CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: จิตวิทยาการลงทุน ในสภาวะตลาดขาลง
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > จิตวิทยาการลงทุน ในสภาวะตลาดขาลง
Investment (Closed)

จิตวิทยาการลงทุน ในสภาวะตลาดขาลง

connectthedots admin
Last updated: 2023/07/01 at 5:27 AM
connectthedots admin Published June 20, 2022
Share

จิตวิทยาการลงทุน และทัศนคติ เพื่อเอาตัวรอดในช่วงตลาดขาลง

.

Contents
จิตวิทยาการลงทุน และทัศนคติ เพื่อเอาตัวรอดในช่วงตลาดขาลงจิตวิทยาการลงทุน คือ การเข้าใจตัวเอง 

“มีเพียงนักลงทุนเพียง 10% เท่านั้น ที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว”

.

การลงทุน และการพนันนั้นมีเพียงเส้นบางๆ ที่ขีดกั้นศาสตร์ทั้งสองไว้อยู่ และเส้นแบ่งนั้นเรียกว่า ‘แผนการ’ และ ‘ทัศนคติ’ อย่างไรก็ดีแผนการที่ยอดเยี่ยม และรัดกุมเพียงใด หากปราศจากทัศนคติที่เหมาะสม ในระยะยาวย่อมรักษากำไรที่ได้มาจากตลาดให้คงอยู่ไว้ได้ยาก

.

ในยุคปัจจุบันที่การใช้งานโซเชียลมีเดียนั้นเป็นที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ประกอบกระแสของการลงทุนกลายมาเป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสนใจ ในโซเชียลมีเดียนั้น เราจึงมักจะจมไปกับทะเลแห่งข่าวสาร และความคิดเห็นต่อการลงทุนที่แตกต่าง และอาจทำให้เกิดความเคลือบแคลงใจต่อแผนการที่วางแผนมาแล้วเป็นอย่างดี ส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่อาจไขว้เขวไม่ทำตามแผน และตัดสินใจผิดพลาดขึ้นมาได้

.

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับช่วงตลาดหมี หรือตลาดขาลงที่ราคาของสินทรัพย์ระดมทุนมีการปรับฐานราคาลงมาอย่างหนักหน่วง จุดนี้นี่เองที่จะเป็นตัวทดสอบว่า ‘จิตวิทยาในการลงทุน’ ของคุณมีความพร้อมมากน้อยเพียงใด Creative Investment Space จึงอยากจะชวนขยายความคำว่าจิตวิทยาการลงทุนนั้นคืออะไร และทัศนคติเพื่อการเอาตัวรอด ในช่วงที่ตลาดขาลงมาเยือนควรจะเป็นอย่างไร

จิตวิทยาการลงทุน คือ การเข้าใจตัวเอง 

.

หลายคนมักจะเข้าใจว่าจิตวิทยาการลงทุนที่ดี คือการที่เราต้องลอกเลียนแบบวิธีคิด และวิธีจัดการความเสี่ยงของเซียนนักลงทุนชั้นแนวหน้ามาใช้กับตนเอง แต่แท้จริงแล้วนั่นคือความเชื่อที่ผิด เพราะนักลงทุนแต่ละคนนั้นย่อมแบกรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน การที่เรานำวิธีคิดของผู้อื่นมาใช้กับตัวเองโดยไม่มีการปรับให้เข้ากับแผนการของตน ก็เปรียบเสมือนกับการที่เราเลือกรองเท้าวิ่งมาราธอนที่ไม่พอดีกับเท้าของเรา ที่ต่อให้รองเท้าคู่นั้นจะดีเพียงใด แต่ไม่สามารถที่จะใช้วิ่งได้ในระยะยาวได้อย่างแน่นอน

.

ดังนั้นเราจึงจะต้องทำความเข้าใจตัวเองเสียก่อนว่าพฤติกรรมการลงทุนของเรานั้นจะเป็นรูปแบบใด อยากได้ผลตอบแทนในรูปแบบไหน จำนวนเท่าใด รับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน เราจึงจะสามารถออกแบบแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเองออกมาได้ ซึ่งแน่นอนว่าการพูดนั้นมันง่ายกว่าการปฏิบัติ เพราะยังมี 2 ปัจจัยทางจิตวิทยาที่ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องพ่ายแพ้ให้กับตลาด เพียงเพราะสิ่งที่เรียกว่า ‘ความโลภ’ และ ‘ความกลัว’ ที่คอยทำลายวินัยในการลงทุนของพวกเขาจนย่อยยับ

.

