CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ตลาดการ์ตูนญี่ปุ่นในไทย 3000 ล้านกำลังถูกทำลายด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์!
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Business > ตลาดการ์ตูนญี่ปุ่นในไทย 3000 ล้านกำลังถูกทำลายด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์!
Business

ตลาดการ์ตูนญี่ปุ่นในไทย 3000 ล้านกำลังถูกทำลายด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์!

connectthedots admin
Last updated: 2024/03/08 at 2:10 PM
connectthedots admin Published June 30, 2023
Share

เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่ผ่านมา คุณนพ ธนพ ตันอนุชิตติกุล CEO ของ การ์ตูนคลับ มีเดีย จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าวแต่งตั้ง Avanta & Co เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์การ์ตูน และยังมีการพุดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับเรื่องคอนเทนต์การ์ตูนละเมิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่เป็นปัญหาใหญ่ต่อลิขสิทธิ์การ์ตูนมาโดยตลอดคือเรื่อง “เถื่อนในแท้” ซึ่งก็มีตัวแทนจากแพลตฟอร์มวิดีโอออนไลน์หลายเจ้ามาร่วมพูดคุย รวมถึงนักพากย์แนวหน้าเจ้าของเสียง “ลูฟี่” จากการ์ตูนเรื่อง “One Piece” คุณจูน อิทธิพล มามีเกตุ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งบุคคลสำคัญในวงการการ์ตูนในไทย ที่ออกมารณรงค์ต่อต้านการละเมิดลิยสิทธิ์การ์ตูนอยู่ตลอด

การ์ตูนญี่ปุ่น หรือคนทั่วโลกรู้จักกันในชื่อเรียก “อนิเมะ” เกิดขึ้นช่วงหลังยุคสงครามโลก ที่เริ่มมีการเอาเทคโนโลยีของฝั่งตะวันตกมาปรับใช้ในวงการสื่อ และเริ่มบูมในญี่ปุ่นในช่วงปี 60s ด้วยอนิเมะเรื่อง “เจ้าหนูปรมณู” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “เจ้าหนูอะตอม” เป็นอนิเมะญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลกและช่วยสร้างภาพจำที่ดีใหม่ให้ญี่ปุ่นหลังช่วงสงคราม ซึ่งในเวลาต่อมาเพียงไม่กี่ปี ก็เริ่มมีการนำเอาอนิเมะเข้ามาฉายในไทย โดยเรื่องแรกคือ “เจ้าหนูลมกรด” เปิดประเดิมกันทางช่อง 4 บางขุนพรหม ตามมาด้วยอนิเมะสุดไอคอนิกขวัญใจชาวไทยอย่าง “หน้ากากเสือ” และในเวลาต่อมาก็มีหลากหลายช่องที่นำเอาอนิเมะเข้ามาฉายอย่างเป็นทางการ ทั้งช่อง 9 โมเดิร์นไนน์การ์ตูน แก๊งการ์ตูน และการ์ตูนคลับ

เมื่อปี 2016 ประเทศไทยนำเข้าคอนเทนต์การ์ตูนจากญี่ปุ่นเป็นอันดับ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่มูลค่าตลาดโดยรวมของสินค้าลิขสิทธ์และการ์ตูนลิขสิทธิ์ญี่ปุ่นแค่ราว ๆ 2,000 ล้านบาทเท่านั้น เป็นผลจากการละเมิดลิขสิทธิ์ต่าง ๆ ที่หากคิดมูลค่ารวมแล้วกว่า 5,000 ล้านบาท นั่นหมายความว่าการแทรกแซงตลาดด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์ในส่วนนี้สร้างความเสียหายให้ตลาดอนิเมะในไทยไปกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่ามูลค่าตลาดลิขสิทธิ์ที่มีอยู่เสียอีก ซึ่งจากการสำรวจในปี 2019 มูลค่าตลาดลิขสิทธิ์เติบโตขึ้นมาเกือบ ๆ 3,000 ล้านบาท ก็ยังต้องสู้กับการละเมิดลิขสิทธิ์ต่อไป

