เมื่อกลางปี 2023 คนไทยเพิ่งตื่นเต้นกับไอศกรีมทุนจีนราคาดีอย่าง MIXUE ไปได้ไม่นาน เปิดต้นปีมาก็ต้อนรับไอศกรีมจีนอีกเจ้า ที่เรียกได้ว่า ดูจากหน้าตาของแบรนด์และสินค้า เขาเตรียมตัวมาแข่งกับรุ่นพี่ที่มาก่อนโดยเฉพาะ นั่นคือน้องใหม่ “ป้ายเขียว” อย่าง WEDRINK
WEDRINK มาจากไหน?
WEDRINK เป็นแบรนด์ในเครือของ Runxiang Catering Company บริษัทเครื่องดื่มจีนที่เชี่ยวชาญในด้านของหวานประเภท ไอศกรีม ชา กาแฟ และน้ำผลไม้ ดำเนินการในหลากหลายชื่อแบรนด์ ซึ่งนอกจาก WEDRINK ก็ยังมี Tea Advocate ด้วย มีสาขาใหญ่อยู่ที่เจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน และมีแฟรนไชส์ในเครือทั่วโลกกว่า 3,000 สาขา มียอดขายถึงปีละ 600 ล้านแก้วเลย
ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีก็เปิดเป็นร้านเครื่องดื่มเล็ก ๆ ชื่อ BUYDU Drink ในปี 2012 ที่ลั่วหยาง มณฑลเหอหนานของจีน และค่อยเริ่มเปิดเป็นแฟรนไชส์ในปี 2014 ก่อนที่จะย้ายสำนักงานใหญ่ไปเจิ้งโจวในปีต่อมา จนปี 2016 แฟรนไชส์ก็ได้รับความนิยมสูงทั่วประเทศจีน เมื่อเติบโตได้ดี ในปี 2019 ก็ประกาศเปิดแบรนด์ใหม่อย่าง WEDRINK ขึ้นมา และแทนที่ BUYDU ไปในปี 2020
ในปีต่อมาเขาก็เปิดเพิ่มอีกแบรนด์หนึ่งด้วย ชื่อ Yiina ขายชาเหมือนกันแต่เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงสูง เป็นอีกเซกเมนต์หนึ่งที่แพงกว่า มาปี 2021 ก็เปิด WEDRINK รวมได้เป็นพันสาขาทั่วประเทศ และได้ไปเปิดสาขาต่างประเทศที่แวนคูเวอร์ แคนาดาด้วย
ในปี 2022 WEDRINK เริ่มบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการไปเปิดสาขาอยู่ตามเมืองหลวงของประเทศอาเซียนทั้ง กรุงจากาต้า อินโดนีเซีย, กัวลาลัมเปอร์ มาเลเชีย, เวียงจันทน์ ลาวและมาปีนี้ก็คือ กรุงเทพฯ ประเทศไทย ซึ่งเปิดได้ราว 3 สาขาแล้ว
ท้าชน MIXUE?
