นาทีนี้คงจะไม่พูดถึงมะม่วงไม่ได้ เพราะล่าสุด “ลิซ่า Black Pink” ศิลปินเกาหลีสัญชาติไทยคนดังที่หยิบจับอะไรก็กลายเป็นกระแสไปหมด ได้โพสต์ลงสตอรี่ไอจีส่วนตัว เป็นรูปเมนู “ตำมะม่วง” พร้อมแคปชั่น “ตำมะม่วง ส่งตรงจากไทยแลนด์” ทำเอาโลกโซเชียลก็พากันแซวว่า “มะม่วงเตรียมขาดตลาด” เพราะที่ผ่านมา ไม่ว่านักร้องสาวคนนี้จะโพสต์อะไร กินอะไร ก็กลายเป็นกระแสนิยม จนผู้คนพากันไปซื้อไปหามากินตาม พ่อค้าแม่ค้าเฮกันขายดิบขายดี ทั้งลูกชิ้นยืนกิน หมูกระทะ โรตีสายไหม ขนมถ้วย นมหนองโพ รอบนี้ก็ถึงคิวของตำมะม่วงบ้างแล้ว
•
ถ้ายังจำกันได้ มะม่วงไทยไม่ได้เพิ่งจะกลายเป็นกระแสดครั้งแรก แต่เมื่อปีที่แล้วในเทศกาลดนตรีระดับโลก “Coachella Valley Music and Art Festival” แรปเปอร์สาว “มิลลิ” ก็ได้โชว์กินข้าวเหนียวมะม่วงบนเวที จนสร้างกระแสให้มะม่วงไทยขายดีเป็นปรากฏการณ์ ซึ่งเกษตรกรและพ่อค้าแม่ค้าคงยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นสินค้าเกษตรไทยเป็นที่นิยมแบบนี้ ก็คงจะส่งผลให้ตลาดมะม่วงไทยคึกคักขึ้นไม่ใช่น้อย
•
ลองมาดูที่ตลาดมะม่วงของไทยกันบ้างครับ ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่ผลิตมะม่วงสดได้มากที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจาก อินเดียและจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นที่และประชากรมากกว่าไทยหลายเท่า ซึ่งในปี 2561 ไทยเคยผลิตมะม่วงได้มากกว่า 3 ล้านตันเลย แต่ตัวเลขที่น่าสนใจกว่าคือภาคของการส่งออก
•
ในปี 2564 ไทยส่งออกมะม่วงสดหรือแช่เย็นรวมกว่า 1.16 แสนตัน เป็นมูลค่ารวม 3.3 พันล้านบาท เติบโตถึง 53% จากปี 2563 และยังคงเติบโตไปขึ้นไปอีก เพราะเมื่อช่วงต้นปี 2565 เพียง 2 เดือนแรกของปี ไทยส่งออกมะม่วงสดให้ประเทศคู่ค้าภายใต้ FTA (Free Trade Agreement) ไปเป็นมูลค่าสูงถึง 11 ล้านเหรีญสหรัฐแล้ว รวม 98% ของตลาดส่งออกทั้งหมดของไทย นับว่าเติบโตถึง 15% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า
•
ที่น่าสังเกตคือ 46% ของการส่งออกถูกส่งไปที่เกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่ยังมีการเก็บภาษีนำเข้ามะม่วงจากไทอยู่สูง 24% แต่ก็ยังได้รับความนิยมอย่างมาก โดยรวมทำให้ไทยคว้าอันดับ 2 ประเทศที่ส่งออกมะม่วงสดมากที่สุดในเอาเซียน และส่งออกมากที่สุดเป็นอันดับ ที่ 7 ของโลก ดดยสายพันธุ์ที่ได้รับคามนิยมในการส่งออกสูงสุดคือ น้ำดอกไม้สีทองซึ่งกระแสข้าวเหนียวมะม่วงของมิลลิช่วยได้มากเลยทีเดียว
•
แต่หนึ่งใประเทศคู่ค้ามะม่วงของไทยที่น่าจับตามองที่สุดก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นจีนเจ้าเดิม ที่น่าสนใจคือแม้ว่าจีนจะมีความสามารถในการผลิตที่มากกว่าไทยแต่ก็ยังนิยนำเข้ามะม่วงจากไทยอยู่ จีนมี “เมืองไป๋เซ่อ” ที่ยืหนึ่งเรื่องการผลิตมะม่วงในจีนอยู่แล้ว ซึ่งไป๋เซ่อมีส่วนแบ่งในตลาดถึง 30% ซึ่งคำตอบก็ง่าย ๆ เลยคือเรื่องของปริมาณ ที่แม้ว่าจีนจะผลิตได้มาก แต่ก็มีความต้องการมากเช่นกัน ทำให้การผลิตยังไม่เพียงพอต่อการบริโภคตามสัดส่วนของการนำเข้า-ส่งออก และเรื่องของฤดูกาลที่เก็บเกี่ยวได้ไม่ตลอดทั้งปี ตาม “มาตรการจัดระเบียบตลาดมะม่วง” ที่ให้เก็บเกี่ยวเป็นเวลาเพื่อควบคุมคุณภาพของผลผลิต ก็ทำให้มีช่วงที่ต้องใช้มะม่วงนำเข้าด้วยนั่นเอง และอีกเรื่องที่แม้จะดูเป็นปัจจัยรองแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่มีผลอยู่มาก คือความนิยมมะม่วงสายพันธุ์ต่าง ๆ มะม่วงสายพันธุ์นำเข้ามีรสชาติ คุณภาพ และเนื้อสัมผัสที่แตกต่างจากผลผลิตที่ได้จากท้องถิ่นมาก
