CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: อ่านทิศทางการลงทุน จากค่าเงินดอลลาร์
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > กูรูลงทุน > เปโดร พุกกะมาน > อ่านทิศทางการลงทุน จากค่าเงินดอลลาร์
เปโดร พุกกะมาน

อ่านทิศทางการลงทุน จากค่าเงินดอลลาร์

connectthedots admin
Last updated: 2022/12/10 at 2:55 PM
connectthedots admin Published October 5, 2022
Share

อ่านทิศทางการลงทุน จากค่าเงินดอลลาร์ และนโยบายของ FED

ปี 2022 นี้ สินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุดจนถึงเวลานี้ (ปลายเดือนกันยายน) ก็คือ ค่าเงินดอลลาร์หรือ Dollar Index ซึ่งแข็งค่าขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 20% เมื่อเทียบกับดัชนี S&P500 ที่ปรับตัวลดลงมาแล้ว 25% และทองคำที่ปรับตัวลดลง 12% เช่นเดียวกับค่าเงินของประเทศต่างๆ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างเช่น เงินเยนญี่ปุ่น และเงินปอนด์อังกฤษ ที่อ่อนค่าทำสถิติใหม่

.

คำกล่าวที่ว่า Don’t Fight With FED หรืออย่าคิดที่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ FED ยังคงใช้ได้เสมอ เมื่อธนาคากลางสหรัฐฯใช้นโยบายการเงินที่เคร่งครัด ทุกสินทรัพย์จะด้อยค่าลงเสมอ โดยเฉพาะในช่วงหลังจากที่ FED เริ่มใช้เครื่องมือที่เรียกว่า QE ในปี 2009 เพื่อแก้ไขวิกฤติซับไพร์ม

.

คุณณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่  ให้ข้อสังเกตไว้ว่า นับตั้งแต่ช่วงปี 2009 ถึง 2013 ค่าเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ใหญ่ ไม่มีเทรนด์ที่ชัดเจน แต่หลังจากปี 2014 ที่ FED เริ่มทำการลดวงเงิน QE ลง ค่าเงินดอลลาร์มีการแข็งค่ากลับขึ้นมาและราคาสินทรัพย์อื่นอย่างทองคำมีการปรับตัวลง โดยในปีนั้น ดัชนี Dollar Index ปรับตัวขึ้นกว่า 20% 

.

ภาพในปี 2014 จึงเหมือนกับในปี 2022 ที่ดัชนี Dollar Index แข็งค่าขึ้นตลอดทั้งปีและกดดันทุกสินทรัพย์มีทิศทางขาลง อย่างไรก็ตามหลังจากที่ FED ชะลอการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวด Dollar Index เริ่มที่จะหยุดแข็งค่าและเปลี่ยนมาเป็นทิศทาง Sideway สลับกับขาลงทำให้สินทรัพย์อื่นๆโดยเฉพาะตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ปรับตัวเป็นขาขึ้นแทน

.

หากใช้สถิติในอดีตมาวิเคราะห์ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่าปี 2022 ต่อเนื่องจนถึงช่วงต้นปี 2023 ราคาสินทรัพย์อื่นๆน่าจะยังถูกกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งดูจากถ้อยแถลงของประธาน FED ที่ต้องการสู้กับเงินเฟ้อให้ถึงที่สุด การขึ้นดอกเบี้ยและ QE Tapering จะยังอยู่ในระดับที่รุนแรงต่อ 

.

แต่อย่างน้อยก็มีเรื่องดีที่อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกน่าจะแตะระดับสูงสุดไปแล้วจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การขึ้นดอกเบี้ยของ FED อาจจะค่อยๆทะยอยลดความร้อนแรงลงในปี 2023 

.

ประกอบกับเศรษฐกิจโลกจะเผชิญกับปัจจัยลบใหม่นั่นคือเศรษฐกิจถดถอยหรือ Recession ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นในปี 2023 ทำให้ FED อาจจะต้องปรับนโยบายการเงินใหม่ให้มีความผ่อนคลายแทนเช่นการลดดอกเบี้ยหรือแม้แต่การใช้ QE อีกรอบ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง 

.

จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคาสินทรัพย์อื่นๆจะกลับเข้ามาสู่ขาขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายปี 2023 หรือต้นปี 2024 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกอาจจะผ่านพ้นช่วง Recession ไปได้และเริ่มมีสภาพคล่องจาก FED ที่ปล่อยออกมาช่วยผลักดันราคา

.

อย่างไรก็ตามเงินเฟ้อทั่วโลกยังน่าจะคงอยู่ในระดับสูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมนั่นคือ 3-4% โดยอาจจะยังคงอยู่ในระดับ 5-7% จากการที่เงินเฟ้อได้ซึมเข้าไปอยู่ในต้นทุนของภาคธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ต้องมาวิเคราะห์กันต่อไปว่าสินทรัพย์ใดที่จะเติบโตได้ดีในภาวะที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง

.

ผู้เขียนมองว่าตลาดหุ้นจีน ทองคำและบิทคอยน์ น่าจะเป็นสินทรัพย์ที่สามารถ Outperform ได้ในปีหน้า โดยทองคำและบิทคอยน์มีความเกี่ยวพันกับเศรษฐกิจจริงค่อนข้างน้อยและมีคุณสมบัติในการต้านทานกับเงินเฟ้อได้ดี ส่วนจีนมีข้อดีที่เงินเฟ้อในประเทศอยู่ในระดับต่ำและถ้ามีการปลดล๊อกเรื่องนโยบายโควิดน่าจะทำให้เศรษฐกิจจีนกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง

.

แท้นักลงทุนจะค่อนข้างเหนื่อยกับภาวะตลาดในปีนี้ แต่ถ้ามองภาพการลงทุนระยะยาว ช่วงเวลาตั้งแต่กลางปี 2023 เป็นต้นไปน่าจะเป็นจังหวะที่ดีของการเริ่มทะยอยลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตสูงได้ ส่วนปีนี้ต้องยอมให้กับเงินดอลลาร์ไปก่อน

You Might Also Like

“เอกา โกลบอล” ประเมินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รับมือนโยบาย ‘ทรัมป์’

นโยบายประชานิยม กับดักความจน ตัวการพังเศรษฐกิจไทย?

TISA แนวคิดใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ “ซื้อหุ้น ได้ลดหย่อนภาษี” หวังช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย

YLG ชี้ทองคำแกว่งตัวกรอบบน รับดอลลาร์อ่อนค่า ลุ้นแตะ 3,000 ดอลลาร์

TAGGED: การลงทุน, การลงทุนยุคใหม่, การลงทุนโลก, ความรู้การลงทุน, ตลาดหุ้น, นักลงทุน, สินทรัพย์, เซียนหุ้น, เทรดเดอร์, เศรษฐกิจ, เศรษฐกิจโลก

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin October 5, 2022
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article คำศัพท์การเงิน 03 : ROE
Next Article ตราสารหนี้ 01
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?