‘ความโลภ’ ที่มากเกินไปทำให้เรามองไม่เห็นผลตอบแทนที่เหมาะสม จนทำให้เราปฏิบัตินอกเหนือไปจากแผนการที่วางไว้ และในสุดท้ายจากที่จะสามารถทำกำไรจากการลงทุน กลับกลายเป็นว่าต้องขายในราคาเท่าทุน หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือการขายขาดทุน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนทุกคนไม่ต้องการที่จะพบเจอ ในขณะที่ ‘ความกลัว’ อาจทำให้เราตัดสินใจขายสินทรัพย์ในพอร์ตออกไปเร็วเกินไป จิตวิทยาการลงทุนคือการบริหารจัดการความโลภ และความกลัวให้เหมาะสม ทุกการกระทำของคุณต้องมีเหตุผลมารองรับ ต้องโลภ และกลัวอย่างมีหลักการ และเหตุผล

.

ทัศนคติที่เหมาะสมคือสิ่งทีช่วยให้นักลงทุนสามารถเอาตัวรอดได้ในช่วงตลาดขาลง

.

อีกสิ่งที่นักลงทุนหลายคนมักจะเข้าใจผิดก็คือนักลงทุนที่เก่งคือ ‘ผู้ที่สามารถทำกำไรในทุกช่วงสภาวะตลาด’ แม้แต่ในช่วงตลาดขาลงที่หนาวเหน็บ แต่แท้จริงแล้วหัวใจหลักของการลงทุนยังคงเป็นเรื่องการประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจ หากลองประเมินแล้วว่ามี Risk มากกว่า Reward ในบางครั้งการอยู่เฉยๆ เพื่อหาจังหวะที่เหมาะสม ก็เป็นหนึ่งในแผนในการลงทุนที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน

.

และต้องอย่าลืมที่จะกระจายเงินของเราไปอยู่ในสินทรัพย์ที่เหมาะสม เพราะผลิตภัณฑ์ทางการลงทุนแต่ละตัวก็มีช่วงเวลาขึ้นลงที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่นในปัจจุบันอาจจะสังเกตุได้ว่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ และตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวลงเนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลของประเทศสหรัฐฯ ทำให้ Fund Flow ไหลไปอยู่ในสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยอย่างทองคำ และพันธบัตรัฐบาลมากขึ้น สินทรัพย์ทั้งสองประเภทนี้จึงให้ผลตอบแทนได้มากกว่า หากต้องการที่จะทำกำไรให้ได้ในทุกสภาวะตลาดจึงจำเป็นที่จะต้องเข้าใจธรรมชาติของสินทรัพย์แต่ละประเภทให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน

.

หรือหากมองว่าช่วงตลาดขาลงคือโอกาสในการซื้อของถูก เพื่อไปขายแพงในอนาคตต้องประเมินสถานการณ์ และกำหนดกรอบเวลาในการลงทุนให้ชัดเจน คาดการปรับตัวลงของราคานั้นจะส่งผลยาวนานเพียงใด เมื่อไหร่ที่ควรจะขายทำกำไร และหากทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนคุณมีวิธีการที่จะออกจากตลาดอย่างไรให้เจ็บตัวน้อยที่สุด 

.

สุดท้ายนี้นั้นจิตใจที่แข็งแกร่งไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในชั่วข้ามคืน นักลงทุนชั้นเซียนที่ทำกำไรจากตลาดระดมทุนได้อย่างมหาศาลในปัจจุบันล้วนเคยต้อง ‘จ่ายค่าเทอม’ ให้กับตลาดเพื่อการเรียนรู้มาก่อน การหมั่นทบทวนแผนการลงทุนของตัวคุณเอง และหมั่นรักษากำไรที่ได้จากการลงทุนอยู่เสมอ ย่อมทำให้คุณเกิดการเรียนรู้ที่จะทำกำไรได้มากขึ้นจากตลาดในอนาคต 

เพราะในโลกของการลงทุนนั้นไม่มีคำว่าบังเอิญ และเงินที่ได้มาอย่างง่ายๆ สุดท้ายแล้ว ตลาดก็จะเอาคืนไปอย่างง่ายๆ อย่างเช่นกัน

Reference:

https://www.investopedia.com/terms/t/trading-psychology.asp

https://www.investopedia.com/articles/trading/02/110502.asp

https://www.businessinsider.com/what-percentage-of-traders-make-it-2011-6

https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/42-the-psychology-of-investment

https://www.scb.co.th/en/personal-banking/stories/grow-your-wealth/bear-market.html

You Might Also Like

AOT ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าถูก?

“เอกา โกลบอล” ประเมินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รับมือนโยบาย ‘ทรัมป์’

Bitcoin ช่วยป้องกันเงินเฟ้อได้ดี ท่ามกลางการจัดระเบียบโลก

นโยบายประชานิยม กับดักความจน ตัวการพังเศรษฐกิจไทย?

TAGGED: bitcoin, CeFi, Crypto, DeFi, การลงทุน, การลงทุนยุคใหม่, ความรู้การลงทุน, สินทรัพย์, หุ้น, เศรษฐกิจ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin June 20, 2022
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article วิกฤติคริปโต 2018 vs 2022 ต่างกันอย่างไร?
Next Article การใช้งาน Indicator ขั้นต้น
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?