เกิดเรื่องระทึกขวัญชาวดอย Apple เมื่อมีรายงานว่าในช่วงวันที่ 1-2 เมษายน Tim Cook CEO ของ Apple บริษัทผู้ผลิต iPhone ขายหุ้น AAPL ที่ตัวเองถืออยู่ 2 ครั้ง รวม 196,245 หุ้น เป็นมูลค่า 33,258,614 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,200 ล้านบาท
แล้วทำไมอยู่ดี ๆ CEO ของ Apple ถึงขายหุ้นบริษัทมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ ทั้งที่ตั้งแต่ต้นปีหุ้นร่วงมาแล้วเกือบ 8% หมายความว่าบริษัทกำลังมีปัญหา Cook จะเททิ้งแล้วหรือเปล่า ถ้าใครกังวลแบบนี้อยู่ ขอให้สบายใจได้ เพราะสาเหตุของการขายไม่ใช่ปัญหาเหล่านั้นแน่นอน และจริง ๆ ไม่ใช่ปัญหาด้วยซ้ำ
แม้ Cook จะขายทิ้งไปเป็นแสนหุ้น แต่เขาก็ยังถือครองหุ้นของ Apple รวม 3,280,180 หุ้น ลดลงมาจาก 33,258,614 หุ้นที่มีก่อนขาย ซึ่งเกือบสองแสนหุ้นที่ขายไปถือว่าเล็กน้อยมาก เพราะฉะนั้น Tim Cook ยังไม่เททิ้งแน่นอน
อีกทั้งการขายในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการซื้อขายที่เรียกว่า “10b5-1” ที่ Cook ใช้มาตั้งแต่พฤศจิกายน 2022 ซึ่งกำหนดให้บุคคลภายในบริษัทซื้อขายหุ้นจำหนวนหนึ่งตามที่ไว้วางแผนไว้ในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันข้อกล่าวหาที่ว่าซื้อขายหุ้นโดยใช้ข้อมูลภายในที่รู้ก่อนคนอื่น
ที่สำคัญคือ Time Cook ยังได้รับโอนหุ้นสามัญจาก Apple จำนวนมากตามวันที่ที่ถูกำหนดไว้ เป็นส่วนหนึ่งของค่าตอบแทนด้วย ซึ่งปกติ Apple จะหักส่วนหนึ่งเอาไว้เสียภาษี
ซึ่งก็เข้าใจได้ว่านักลงทุนหลายคนจับตามองทุกความเคลื่อนไหวในการซื้อขายหุ้น Apple อย่างใกล้ชิด เพราะกังวลเรื่องปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้นและอนาคตของบริษัท แต่ถึงอย่างนั้น การซื้อขายแบบ 10b5-1 นี้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว และเป็นไปเพื่อความโปร่งใสเท่านั้น ไม่ได้สะท้อนถึงความผิดปกติหรือเหตุการณ์ใด ๆ ที่อาจกระทบต่อการดำเนินการของบริษัทและราคาหุ้นได้ อย่างตุลาคมปี 2023 Cook และผู้บริหารอีกสองรายก็ขายหุ้นไปรวม 100 ล้านดอลลาร์เลย
แต่ปัจจัยที่น่าจับตามองจริง ๆ ในช่วงนี้อาจเป็นเรื่องอื่นมากกว่า เพราะวิบากกรรมที่ซัด Apple ร่วงยาวล่าสุด คือการประกาศเปิด Apple Store เพิ่มในเซี่ยงไฮ้ แม้ยอดขายในจีนจะตกก็ตาม และคดีความที่ถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฟ้องเรื่องการผูกขาดที่ไม่เป็นธรรม ทั้งนี้การเปิดตัว iOS 17.5 ใน EU ดูจะเป็นเรื่องดีที่พอพยุง Apple ได้ ด้วยการเปิดให้ผู้ใช้ใน EU สามารถดาวน์โหลดแอปจากเว็บไซต์ของผู้พัฒนาได้โดยตรง เป็นไปตามกฎหมาย Digital Markets Act (DMA) ของทาง EU