรับปรุงเพื่อลดการใช้กาวและพลาสติกที่ไม่จำเป็น เพื่อสร้างขยะที่น้อยลงและเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้บริโภคอีกด้วย และยังมีการร่วมคิดค้นพัฒนาเนื้อสัตว์ที่มาจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เตรียมรับปัญหาขาดแคลนอาหารในอนาคตอีก
แน่นอนว่า Nissin เองก็ไม่เคยลืมใส่ใจเรื่องสำคัญอย่างการตลาด เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่ได้จำกัดตัวเองไว้แค่วงการบะหมี่กึ่งฯ ร่วมจับมือกับแบรนด์ต่าง ๆ สร้างสินค้าหลุดโลกมากมายที่ปั่นกระแสให้แบรนด์ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหูฟังรูปถ้วยบะหมี่ กระเป๋าถ้วยบะหมี่ ไหมขัดฟันรสบะหมี่กึ่งฯ โซจูกลิ่นบะหมี่ถ้วย และยังเคยทำบะหมี่แปลก ๆ อย่างบะหมี่เกมมิง ที่ออกแบบมาสำหรับไลฟ์สไตล์ของเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ ก็ต้องยอมรับจริง ๆ แหละว่ามันแปลกแต่มันดี นอกจากนี้ก็ยังเคยทำสินค้าต่อยอดอย่างถ้วยตวงน้ำสำหรับทำบะหมี่กึ่งฯ โดยเฉพาะออกมาอีก พร้อมรับจบระบบนิเวศบะหมี่กึ่งฯ เลย
ที่เล่ามาแม้จะดูเป็นเรื่องพื้นฐานที่หลาย ๆ แบรนด์ก็คงทำกัน แต่ในฐานะเจ้าแรก Nissin มีข้อได้เปรียบสูง และตัดสินใจทำทุกอย่างแบบที่ควรทำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้แหละนี่ทำให้ Nissin ยังเป็นรายใหญ่ในตลาดบะหมี่กึ่งฯ ทั่วโลก และปีล่าสุดก็ทำรายได้ไปกว่า 569,722 ล้านเยน หรือกว่า 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ด้วยตลาดในอเมริกาและเม็กซิโกที่เติบโต Nissin เองก็เล็งเห็นโอกาสดี และประกาศเตรียมขยายฐานการผลิต เตรียมสร้างโรงงานและลงทุนเพิ่มในอเมริกาและเม็กซิโกด้วย เพื่อบุกตลาดข้ามวัฒนธรรมอย่างเต็มรูปแบบ
ที่มา:
https://www.prnewswire.com/…/nissin-foods-usa-increases…
https://asia.nikkei.com/…/Global-instant-noodle-demand…
https://www.nissin.com/en_jp/about/history/
4q_financial_statement.pdf (nissin.com)