จะเห็นได้ว่าการรบกวนตลาดด้วยการละเมิดลิขสิทธิ์นั้นมีมานานแล้ว ซึ่งทางตัวแทนจำหน่ายและเผยแพร่ก็ได้พยายามรณรงค์เพื่อต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์มาอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปก็ทำให้ผู้ถือลิขสิทธิ์ต้องรับมือกับหลายอย่าง ทั้งการปรับตัวให้ทันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันเข้าหาแพลตฟอร์มสตรีมมิง การฉายผ่านทางช่องโทรทัศน์กับจำหน่ายแผ่นที่กลายเป็นอดีตไป ซึ่งการรับชมช่องทางออนไลน์ของผู้บริโภคกลับเอื้อต่อผู้ละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้น เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้เน้นเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์มานานแล้ว

โดยผู้ถือลิขสิทธิ์อนิเมะก็เลยได้ถือโอกาสในการปรับตัวและดัดหลังผู้ละเมิดลิขสิทธิ์โดยการเผยแพร่ผ่านช่องทาง YouTube Official ของตัวเองซะเลย ซึ่งนอกจากจะดูฟรีแล้วยังเป็นช่องทางที่เข้าถึงง่าย โดยไปเน้นรายได้จากยอดวิวและส่วนแบ่งค่าโฆษณาจาก YouTube นอกจากนี้ก็ยังมีการเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิงลิขสิทธิ์อื่น ๆ ด้วย

แต่กระนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นแค่การแก้ปัญหาเชิงรับ เพราะแม้จะปรับตัวรับมืออย่างไร ก็ยังคงมีผู้ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ และปัญหาที่น่ากังวลใจที่สุดที่ดูเหมือนจะเป็นการกระตุ้นให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เพิ่มขึ้นคือปัญหาเถื่อนในแท้ ที่เกิดจากการเข้ามาของแอปพลิเคชั่นสตรีมมิงสีฟ้าเจ้าหนึ่ง ซึ่งแฟน ๆ อนิเมะรู้จักกันดี แอปนี้มีการนำอนิเมะหลากหลายเรื่องมาฉายทั้งพากย์ไทยและซับไทย ซึ่งก็ถูกใจแฟน ๆ ไม่ใช่น้อยเพราะดูฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่นอกจากคอนเทนต์อนิเมะลิขสิทธิ์ที่ทางแอปอัปโหลดขึ้นแพลตฟอร์มเองแล้ว ยังมีการเปิดให้ผู้ใช้อัปโหลดคอนเทนต์ได้ หรือที่เรียกว่า User-Generated Content (UGC) ซึ่ง UGC นี่แหละที่เป็นปัญหา เพราะมันคือคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ โดยมีผู้ละเมิดลิขสิทธิ์บนแพลตฟอร์มนี้กว่า 100 ราย ซึ่งการ์ตูนคลับได้ประเมิณมูลค่าความเสียหายคร่าว ๆ ไว้กว่า 33 ล้านบาท

ทางการ์ตูนคลับเคยพยายามเจรจาติดต่อไปทางแอปสตรีมมิงสีฟ้าดังกล่าว และแม้จะมีการลบคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ที่แจ้งไปแล้ว แต่ก็ไร้วี่แววตอบกลับ และไม่ได้ออกมาชี้แจงหรือขอโทษแต่อย่างใด หลังจากนั้นก็ยังพบคอนเทนต์ละเมิดลิขสิทธิ์ซ้ำอีกเรื่อย ๆ เพราะอย่างนั้นเอง ก็ถึงเวลาที่การ์ตูนคลับจะเอาจริง เปลี่ยนเป็นกลยุทธ์เชิงรุก เตรียมทีมกฎหมาย พร้อมแบ๊กอัปเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิงต่าง ๆ และบุคคลในวงการอนิเมะในไทย และคุณนพยังได้ทิ้งท้ายในงานแถลงว่าอยากให้ภาครัฐเอาจริงเอาจังกับการปราบผู้ละเมิดลิขสิทธิ์ และให้ผู้ชมหันมาสนับสนุนคอนเทนต์ถูกลิขลิทธิ์เพื่อให้วงการในไทยเดินต่อไปได้ เอาจริงขนาดนี้คงมีข่าวใหญ่ให้เราได้ติดตามในอีกไม่นานแน่นอน

