CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: Nissan อาจหายไป? 1 ปีสุดท้ายก่อนกลายเป็นตำนาน
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > News > Nissan อาจหายไป? 1 ปีสุดท้ายก่อนกลายเป็นตำนาน
News

Nissan อาจหายไป? 1 ปีสุดท้ายก่อนกลายเป็นตำนาน

CTD admin
Last updated: 2024/12/02 at 11:02 AM
CTD admin Published December 2, 2024
Share

นิสสัน (Nissan) กำลังได้รับอยู่ในสถานการณ์คับขันที่อาจต้องล้มจนเหลือแค่ตำนานในเวลาอีกแค่หนึ่งปี แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นที่อยู่มานานกว่า 90 ปี แต่นี่อาจเป็นเฮือกสุดท้ายของนิสสัน หลังผลประกอบการและสภาพคล่องอยู่ในขั้นวิกฤต

จากการเปิดเผยรายได้ครึ่งปีแรกของนิสสันในปี 2024

– ยอดขายสุทธิ: 5,984.2 พันล้านเยน ลดลง 1.3% จากปีก่อน

– รายได้สุทธิ: 19.2 พันล้านเยน ลดลง 93.5% จากปีก่อน

– และในไตรมาส 3 ขาดทุนสุทธิกว่า 9.3 พันล้านเยนจากที่ปีก่อนเคยกำไรกว่า 1.9 แสนล้านเยนในไตรมาสเดียวกัน

สถานะทางการเงิน

– สินทรัพย์รวม: 18,889.1 พันล้านเยน ลดลงจาก 19,855.2 พันล้านเยน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024

– หนี้สินรวม: 12,605.6 พันล้านเยน ลดลงจาก 13,384.6 พันล้านเยน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024

– สินทรัพย์สุทธิ: 6,283.4 พันล้านเยน ลดลงจาก 6,470.5 พันล้านเยน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2024

นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นที่เรียกว่าเป็นหัวใจสำคัญของนิสสัน อย่าง เรโนลต์ กรุ๊ป (Renault Group) ก็ได้ทยอยขายหุ้นคืนมาแล้ว 3 ครั้งติดตั้งแต่พฤศจิกายน 2023 จนล่าสุดกันยายน 2024 เรโนลต์กรุ๊ปถือหุ้นนิสสันเพียง 35.71% จาก 43.4% จนพนักงานระดับสูงของนิสสันถึงกับให้ข่าวว่า “เราเหลือเวลาอีกแค่ 12 ถึง 14 เดือนเพื่อเอาตัวรอด”

นิสสันมาถึงจุดตกต่ำขนาดนี้ได้อย่างไร?

จุดเริ่มต้น

นัสสัน มอเตอร์ (Nissan Motor) เริ่มทำธุรกิจด้วยชื่อนี้ในปี 1933 แต่ตัวธุรกิจเองเริ่มมาตั้งแต่ปี 1911 โดยผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่นในโตเกียว และมีการควบรวมธุรกิจหลายครั้งจนมาอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้ง นิฮอน ซันเกียว (Nihon Sangyo) ซึ่งเป็นที่มาของชื่อนิสสัน และเข้าตลาดหุ้นโตเกียวในปี 1934

บริษัทโด่งดังจากการปั้นแบรนด์รถยนต์ ดัตสัน (Datsun) ซึ่งเน้นส่งขายในอเมริกาและได้รับความนิยมอย่างมากจนถูกนำเข้าเป็นอันดับต้น ๆ ต่อมาในปี 1983 ก็ได้ทำการรีแบรนด์ครั้งใหญ่เปลี่ยนมาใช้ชื่อแบรนด์ Nissan อย่างเต็มตัว (ทำให้หลายคนลืมดัตสันไปเลยด้วยซ้ำ)

ต่อมานิสสันก็ได้เริ่มพัฒนาแบรนด์รถหรูตีตลาดอเมริกาในชื่อ อินฟินิตี้ (Infiniti) ในปี 1989 ช่วงเวลาเดียวกับที่คู่แข่งร่วมชาติอย่าง โตโยต้า (Toyota) เริ่มแตกแบรนด์ เลกซัส (Lexus) ผลิตรถพรีเมียมขายในอเมริกาเหมือนกัน

วิกฤติแรก

หลังจากนั้นนิสสันก็เริ่มเข้าสู่วิกฤติครั้งแรก ในยุค 90s นิสสันได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจและค่าเงินเยนแข็งค่าหนัก แต่นอกจากนั้นก็คือการบริหารที่ย่ำแย่และความสามารถในการแข่งขันต่ำ รวมทั้งการขาดนวัตกรรม ยุค 90s คือช่วงเวลาที่รถ เอสยูวี (SUV) ได้รับความนิยมสูง แต่นิสสันก็ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย

นิสสันยอดขายตก มีหนี้สะสมกว่า 35 พันล้านดอลลาร์ จนในตอนนั้นถึงกับมีการคาดการณ์การว่านิสสันจะต้องล้มละลายแล้วด้วยซ้ำ

จนกระทั่งการเข้ามาของเรโนลต์ที่ตอนนั้นยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเล็กในฝรั่งเศส เข้ามาอุ้มด้วยการจ่าย 5.4 พันล้านดอลลาร์ซื้อหุ้นนิสสัน 37% และส่ง คาร์ลอส กอส์น (Carlos Ghosn) เข้ามาบริหารในตำแหน่ง CEO ใช้กลยุทธ์ลดต้นทุนและพัฒนาสินค้าจนทำให้นิสสันกลับมาทำกำไรได้อีกครั้ง แม้จะต้องปิดโรงงาน 5 แห่งในญี่ปุ่นและปลดพนักงานกว่า 14%

อย่างไรก็ตามด้วยทรัพยากรณ์และความร่วมมือจากเรโนลต์ นิสสันกลับมาผงาดอีกครั้ง และถึงกับซื้อหุ้น มิตซูบิชิ 34% ในปี 2016 เพื่อผนึกกำลังในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเติบโต

วิกฤติล่าสุด หรือ สุดท้าย?

