CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ลงทุนอย่างไรในช่วงที่ดอกเบี้ยผันผวน หุ้น 3 กลุ่มที่น่าสนใจเมื่อดอกเบี้ยกลับมาลดลง
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment > ลงทุนอย่างไรในช่วงที่ดอกเบี้ยผันผวน หุ้น 3 กลุ่มที่น่าสนใจเมื่อดอกเบี้ยกลับมาลดลง
Investment

ลงทุนอย่างไรในช่วงที่ดอกเบี้ยผันผวน หุ้น 3 กลุ่มที่น่าสนใจเมื่อดอกเบี้ยกลับมาลดลง

CTD admin
Last updated: 2024/03/12 at 10:28 AM
CTD admin Published January 28, 2024
Share

ในช่วงที่ผ่านมาปัจจัยเรื่องของดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นถือว่าเป็นปัจจัยหลักส่วนหนึ่งที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก เพราะต้นทุนทางการเงินนั้นได้มีการปรับตัวสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมา จากในปี 2022 ที่อัตราดอกเบี้ยของ FED อยู่ที่ประมาณ 0.00% ปรับตัวขึ้นมาสูงถึง 5.00% ในปี 2023

และเมื่ออัตราดอกเบี้ยของ FED มีการปรับตัวขึ้นมา ก็ส่งผลให้ Bond Yield 10 ปีของ US มีการปรับตัวขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยของ FED โดยในปี 2022 Bond Yiled 10ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 1.50% ปรับตัวขึ้นมาสูงถึง 5.00% และสิ้นปี 2023 Bond Yiled 10ปี ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 3.84% ถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นมาสูงถึง 154%

จากกราฟจะเห็นได้ว่าต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก และเมื่อผลตอบแทนที่ไร้ความเสี่ยงนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้น การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่าง ๆ ก็ได้ ถูกลดความน่าสนใจไปโดยปริยาย ดังนั้นในปีที่ผ่านมาจึงเกิดสภาวะที่เงินไหลออกจากสินทรัพย์เสี่ยง ไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา

แต่ในปี 2024 นี้ที่หลาย ๆ แห่งคาดการณ์ว่า ดอกเบี้ยน่าจะขึ้นไปที่จุดสูงสุดแล้ว และหลังจากนี้มีโอกาสที่จะเป็นการคงอัตราดอกเบี้ย และปรับลดอัตราดอกเบี้ยในลำดับถัดไป

ดังนั้นเงินทุนก็มีโอกาสที่จะไหลกลับเข้ามาในสินทรัพย์เสี่ยงก็เป็นได้ และเมื่อเกิดการคาดการณ์ในรูปแบบนี้เกิดขึ้นสิ่งต่อมาที่นักลงทุนจำเป็นจะต้องทำการบ้านก็คือ ดูว่าหุ้นตัวไหน หรือกลุ่มใดที่มีความอ่อนไหวกับการปรับเพิ่มขึ้นหรือลง ของอัตราดอกเมื่อทราบเช่นนี้แล้ว เราก็จะทราบได้ว่า เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับลดลงมีโอกาสที่หุ้นกลุ่มไหนจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ในตลาด

จากสมมติฐานว่า อัตราดอกเบี้ยนั้นได้มาถึงจุดสูงสุดไปแล้ว และมีโอกาสที่อัตราดอกเบี้ยจะปรับลดลงในอนาคต หุ้นกลุ่มแรกเลยที่ได้รับความสนใจมากก็คือ

1.กลุ่มการเงิน

ซึ่งหุ้นในกลุ่มนี้จะเป็นการที่ต้องหาแหล่งเงินทุนจากแหล่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ การออกหุ้นกู้ หรือการหาแหล่งเงินกู้จากธนาคารหรือองค์กรต่าง ๆ ดังนั้นปัจจัยหลักที่กระทบกำไรของหุ้นกลุ่มนี้คือ อัตราดอกเบี้ย ในช่วงปีที่ผ่านมาเราจะเห็นหุ้นกลุ่ม Finance ปรับตัวลงมาอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยของการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ย ดังนั้นแล้วเมื่ออัตราดอกเบี้ยในอนาคตมีแนวโน้มจะคงที่หรือปรับตัวลดลง จากปัจจัยที่เคยกดดันราคาหุ้นกลุ่มนี้ ก็อาจกลับมาเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาของหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้

