CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: MINOR รายงานผลประกอบการ Q1/67 ผลกำไรสุทธิตามงบการเงินอยู่ที่ 1,146 ลบ.
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > News > MINOR รายงานผลประกอบการ Q1/67 ผลกำไรสุทธิตามงบการเงินอยู่ที่ 1,146 ลบ.
News

MINOR รายงานผลประกอบการ Q1/67 ผลกำไรสุทธิตามงบการเงินอยู่ที่ 1,146 ลบ.

CTD admin
Last updated: 2024/09/25 at 9:16 AM
CTD admin Published May 14, 2024
Share

บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“MINT”) รายงานผลประกอบการทางการเงินด้วยผลกำไรสุทธิตามงบการเงินอยู่ที่ 1,146 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2567 แม้ไตรมาส 1 จะเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวในทวีปยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจโรงแรมที่มีส่วนสำคัญและมีสัดส่วนรายได้มากที่สุด กำไรดังกล่าวปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากผลขาดทุน 976 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2566 ซึ่งเป็นผลมาจากผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้ออำนวย  ในส่วนของผลประกอบการจากการดำเนินงาน MINT มีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานจํานวน 352 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2567 (เนื่องจากอยู่ในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของธุรกิจโรงแรมในยุโรปตามที่กล่าวข้างต้น) นับเป็นการเติบโตร้อยละ 46 (ขาดทุนน้อยลง) จากผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานที่ 647 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2566 ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารของ MINT ต่างรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาส 1 ปี 2567 จากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทสามารถใช้การกําหนดราคาเชิงกลยุทธ์ (Dynamic Pricing) ผลักดันปริมาณการรับประทานอาหารในร้านให้เพิ่มขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน ไมเนอร์ โฮเทลส์ ประเทศไทย ไมเนอร์ โฮเทลส์ ออสเตรเลีย และไมเนอร์ ฟู้ดล้วนมีอัตราการเติบโตในระดับตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์ อเมริกาทําผลงานได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้โดยมีผลขาดทุนที่ลดลงในไตรมาสเมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน  

หลังจากการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท ซึ่งประกาศไปในไตรมาส 3 ปี 2566 ในส่วนที่เกี่ยวกับผลการดําเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 MINT ได้ประกาศจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดเพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือหุ้นในไตรมาส 1 ปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท สะท้อนถึงผลการดําเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 เมื่อรวมกันแล้วการจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดสําหรับปี 2566 รวมเป็นเงินปันผลจำนวน 0.57 บาทต่อหุ้น และคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ร้อยละ 45.1 นับว่าสูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ที่มากกว่าร้อยละ 30 ของกําไรสุทธิ การจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดนี้เกิดขึ้นได้จากผลประกอบการทางการเงินที่สูงกว่าคาด สถานะงบดุลที่ดีขึ้น การสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากการดําเนินงาน และแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567

สําหรับไมเนอร์ โฮเทลส์ กิจกรรมการเดินทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคต่างๆ และความสามารถของ MINT ในการเพิ่มราคาห้องพักเฉลี่ย ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนในไตรมาส 1 ปี 2567 เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 และ 35 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และช่วงก่อนการระบาดของ COVID-19 ตามลำดับ การเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในกลุ่มที่เดินทางเพื่อการพักผ่อนและกลุ่มธุรกิจในยุโรปส่งผลให้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยและราคาห้องพักเพิ่มขึ้น นำโดยสเปนที่มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเติบโตเข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามมาด้วยเบเนลักซ์ ลาตินอเมริกา ยุโรปกลาง และอิตาลี ประเทศไทยยังได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องต่อคืนเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มสูงกว่าระดับก่อนการระบาดของ COVID-19 ถึงร้อยละ 22 โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 81 เทียบเท่ากับปี 2562 ในขณะที่ราคาห้องพักสูงกว่าระดับปี 2562 ถึงร้อยละ 23 แม้จะมีอุปสรรคทางเศรษฐกิจมหภาค รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและแรงกดดันด้านเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง แต่ไมเนอร์ โฮเทลส์ยังคงสามารถทำอัตรากําไรที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566

ไมเนอร์ ฟู้ดมียอดขายโดยรวมทุกสาขาในไตรมาส 1 ปี 2567 เติบโตร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มสาขาใหม่ในประเทศไทย สิงคโปร์ และการเข้าซื้อสิทธิในแบรนด์ซิซซ์เล่อร์ ซึ่งส่งผลให้สามารถรวมสาขาแฟรนไชส์ที่มีอยู่ในญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้แบรนด์หลักของไมเนอร์ ฟู้ด โดยเฉพาะในประเทศไทย มียอดขายที่เพิ่มขึ้นจากความถี่ของการใช้บริการของลูกค้าที่มากขึ้น รวมถึงยอดการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น โดยมาจากนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์เป็นหลัก ขณะที่กำไรสุทธิของไมเนอร์ ฟู้ดเติบโตในอัตราที่แข็งแกร่งขึ้น โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากยอดขายที่เติบโตจากแบรนด์ในประเทศไทย ประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งของธุรกิจการผลิต รวมถึงผลการดําเนินงานที่ดีขึ้นของกิจการร่วมค้า การจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและผลผลิตที่สูงขึ้นยังมีส่วนช่วยขับเคลื่อนความสําเร็จที่น่าประทับใจดังกล่าว