•
ในปี 2564 จีนนำเข้ามะม่วงรวมกว่า 1.4 หมื่นตัน และน่าดีใจครับที่ไทยเป็นที่ 1 ในตลาดนำเข้ามะม่วงของจีนด้วยสัดส่วน 38% ปริมาณ 5.6 พันตัน เป็นมูลค่ากว่า 280 ล้านบาท ซึ่งก็อยู่ในสัดส่วนที่นำโด่งเมื่อเทีบกับประเทศที่รองลงมาอ่างกัมพูชและเวียดนาม ถึงจะโดนผลกระทบจากโควิด-19 อยู่บ้าง เพราะการปิดเส้นทางขนส่งทางรถบรรทุก ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่ไทยใช้ขนส่งมะม่วงไปจีน แต่ในช่วงต้นปี 2565 จีนก็ได้เปิดเส้นทางทั้งหมดจนแนวโน้มสถาณการณ์ดูดีขึ้นเรื่อย ๆ
•
แม้ว่าภาพรวมไทยจะยังดูได้เปรียบมากในตลาดนี้ แต่ก็ไม่ได้ลอยตัวซะทีเดียว เพราะกัมพูชาที่มีสัดส่วนนำเข้ารองจากไทย ส่งมะม่วงแก้วขมิ้นให้จีนด้วยราคาแค่ประมาณกิโลกรัมละ 10 บาทเท่านั้น ในขณะที่ไทยส่งจีนด้ยราคาประมาณกิโลกรัมละ 50 บาท เป็นตัวเลขที่ต่างกันถึง 5 เท่า และเวียดนามก็มีราคาส่งจีนที่กิโลกรัมละประมาณ 26 บาท ซึ่งถูกกว่าไทยเท่าตัว
•
อย่างไรก็ตามไทยคงต้องพยายามประคองและฉวยโอกาสจากความได้เปรียบตรงนี้ เพื่อครองตลาดในจีนต่อไปให้ได้นานที่สุด โดยการศึกษาความนิยมของตลาดให้ดี เพราะในแต่ละมณฑลของจีนมีความนิยมมะม่วงจากแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน และอาจลองหาตลาดใหม่ในมณฑลที่มะม่วงไทยยังเข้าไม่ถึง การเลือกช่องทางขนส่งให้เหมาะสมและหลากหลายเพื่อรับมือกับเหตุไม่คาดคิด และลดระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่ง พร้อมทั้งปรับปรุงบรรจุเพื่อรักษาคุณภาพของมะม่วงที่บอบช้ำง่ายและไวต่ออุณหภูมิสูง นอกจากนี้คือตลาด e-commerce ที่ผู้ผลิตสินค้าเกษตรปรับตัวกันมาสักพักแล้ว หากภาครัฐและเอกชนร่วมกันดูแลและพัมนาปัจจัยเหล่านี้อย่างดี เชื่อว่ามะม่วงไทจะยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องแน่นอน
•
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่นักว่าโพสต์เมนูตำมะม่วงของนักร้องสาวจะสร้างกระแสและความนิยมให้กับมะม่วงได้ระดับไหน ทั่วโลกนิยมรับประทานมะม่วงสุกกันเสียส่วนใหญ่ ตำมะม่วงที่ใช้มะม่วงดิบอาจเป็นเมนูที่แปลกใหม่ไม่น้อยสำหรับแฟนคลับสากล แต่กับชาวไทยที่คุ้นเคยกับการรับประทานมะม่วงดิบอยู่แล้วคงกลายเป็นเมนูยอดฮิตไปช่วงหนึ่งเลย งานนี้จะถึงขั้นขาดตลาดอยย่างที่แซวกันไหม คงต้องรอดูกันไปครับ
•
สามารถติดตามความเคลื่อนไหว connect the dots ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/th.connectthedots
YouTube : www.youtube.com/@th.connectthedots
และทาง Spotify Podcast : connectthedotsth
#Connectthedots
•
ที่มา:
https://today.line.me/th/v2/article/BE8V6Qw
https://food.trueid.net/detail/Nr7qwPl9bZRk
https://www.oae.go.th/…/1/files/jounal/2565/trade2564.pdf
World Mango and Guava Production by Country – AtlasBig.com
https://thaibizchina.com/…/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%A2…/
https://www.nationthailand.com/in-focus/40014830
https://www.prd.go.th/…/category/detail/id/39/iid/70212
https://www.thairath.co.th/news/politic/2371135
ส่องมูลค่าตลาดมะม่วงไทย ว่าที่วัตถุดิบขาดตลาดจาก “ตำมะม่วง” เมนูตามรอย “ลิซ่า BLACKPINK”