2.กลุ่มอสังหาฯ

แน่นอนการกู้ซื้อบ้านนั้น ดอกเบี้ยก็เป็นปัจจัยสำคัญเฉกเช่นเดียวกันในการตัดสินใจซื้อ ถ้าอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง แน่นอนว่าผู้ที่ต้องการกู้ซื้อบ้านก็จำเป็นต้องผ่อนบ้านยาวนานขึ้น หรือยอดผ่อนต่อเดือนก็จำเป็นต้องสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นแล้วการที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงมาก็จะถือว่าเป็นอีกปัจจัยที่จะเป็นตัวสนับสนุนให้กลุ่มของอสังหาฯ มีโอกาสมากขึ้นเช่นกัน

3.กลุ่มโรงไฟฟ้า

พอมาถึงกลุ่มนี้บางท่านอาจแปลกใจว่าทำไมกลุ่มโรงไฟฟ้าถึงได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง แต่ถ้าลองมองดูดี ๆ การจะสร้างโรงไฟฟ้านั้นจำเป็นต้องใช้เงินทุนสูง และใช้เวลาพอสมควรกว่าจะคืนทุนได้ ดังนั้นการกู้ยืมจากแหล่งต่าง ๆ จึงถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับหุ้นในกลุ่มนี้ ดังนั้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นก็ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย กลับกันรายได้จากการขายไฟฟ้านั้นมีกำลังการผลิตสูงสุด Cap ไว้อยู่ และก็มีสัญญาการขายไฟกำหนดราคาซื้อขายไว้อยู่ด้วย ดังนั้นแล้วเมื่อต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่รายได้เพิ่มได้จำกัด ก็จะส่งผลต่องบกำไรขาดทุนเช่นกัน ด้วยเหตุผลนี้เมื่อดอกเบี้ยเป็นขาลงก็จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มนี้เช่นกันคือ ค่าใช้จ่ายลดลง และมีโอกาสที่จะทำให้กำไรของหุ้นกลุ่มนี้ปรับตัวขึ้น

เมื่อได้กลุ่มหุ้นคร่าว ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากดอกเบี้ยแล้ว สิ่งที่นักลงทุนควรนำไปศึกษาต่อก็คือ เรื่องของพื้นฐานของหุ้นแต่ละตัวว่าหุ้นตัวไหนที่มีโอกาสที่ราคาจะฟื้นกลับไปได้จากปัจจัยข้างต้น รวมถึงความแข็งแกร่งและโอกาสเติบโตในอนาคตด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่เราจะสามารถทำได้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนกันด้วยนะครับ

เขียนโดย ว่าที่ร.ต. ธนวัฒน์ เมธวินภาณุวัชร์

You Might Also Like

AOT ราคาเท่าไหร่ถึงเรียกว่าถูก?

“เอกา โกลบอล” ประเมินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รับมือนโยบาย ‘ทรัมป์’

Webull ชูจุดแข็งท่ามกลางตลาดผันผวน ด้วย Daily Interest รับดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี

นโยบายประชานิยม กับดักความจน ตัวการพังเศรษฐกิจไทย?

TAGGED: การลงทุน, การลงทุนโลก, ความรู้การลงทุน, ดอกเบี้ย, นักลงทุน, ลงทุน, สินทรัพย์, หุ้น, เศรษฐกิจ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin January 28, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article ทำไมมี Bitcoin ETF แล้วแต่ Bitcoin ยังไม่ขึ้น? แล้วจะขึ้นเมื่อไร? 
Next Article Block Mountain CNX 2024 ปักธงเชียงใหม่ Landmark วงการ Digital Asset
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?