“แม่สร้างขวัญได้ แม่ก็ทำลายขวัญได้” นี่คงเป็นวลีดังที่นิสสันฟังแล้วต้องเจ็บ เพราะกอส์น คนที่ช่วยชีวิตนิสสันไว้ ก็กำลังกลายเป็นคนเดียวกันที่จะทำให้นิสสันต้องเข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง หลังจากที่กอส์นตัดสินใจลงจากตำแหน่ง CEO ในปี 2017 หนึ่งปีให้หลังเขาก็ถูกจับฐานยักยอกทรัพย์บริษัท แต่ช่วงประกันตัวในปี 2019 ก็ได้แอบหนีไปกบดานที่เลบานอน ก่อนที่ในปี 2023 จะยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากนิสสันเป็นเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมปฏิเสธว่าที่เขาถูกกล่าวหาไม่เป็นความจริง

ปัญหาซ้ำซ้อนคือ CEO คนใหม่ที่มารับช่วงต่อจากกอส์นในปี 2017 ฮิโรดตะ ไซกาวะ (Hiroto Saikawa) ก็ยอมรับว่าเขาได้รับค่าตอบแทนเกินจริง ประมาณ 9 แสนดอลลาร์ หรือราว 30 ล้านบาท และถูกปลดจากตำแหน่งในปี 2019 ซึ่ง มาโกโตะ อูจิดะ (Makoto Uchida) CEO คนปัจจุบันก็ได้เข้ามารับช่วงต่อแทน

ปัญหาการฉ้อโกงภายในที่อื้อฉาวของนิสสันสร้างแผลใหญ่ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อธุรกิจ นักลงทุนขาดความมั่นใจจนมูลค่าหุ้นหดหาย และทำให้การบริหารไม่เป็นไปในทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง เมื่อต้องแข่งขันในตลาดที่เดือดขึ้นจากการเข้ามาของ EV ยอดขายจึงไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง ลดลงต่อเนื่องตลอดหลายปีมานี้ โดยเฉพาะในจีน และแม้ในสหรัฐจะกลับมาดีในขึ้นปี 2023 แต่ยอดขายล่าสุดนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่ายังคงไม่แน่ไม่นอน

ดิ้นรนให้อยู่รอด

ด้วยปัญหาคาค้างคาและการแข่งขันที่ดุเดือด นิสสันจำเป็นต้องปรับตัวให้อยู่รอด ด้วยการกลับไปใช้วิธีเดิมอย่างการลดต้นทุน อูจิดะประกาศว่าบริษัทเตรียมลดกำลังการผลิตลง 20% พร้อมปลดและลดตำแหน่งพนักงานกว่า 9,000 อัตรา รวมถึงตัวเขาเองก็รับเงินเดือนน้อยลง 50% เพื่อแสดงความรับผิดชอบร่วมกับพนักงาน

นอกจากนี้นิสสันยังได้ขายหุ้นมิตซูบิชิ ลดสัดส่วนการถือครองจาก 34% เป็น 24% เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท แต่จะยังพัฒนารถยนต์ร่วมกับมิตซูบิชิต่อไป

ด้วยกลยุทธ์นี้นิสสันคาดการณ์ว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปกว่า 3 พันล้านดอลลาร์

อูจิดะกล่าวว่า “มาตรการการฟื้นฟูเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าบริษัทกำลังหดตัวลง นิสสันจะปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น พร้อมทั้งปรับโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและยืดหยุ่น”

เมื่อเดือนสังหาคมที่ผ่านมา นิสสันยังได้ลงนามใน MOU กับ ฮอนด้า (Honda) เพื่อร่วมพัฒนารถ EV และ ไฮบริด (Hybrid) ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่ฮอนด้าจะเข้ามาถือหุ้นบางส่วน เนื่องจากนิสสันเองก็ต้องการปรับโครงสร้างและแก้ไขปัญหาทางการเงินอยู่แล้ว

You Might Also Like

ครบ 2 ทศวรรษของการเปลี่ยนแปลง บ้านปู x มหิดล ส่งเยาวชนลุยภารกิจ “ลดคาร์บอนให้โลกคูลล์” ใน Power Green Camp ครั้งที่ 20 

บ้านปู ชวนร่วมงาน “ดีค้าบ เฟสติวัล” ฉลอง 20 ปี Power Green Camp 2-3 พ.ค. นี้ ที่อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

เปิดตัวโครงการ ‘THE INFLUENCER : FINANCIAL & INVESTMENT’ ครั้งแรกในไทย ยกระดับการเผยแพร่ข้อมูลการเงินการลงทุนผ่านอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพ

ความจริงบนซากตึก สตง. ซ่อนเงื่อน “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น” คุณภาพต่ำแต่รับงานภาครัฐอีกนับสิบ

TAGGED: Nissan, นิสสัน

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin December 2, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article อินเดีย ดาวดวงใหม่เศรษฐกิจโลก กับนโยบายที่ไทยรัฐควรศึกษา
Next Article WSOL กางแผนแก้ปัญหาหุ้นกู้ SABUY ทั้ง 4 รุ่น จัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 12 ธ.ค.67 เสนอปรับเงื่อนไขใหม่
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?