ในสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวน ซ้ำร้ายยังเจอแรงขายจากทั้ง Short Sell รวมไปถึงร้ายแรงยิ่งกว่าคือ Naked Short ซึ่งก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า ตลาดหลักทรัพย์ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าไม่พบเจอธุรกรรม Naked Short ในตลาดไทย และให้ความเชื่อมั่นว่าจะกำกับดูแลอย่างเข้มงวด ดังนั้นในส่วนของการกำกับดูแลก็ให้เป็นหน้าที่ของ ตลท.และ ก.ล.ต. ต่อไปแต่รายย่อยอย่างเราก็ต้องอยู่ให้ได้
ก่อนจะไปคุยกันว่าเราควรวางกลยุทธ์อย่างไร อยากให้ทราบถึงความแตกต่างระว่าง Short Sell กับ Naked Short กันก่อนนะครับ
Short Sell คือ การทำกำไรในหุ้นที่เป็นขาลง
โดยคนที่ต้องการ Short Sell จะทำการยืมหุ้นจากคนที่ถือหุ้นอยุ่แล้วนำมาขาย ผ่านตลาดหุ้น แล้วค่อยซื้อคืนเจ้าของหุ้นภายหลัง โดยจะได้กำไรหรือขาดทุน ปัจจัยหลักก็ขึ้นอยู่กับส่วนต่างระหว่างราคาขาย กับราคาซื้อคืน โดยคนที่ให้ยืมหุ้นจะได้ผลตอบแทนในรูปแบบของ อัตราดอกเบี้ย อีกทั้ง Short Sell ยังเป็นธุรกรรมที่ถูกต้องตามกฎของ ตลท.และ ก.ล.ต.
แต่ในส่วนของ Naked Short คือ การขายหุ้นออกไปก่อน ทั้งๆที่ผู้ส่งคำสั่งขายไม่มีหุ้นอยู่ในพอร์ท หรือไม่ได้ยืมใครมา และค่อยทำการซื้อคืนภายในวันนั้น
ทำให้สิ้นวันเมื่อมีการซื้อหุ้นและขายหุ้น จำนวนเท่ากัน จึงไม่จำเป็นต้องส่งมอบหุ้น คนที่ทำ Naked Short ก็รับเงินหรือชำระเงินเพียงแค่ส่วนต่างของราคาเพียงเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อเราทราบแล้วว่ากระบวนการของ Short Sell กับ Naked Short ต่างกันอย่างไร ซึ่งความแตกต่างหลักในการทำธุรกรรมระหว่าง2อย่างนี้คือ
ความถูกต้องตามกฎหมาย อันนี้เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่า ตลาดหลักทรัพย์ ยอมให้มีกระบวนการ Short Sell แต่ไม่ยอมให้เกิดธุรกรรม Naked Short
อีกส่วนนึงคือ ระยะเวลา ในการทำ Short Sell คุณสามารถถือสถานะในขณะที่ตลาดเป็นขาลงได้ แต่Naked Short นั้นต้องปิดสถานะภายในวันนั้น
ดังนั้นเมื่อเราเจอสภาวะแบบนี้ความผันผวนภายในวันเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการลงทุนระยะสั้นหรือระยะยาว แต่สำหรับเทรดเดอร์ที่หากำไรจากความผันผวนของราคาระยะสั้นนั้น ต้องบอกว่าเป็กลุ่มที่ได้รับผลกระทบในส่วนนี้มากที่สุด นักลงทุนจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงหุ้นที่มีแรงขายผิดปกติ และอาจต้องเน้นไปที่หุ้นที่มีพื้นฐานดีมากขึ้น
ในส่วนของนักลงทุนระยะยาว นั้นเมื่อมองภาพรวมจะเรียกว่าได้รับผลกระทบระยะสั้นก็ว่าได้ เนื่องจากเมื่อตลาดหุ้น หรือหุ้นรายตัวกลับเข้าสู่สภาวะที่ควรจะเป็นนั้น แรงซื้อกลับจากการที่ต้องปิดสถานะจากที่ Short Sell ลงมาก็อาจเป็นปัจจัยที่ช่วยผลักดันราคาหุ้นให้กลับไปในระดับราคาที่มันควรจะอยู่ก็ได้
ทั้งนี้การลงทุนในหุ้นเราต้องเจอกับความผันผวนเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละคนก็อาจมีวิธีที่จะรับมือแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นการหยุดเทรด เพื่อดูสภาวะตลาด หรือ แม้แต่เปลี่ยนไปลงทุนระยะยาวมากขึ้นเพื่อให้ข้ามผ่านความผันผวนช่วงนี้ไปได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อที่จะให้อยู่รอดในตลาดได้ระยะยาวคือการมีแผนการลงทุนที่ชัดเจน รวมถึงควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในขอบเขตที่ตนเองรับได้ จึงจะเป็นหนทางให้ตัวเองอยุ่รอดในตลาดได้ในระยะยาวไม่ว่าเราจะเจอกับสภาะวตลาดแบบใด
เขียนโดย: ว่าที่ ร.ต. ธนวัฒน์ เมธวินภาณุวัชร์