จากกรณี “เจ้าทองดี” น้องหมาตัวต้นเรื่องหายออกจากบ้านไป เจ้าของได้ตั้งรางวัลนำส่งคืนให้ถึง 50,000 บาท ก่อนจะเป็นประเด็นเมื่อ คุณโอเล่ ผู้ที่พบเจ้าทองดีและเฝ้าไว้ให้นาน 9 ชั่วโมงก่อนเจ้าของจะมารับกลับไป แต่ไม่ให้เงินรางวัลตามที่ตกลง โดยล่าสุดในรายการโหนกระแส เรื่องจบลงที่เจ้าของจ่ายเงิน 20,000 ให้กับ คุณตี๋ เจ้าของร้านหมูกระทะที่พบเห็นเจ้าทองดีก่อน โดยคุณตี๋จะมอบ 20,000 บาทนี้ให้กับคุณโอเล่ และออกเงิน 30,000 บาททำบุญช่วยสัตว์ต่อไป
แม้นี่จะเป็นเคสบิดเงินที่น่าเจ็บใจไม่น้อย แต่จริง ๆ แล้วที่จีนเคยมีเคสบิดเงินรางวัลหมาหายที่ทำเอาโซเชียลเดือดยิ่งกว่านี้อีก และสุดท้ายไปจบที่คุก เพราะเขาไม่ได้บิดกันแค่หลักหมื่นบาท แต่บิดกันเกือบ 50 ล้านบาท
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่จีน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมปี 2023 เจ้าของที่ชื่อ หยาง ประกาศว่าสุนัขทหารเกษียณของเขาที่ชื่อ เทียนหลาง อายุ 8 ปี หายไปจากบ้าน ใกล้ทะเลสาบเป่ยหลงในเจิ้งโจว หยางได้ระบุไว้ว่าจะมอบเงินรางวัลจำนวน 10 ล้านหยวน (ประมาณ 48 ล้านบาทในตอนนั้น) ให้แก่ผู้ที่พบเจ้าเทียนหลางที่หายไป
สาเหตุที่เสนอเงินรางวัลมากขนาดนี้เป็นเพราะหยางบอกว่าเทียนหลางเหมือนเป็น “สมาชิกในครอบครัว” และได้เตือนว่าจะดำเนินคดีกับใครก็ตามที่ทำร้ายเทียนหลาง
ภายใน 24 ชั่วโมงเจ้าเทียนหลางก็ถูกพบและส่งคืน แต่หยางกลับไม่รักษาคำพูดและเสนอเงินรางวัลเพียง 5,000 หยวน (ประมาณ 24,000 บาท) เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความไม่พอใจในสังคมออนไลน์ โดยมีผู้คนบางส่วนกล่าวว่าหยางใช้รางวัลใหญ่เป็นการสร้างกระแสและทำลายความเชื่อมั่นระหว่างผู้คน ทั้งนี้ความคิดเห็นบางส่วนก็บอกว่า “เชื่อได้ไง เงินตั้ง 10 ล้านหยวน ใครจะไปให้” บ้างก็บอกว่า “ต่อให้จะกลายเป็นคดีความ ศาลก็คงมองว่าเงินรางวัลตั้ง 10 ล้านมันไม่สมเหตุสมผลอยู่ดี”
อย่างไรก็ตาม วันต่อมาตำรวจต้องเข้ามาสอบสวนและกักตัวเขาเป็นเวลา 15 วัน เนื่องจากการตั้งเงินรางวัล 10 ล้านหยวนแต่ไม่จ่ายจริงตามนั้น อาจเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงต่อสาธารณะ (Public Fraud) ในมุมมองกฎหมายของจีน โดยเฉพาะมีเจตนาให้ผู้อื่นหลงเชื่อเพื่อกระทำการบางอย่าง และการกักตัวนี้ถือเป็นบทลงโทษด้านการปกครอง (Administrative Penalty) ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานท้องถิ่นสามารถพิจารณากักขังบุคคลที่สร้างความเดือดร้อนได้ตามสมควรโดยไม่ต้องมีการตั้งข้อหาหรือพิจารณาคดีในชั้นศาล เพราะที่จีนค่อนข้างให้ความสำคัญกับความเชื่อมั่นในสังคมมาก เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้จึงต้องมีบทลงโทษไม่ให้ใครเอาเยี่ยงอย่าง