Bitget แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำเปิดเผยมุมมองตลาดคริปโตในช่วงครึ่งหลังที่เหลือของปีนี้มีแนวโน้มสดใสจากทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางขนาดใหญ่ที่เป็นขาลงจะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาในตลาด ประกอบกับผลประกอบการที่เข้มแข็งของ Tether ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ขณะที่ความกังวลที่ลูกหนี้ Mt.Gox จะเทขายบิทคอยน์ลดลงจนไม่ส่งผลลบต่อตลาด
นางสาวเกรซี่ เฉิน (Gracy Chen) กรรมการผู้จัดการของ บิตเก็ต (Bitget) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีและบริษัท Web3 ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า Bitget มีมุมมองว่าตลาดคริปโตในช่วงครึ่งหลังที่เหลือของปีนี้จะมีแนวโน้มสดใสจากแรงสนับสนุนของทิศทางดอกเบี้ยที่เป็นขาลงจะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาในตลาด ประกอบกับผลประกอบการที่เข้มแข็งของ Tether (เหรียญที่มีความผันผวนต่ำ หรือ Stablecoin) ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ขณะที่ความกังวลที่ลูกหนี้ Mt.Gox (แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสำหรับซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลของโตเกียว) จะเทขายบิทคอยน์ลดลงจนไม่ส่งผลลบต่อตลาด
ตลาดคริปโตในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีแนวโน้มที่สดใสจากปัจจัยหนุนในเรื่องของนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯที่มีท่าทีผ่อนคลาย แม้ว่าการประชุมครั้งล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐฯจะคงดอกเบี้ยแต่คณะกรรมการนโยบายการเงินเริ่มที่จะเปิดใจรับการกับการลดดอกเบี้ยในอนาคตโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอัตราเงินเฟ้อยังคงลดลงสู่เป้าหมาย 2% ขณะเดียวกันธนาคารกลางชาติขนาดใหญ่อย่างอังกฤษก็มีโอกาสที่จะลดดอกเบี้ยตาม
“การลดดอกเบี้ยลงทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯและอังกฤษจะส่งผลดีต่อตลาดคริปโตเพราะจะช่วยลดต้นทุนการเข้าสู่ตลาดของนักลงทุนรวมถึงนักลงทุนจะหันไปถือครองบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลดค่าของสกุลเงิน ขณะเดียวกันนักลงทุนในสินทรัพย์ดั้งเดิมอาจแบ่งเงินลงทุนมายังคริปโตถ้าหากดอกเบี้ยลดลง”นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าว
ขณะที่ความกังวลเรื่องที่เจ้าหนี้ของ Mt.Gox ซึ่งได้รับเหรียญ BTC, BCH และ ETH มูลค่ากว่า 9 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐฯคืนมาและจะทำการเทขายทำกำไร หลังจากที่มีการคืนหนี้บางส่วนไปแล้ว ผลคือข้อมูลระบุว่าผู้รับจำนวนมากถือครองสินทรัพย์ของตนแทนที่จะขายทันทีซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในระยะยาวทำให้ไม่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อตลาดมากนักและหลังจากนี้ตลาดจะคลายความกังวลเรื่องของ Mt.Gox ที่มีมายาวนานลง
ประเด็นอื่นที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับตลาดคริปโตคือการรายงานผลประกอบการของ Tether ผู้สร้างเหรียญ Stablecoins ที่มีสัดส่วนตลาดมากที่สุดอย่าง USDTรายงานกำไรสุทธิครึ่งปีแรก 2024 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีกำไร 1.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 2 เพียงอย่างเดียว สินทรัพย์สำรองของบริษัทได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่และเกินกว่าการค้ำประกันที่ 5.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลประกอบการนี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนถ้าหากเกิดความผันผวนขึ้นกับตลาด
นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าวสรุปว่าในระยะสั้น ตลาดคริปโตมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากท่าทีที่ระมัดระวังของธนาคารกลางขนาดใหญ่และการลดลงของการแจกจ่ายของ Mt. Gox ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพหรืออ่อนค่าเล็กน้อยอาจทำให้นักลงทุนเข้าสู่ตลาดคริปโตได้ง่ายขึ้น
“แนวโน้มระยะกลางสำหรับคริปโตโดยเฉพาะบิทคอยน์ยังดูสดใส ข้อมูลจากสถิติเก่าระบุว่าหลังการเกิด Halving ราคาบิทคอยน์จะปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่เอื้อต่ออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมีแนวโน้มที่จะยังคงแข็งแกร่ง ความยืดหยุ่นที่แสดงให้เห็นในระหว่างการแจกจ่ายสินทรัพย์ของ Mt. Gox เสริมสร้างความเชื่อมั่นเชิงบวก หากข้อมูลเศรษฐกิจยังคงสนับสนุนความมั่นใจในแบบอนุรักษ์นิยมของธนาคารกลาง ยังสามารถเห็นตลาดคริปโตเติบโตอย่างต่อเนื่อง”นางสาวเกรซี่ เฉิน กล่าว