โดยแฟน ๆ อนิเมะชาวไทยที่รับรู้ปัญหานี้ก็ได้พยายามช่วยกันรายงานปัญหาดังกล่าวและรณรงค์ต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ของแอปที่ว่ามาโดยตลอด แต่ก็มีผู้ชมบางส่วนที่ไม่รู้และไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาตรงนี้ เพราะเห็นว่าเป็นแพลตฟอร์มทางการ น่าเชื่อถือ จึงไม่คิดว่าตัวเองกำลังละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ หรือหลายคนก็รู้แต่คิดว่าแบบนี้สะดวกกว่าเพราะมีพากย์ไทย ในขณะที่ของถูกลิขสิทธ์ยังไม่มี โดยปัญหานี้ก็ลามไปถึงเรื่อง “นักพากย์เถื่อน” ที่พี่จูน เจ้าของเสียงลูฟี่ก็ออกมาฟาดแล้วฟาดอีก แต่ก็เหมือนจะยังไม่หายไป และยิ่งสนับสนุนการละเมิดลิขสิทธิ์แบบนี้ จะยิ่งทำให้ผู้ถือลิขสิทธิ์สูญเสียรายได้และไม่มีทุนสำหรับการพัฒนาคอนเทนต์ต่อไป เช่น การจัดทำพากย์ไทยสำหรับอนิเมะ ซึ่งก็มีช่วงหนึ่งที่การ์ตูนคลับต้องหยุดทำพากย์ไทยของอนิเมะเรือธงอย่าง “One Piece” ไป เพราะผลกระทบจากการละเมิดลิขสิทธิ์

สุดท้ายแล้ววงการอนิเมะในไทยจะยั่งยืนและพัฒนาต่อไปได้ก็คงต้องอาศัยความร่วมมือจากแฟน ๆ เป็นหลัก ในฐานะผู้บริโภค นับว่ามีส่วนสำคัญในการอยู่รอดของธุรกิจนี้ หากต้องการเห็นการนำเข้าอนิเมะมากขึ้น จัดทำซับไทยและพากย์ไทยคุณภาพมากขึ้น ผู้ชมยังคงต้องช่วยกันสนับสนุนคอนเทนต์ลิขสิทธิ์และต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ในทุกรูปแบบกันต่อไป

#cartoonclub

สามารถติดตามความเคลื่อนไหว connect the dots ได้ที่
Facebook : www.facebook.com/th.connectthedots
YouTube : www.youtube.com/@th.connectthedots
และทาง Spotify Podcast : connectthedotsth
#Connectthedots

ที่มา:
https://www.plotter.in.th/?p=23820
https://www.lib.ru.ac.th/journal2/?p=11426
https://thestandard.co/cartoon-club-avanta-and-co…/
https://www.nationthailand.com/business/30293371
https://www.prachachat.net/marketing/news-399369
https://www.komchadluek.net/news/economic/552288
https://www.bangkokbiznews.com/business/706781
https://www.bangkokbiznews.com/business/706781

You Might Also Like

SKIN เจ้าของ Skinsista , Dermie ปักหมุดโรดโชว์ เสนอข้อมูลธุรกิจ ร่วม 8 จังหวัด

EKA GLOBAL ชูโซลูชั่นกรีนโปรดักส์ รับเทรนด์ความยั่งยืน ภายในงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2025

PTG โชว์ยอดขาย Non-Oil โต 32.2% กาแฟพันธุ์ไทย ขยายสาขาได้เฉลี่ย 1.5 สาขา/วัน

AOT ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าถูก?

TAGGED: การ์ตูนคลับ, การลงทุน, เศรษฐกิจ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin June 30, 2023
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article เฮลซ์บลูบอย รสบลูฮาวาย รสใหม่รสที่ 10 น้ำหวานกำไรระดับพันล้าน
Next Article “ตรึงราคา – พยุงราคา”น้ำมัน นโยบายควรไปต่อหรือพอแค่นี้?
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?