หลังข่าวช๊อกวงการแพทย์ที่ถูกเปิดเผยไปเมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2567 ล่าสุดศาลอาญาออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ พร้อมกับพวกรวม 9 ราย จากข้อมูลความผิดหลอกชักชวนลงทุนธุรกิจการแพทย์ 5 โครงการ เบื้องต้นมีผู้เสียหายจำนวน 247 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท รวมถึงภรรยาและลูกสาวของหมอบุญ ถูกออกหมายจับเช่นกัน
หลังจากมีหมายเรียก นางจารุวรรณ และนางสาวนลิน วนาสิน ภรรยาและลูกสาวของหมอบุญ เข้ามองตัวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในช่วงบ่ายวันที่ 23 พ.ย. 2567 พร้อมทนายความ นายชำนาญ ชาดิษฐ์
มีการเปิดเผยจากทนายความของทั้งคู่ว่า ภรรยาและลูกสาวของหมอบุญ ให้การว่าถูกปลอมแปลงลายเซ็น โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำ แต่มีการนำเอกสารเหล่านั้นไปใช้กู้ยืมเงินตามข้อมูลในข่าว และนางจารุวรรณ ทราบเรื่องหลังจากมีหมายศาลฟ้องส่งมาเป็นระยะ ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เอกสารที่ถูกปลอมลายเซ็นนั้น ถูกใช้สำหรับการกู้ยืมเงิน และการค้ำประกัน
ทนายความยังให้ข้อมูลอีกว่า ในช่วงเวลาที่มีการกู้ยืมเงิน ค้ำประกัน นางจารุวรรณ เดินทางไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ รวมถึงมีการแจ้งความไว้ที่ บก.ปอศ. แล้ว ในช่วงที่มีการปลอมแปลงลายเซ็นเป็นช่วงที่ทั้งสองคนหย่าร้างกันแล้ว
ล่าสุด พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบชน. สรุปไทม์ไลน์ออกมาได้ดังนี้ เริ่มตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 1 คดี ปี 2567 ในเดือน พ.ค. มีการแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 6 คดี เดือน มิ.ย. แจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 8 คดี เดือน ก.ค. แจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 49 คดี ผู้เสียหายเพิ่มจำนวนมากขึ้น ในช่วงเดือน ส.ค. แจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 75 คดี เดือน ก.ย. แจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 84 คดี เดือน ต.ค. แจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 60 คดี และเดือน พ.ย. แจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง 66 คดี
ชนวนต้นเหตุของกลโกงจนเกิดความเสียหายหลายพันล้านบาท เกิดจาก หมอบุญและพวก กล่าวอ้างและสร้างความน่าเชื่อถือด้วยการออกสื่อผ่านทางเว็บไซต์ ในช่วงวันที่ 2-4 กุมภาพันธ์ 2566 นอกจากนี้ยังมีการให้สัมภาษณ์ลงสิ่งพิมพ์ ที่กล่าวอ้างถึงการระดมทุนในธุรกิจการแพทย์ 5 โครงการ โดยบอกว่าหากผู้สนใจเข้าร่วมลงทุนในปี 2566 จะได้ผลตอบแทนเป็นกำไรมากถึง 700 ล้านบาท และจะมีกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท ในปี 2567 ซึ่งทั้งหมดเป็นข้อมูลจากคำให้การของผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความ
5 โครงการดังกล่าว ได้แก่
- โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า บนเนื้อที่ 7 ไร่ งบประมาณการลงทุน 4,000 ล้านบาท
- โครงการเวลเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อที่ 5 ไร่เศษ งบประมาณโครงการ 4-5,000 ล้านบาท ลักษณะเป็นอาคารที่พักสูง 52 ชั้น ขนาด 400 ยูนิต
- โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เวียงจันทร์ 2 แห่ง จำปาสัก 1 แห่ง
- โครงการร่วมทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม งบประมาณลงทุน 4-5,000 ล้านบาท และ 5. โครงการเมดิตอล อินเทลลิเจน เน้นด้านไอที ใช้งบประมาณราว 100 ล้านบาท
และยังมีการบอกข่าวผ่านคนรอบตัว ครอบครัว พนักงาน โบรกเกอร์ซึ่งเป็นตัวแทนแจ้งแก่นักลงทุน โดยอ้างว่าตัวเองมีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนถูกต้องในตลาดหลักทรัพย์ และนี่จะเป็นการลงทุนที่ให้ค่าตอบแทนสูงกว่าสถาบันการเงิน
ลักษณะการลงทุนคือ จะมีการทำหนังสือสัญญาโครงการดังกล่าวเป็นสัญญากู้ยืมเงิน โดยให้ดอกเบี้ยกับผู้ลงทุนและจ่ายเช็คให้กับผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ ร่วมทั้งจ่ายเช็คล่วงหน้าเป็นค่าดอกเบี้ย โดย หมอบุญเป็นคนลงชื่อในเช็คดังกล่าว ขณะที่ภรรยาและลูกเป็นผู้ค้ำประกันเช็นหลังเช็ค ซึ่งเป็นการยืนยันว่า หากถูกฟ้อง ภรรยาและลูกสาวจะตกเป็นลูกหนี้ด้วย ซึ่งในช่วงแรกมีการชำระดอกเบี้ยให้เป็นบางส่วน แต่ต่อมาไม่มีการจ่าย รวมถึงเงินต้นไม่ได้คืน กระทั่งผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ผลปรากฎว่ามีการปฏิเสธการจ่ายเงิน
แม้ว่าปัจจุบัน นายแพทย์บุญ วนาสิน จะไม่มีอำนาจหรือตำแหน่งใน ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ปแล้วก็ตาม แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หมอบุญ เคยเป็นเหมือนไอคอนนิกของ THG แน่นอนว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจส่งผลต่อภาพลักษณะของธุรกิจ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม หลังจากนี้คงจะเป็นภาระอันหนักอึ้งของทีมผู้บริหารชุดใหม่ของ THG ที่ต้องฟื้นความมั่นใจนักลงทุนให้กลับคืนมา