ฐานะการเงินของ MINT ยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนลดลงจาก 1.01 เท่า ณ สิ้นปี 2566 เป็น 0.98 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการทางการเงินที่ดีขึ้น ประกอบกับการบริหารจัดการโครงสร้างเงินทุนเชิงรุกของ MINT ซึ่งจะสามารถเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจ จัดการต้นทุนทางการเงินอย่างเหมาะสม เพิ่มอัตราการเติบโตของผลกำไร และสร้างความมั่นใจเชิงเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาวในอนาคต การได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์ อเมริกาเมื่อเร็วๆ นี้จากฟิทช์ เรทติ้งส์เป็นการสะท้อนถึงแนวโน้มทางการเงินที่แข็งแกร่งของ MINT

ไตรมาสที่ 2 และ 3 เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของธุรกิจโรงแรมในยุโรปที่มีสัดส่วนรายได้ที่มากที่สุดของ MINT นอกเหนือจากความต้องการการเดินทางเพื่อพักผ่อนที่ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งและการจัดงานประชุมและงานแสดงสินค้าแล้ว ไมเนอร์ โฮเทลส์ ยุโรป แอนด์ อเมริกาจะได้รับอนิสงค์จากการแข่งขันกีฬาและความบันเทิง รวมถึงโอลิมปิกฤดูร้อน ฟุตบอลยูโร 2567 และงานคอนเสิร์ตดนตรี เนื่องจากพอร์ตโฟลิโอมีความแข็งแกร่งในทําเลสําคัญๆ ในเมืองที่มีการจัดกิจกรรม ควบคู่ไปกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นและการริเริ่มการอัปเกรดแบรนด์โรงแรม คาดว่าราคาห้องพักเฉลี่ยจะสามารถเพิ่มขึ้น รายได้รวมในเดือนเมษายนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยการเติบโตระดับตัวเลขสองหลัก ในขณะที่ยอดการจองห้องพักล่วงหน้าในเดือนพฤษภาคมมีการเติบโตร้อยละ 12 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินในเอเชีย ประกอบกับการปรับปรุงโรงแรมและการเพิ่มประสิทธิภาพของช่องทางการจัดจําหน่ายส่งผลให้รายได้จากห้องพักในประเทศไทยในเดือนเมษายนและยอดการจองห้องพักล่วงหน้าในเดือนพฤษภาคมสูงกว่าระดับปี 2566 ถึงร้อยละ 15 และ 26 ตามลําดับ ในขณะเดียวกัน ไมเนอร์ ฟู้ดมีเป้าหมายเพิ่มยอดขายจากการซื้อซ้ำของลูกค้าประจําและผลักดันการขยายฐานลูกค้าใหม่ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ได้แก่ การนําเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้น การเปิดตัวกิจกรรมพิเศษในเวลาจํากัด และการขับเคลื่อนโปรแกรมสมาชิกโดยมุ่งเน้นที่ความเป็นเลิศในการดําเนินงาน ไมเนอร์ ฟู้ดยังคงขยายธุรกิจในเอเชียด้วยการเปิดตัวซิซซ์เล่อร์ในเวียดนาม เดอะ พิซซ่า คอมปะนีในสิงคโปร์ และการต่อยอดของธุรกิจแดรี่ ควีนที่เพิ่งเข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซีย

นายดิลลิป ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ MINT กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รายงานผลการดําเนินงานที่น่าประทับใจเช่นนี้ในไตรมาส 1 ปี 2567 การจองห้องพักล่วงหน้าของโรงแรมมีความแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับความแข็งแกร่งของร้านอาหารของเราซึ่งชี้ให้เห็นถึงปีที่ดีอีกปีข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม เรายังคงขับเคลื่อนวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของเราในการบรรลุการเติบโตด้วยการบริหารสินทรัพย์ที่เหมาะสม (Asset-right) การเติบโตจากภายในองค์กร พร้อมกับการลดหนี้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับงบแสดงฐานะการเงินของเรา ขับเคลื่อนสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นและผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสําหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดในอนาคต”

You Might Also Like

G-Token รัฐบาล โยนหินถามทาง ‘คริปโท’ ผูกบัตรเครดิต ข้อดี-ข้อเสีย แนวทางอย่างไร?

Pi ยกระดับการลงทุนในหุ้นไทยและ TFEX ผ่านแพลตฟอร์ม MT5 มอบโซลูชันการเทรดสุดล้ำให้กับนักลงทุน

ครบ 2 ทศวรรษของการเปลี่ยนแปลง บ้านปู x มหิดล ส่งเยาวชนลุยภารกิจ “ลดคาร์บอนให้โลกคูลล์” ใน Power Green Camp ครั้งที่ 20 

บ้านปู ชวนร่วมงาน “ดีค้าบ เฟสติวัล” ฉลอง 20 ปี Power Green Camp 2-3 พ.ค. นี้ ที่อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

TAGGED: Minor, MINT, ไมเนอร์

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin May 14, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article “อีโวลูชั่น ดีซี (ไทยแลนด์)” บริษัทร่วมทุนโดยเซ็นทรัลพัฒนา ผนึกกำลังพาร์ทเนอร์ ผลักดัน Digital Economy ของไทย
Next Article บทเรียนที่ไม่ยอมรู้ของ “รถแดงเชียงใหม่” เคยผูกขาดก็ล้มได้หากไม่ปรับตัว
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?