ในเหตุสะเทือนขวัญชาวแคลิฟอร์เนีย ไฟป่าลามไหม้ทั่วเมืองลอสแอนเจลิสกินพื้นที่ไม่น้อยกว่า 20,000 เอเคอส์ และผู้คนนับแสนคนต้องอพยพ มีบ้านเรือนและห้างร้านกว่า 5,000 หลังที่ถูกทำลาย ยกเว้นบ้านหลังหนึ่งในมาลิบูที่ยังคงตั้งตระหง่านอย่างปาฏิหาริย์ท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้านเรือนโดยรอบ
บ้านหลังนี้คือบ้านของ เดวิด สไตเนอร์ (David Steiner) นักกฎหมายและนักธุรกิจอดีตเจ้าของบริษัทจัดการขยะ Waste Management Inc. ในตอนที่เกิดเหตุไฟไหม้นั้น สไตเนอร์และครอบครัวไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว แต่จากวิดีโอที่ผู้รับเหมาในท้องถิ่นส่งมาให้เขาดูแล้ว เขาคิดว่าบ้านของเขาก็คงไม่เหลือชิ้นดีแน่ ๆ
ไม่นานนักผู้คนก็เริ่มติดต่อเขาเพื่อว่าบ้านของเขาออกข่าว แต่ไม่ใช่เพราะมันพัง เพราะมันยังอยู่ดีเลยต่างหาก บ้านของสไตเนอร์ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางละแวกบ้านที่มอดไหม้ไม่เหลือเค้าโครง
พอเขาเห็นรูปบ้านของตัวเองที่ภรรยาส่งมาให้ดูพร้อมข้อความว่า “บ้านหลังสุดท้ายที่คงอยู่” เขาบอกว่า “มันสร้างรอยยิ้มกว้าง ๆ ได้ในช่วงเวลาที่เลวร้าย”
บ้านหลังนี้ของสไตเนอร์เป็นแมนชั่นสามชั้นขนาด 4,200 ตารางฟุต มีทั้งหมดสี่ห้องนอน ราคา 9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 312 ล้านบาท) ซึ่งเขาบอกว่า “มันถูกสร้างมาเหมือนเรือสำราญ” และน่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มันรอดจากไฟไหม้
บ้านถูกฉาบด้วยปูนและหินพร้อมหลังคากันไฟ มีเสาเข็มที่ฝังลึกลงไปในพื้นหินลึก 50 ฟุต ทำให้มีโครงสร้างที่แข็งแรงเพื่อทนต่อแผ่นดินไหวเป็นหลัก สไตเนอร์บอกว่า “ถ้ามีแผ่นดินไหว บ้านหลังนี้คือสิ่งสุดท้ายที่จะพังลง” แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าบ้านจะถูกไฟไหม้แล้วยังคงอยู่ “สถาปัตยกรรมดูดีเลยแต่ปูนฉาบและหลังคากันไฟนี่แหละของดีจริง ๆ”
อย่างไรก็ตาม สไตเนอร์เชื่อว่าบ้านน่าจะได้รับความเสียหายจากควันอยู่บ้างและประกันคงคุ้มครองแค่ครึ่งหนึ่งเท่านั้น
ทั้งนี้ สไตเนอร์ก็ตระหนักดีว่าความโชคดีของเขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในลอสแอนเจลิส บ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านที่เขาและครอบครัวอยู่อาศัยเป็นประจำ เป็นแค่บ้านที่เคยซื้อไว้ให้ลูกชายสองคนอยู่ตอนเรียนเท่านั้น
สไตเนอร์เน้นย้ำว่า “สิ่งที่ผมสูญเสียคือวัตถุ ผมสูญเสียทรัพย์สิน แต่คนอื่นสูญเสียบ้านของพวกเขา ผมไม่มีของสำคัญของครอบครัวที่นั่น มันไม่ใช่บ้านของครอบครัวของผม ผมขอส่งแรงใจให้ผู้ที่สูญเสียบ้านของพวกเขา”