ถ้าใครได้เห็นหน้าตาของร้านและสินค้า WEDRINK มาแล้วคงจะอดคิดไม่ได้ว่าแบรนด์นี้มันเกิดมาชนกับแบรนด์รุ่นพี่อย่าง MIXUE ที่เข้ามาในตลาดก่อน ไม่ใช่แค่ในไทย แต่รวมถึงในจีนเองด้วย เพราะ MIXUE เริ่มธุรกิจมาตั้งแต่ 1997 เริ่มเปิดแฟรนไชส์ตั้งแต่ 2007 นำ WEDRINK ไปไกลหลายปี
ซึ่งตัว WEDRINK เองเขามีกลยุทธ์ “ราคาไม่แพงและเอื้อมถึง” เหมือนกับ MIXUE ทำให้ขายในราคาถูกมาก ๆ เริ่มต้นแค่ 15-60 บาท แถมตัวเมนูเองก็ไม่ค่อยต่าง มีไอศกรีมรสชาติต่าง ๆ ชานม ชาผลไม้ ซึ่งตัวเด่น ๆ ที่เขาขายเห็นจะเป็นไอศกรีมชาเชียว และชาถัง
ในเชิงโครงสร้าง เขายังมีศูนย์วิจัยและพัฒนา ระบบโลจิสติกส์ รวมถึงครัวกลางและแหล่งวัตถุดิบของตัวเอง เหมือนกับ MIXUE เลย ซึ่งนี่คือหัวใจสำคัญของการทำราคาให้ถูกแต่ยังได้กำไร เพราะควบคุมต้นทุนได้เกือบทั้งหมด
ส่วนด้านการตลาด WEDRINK กับ MIXUE ก็มาแนวเดียวกัน เน้นขายนักเรียน นักศึกษา เน้นกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ระดับล่างขึ้นไป เลือกทำเลใกล้โรงเรียน มหาวิทยาลัย และห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ
นอกจากนี้ การตกแต่งร้าน บรรยากาศภายใน ก็คล้ายกันมาก ต่างกันแค่สี แถมยังมีมาสคอตตาแป๋ว ๆ คล้ายกันอีก ซึ่งของ WEDRINK น่าจะเป็นไอศกรีม ส่วน MIXUE เป็นมนุษย์หิมะ
โดยรวมจะเห็นได้ค่อนข้างชัดเลยว่าทั้งตัวแบรนด์และกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจนี่แทบจะถอดแบบกันมาเป๊ะ ๆ เลย แบบนี้จะเรียกว่าจีนก๊อปจีนได้ไหม ก็ต้องบอกอย่างนี้ว่าจริง ๆ ธุรกิจแบบนี้มันก็ไม่มีอะไรที่ต่างกันมากอยู่แล้วแหละครับ เพียงแต่ว่าถ้าดันเหมือนมากจนรู้สึกได้ อันนี้ก็น่าคิด และหนึ่งในบทความในเว็บไซต์ของ WEDRINK เขาเคยพาดพิงไปถึง MIXUE เองเลยด้วย
สู้ได้… ไหม?
หากจะถามว่าท้าชนกันจะ ๆ แบบนี้ WEDRINK มีท่าทีจะสู้ได้ไหม ถ้าดูจากตอนนี้คงตอบได้แค่ “ยาก” เพราะเริ่มช้ากว่า MIXUE หลายปี แม้จะเข้าไทยไม่ห่าง แต่จำนวนสาขาโดยรวมยังต่างกันมาก ในขณะที่สาขาของ WEDRINK ในไทยมีอยู่ 3 สาขา และทั่วโลกราว 3,000 แต่รุ่นพี่ป้ายแดงมีสาขาในไทย 200+ ตั้งเป้า 2,000 ในอีก 2 ปีนี้ และแค่ในจีนก็ไม่น้อยกว่า 25,000 สาขาแล้ว รวมสาขาต่างประเทศอีกหมื่นกว่าก็จะอยู่ราว ๆ 36,000 สาขาทั่วโลก ต่างกัน 10 เท่าตัว
อีกทั้งการที่ Mixue เริ่มก่อนก็ตีตลาดจนคนติดไปแล้ว และถึงสินค้า ราคาจะไม่ต่าง ก็อาจดึงดูดให้คนไปลองได้ในช่วงสั้น ๆ หาก WEDRINK จะไม่ทำอะไรให้ต่างไป สุดท้ายก็จะเหมือนแค่เดินตามรอย และช้ากว่าเลยอาจโตไม่ทัน
ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่า MIXUE จะลอยตัว เพราะการที่ WEDRINK เติบโตและกินส่วนแบ่งตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งทำสินค้าและแบรนด์เหมือน ๆ กันได้ สะท้อนให้เห็นว่าจริง ๆ แล้ว MIXUE นั้นถูก Disrupt ได้ไม่ยาก หากวันใดวันหนึ่งที่ WEDRINK หรือแบรนด์อื่นที่คล้ายกัน ลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างให้ต่างไปและดึงดูดใจผู้บริโภคได้มากกว่า ส่วนแบ่งตลาดที่เคยมี อาจถูกชิงไปโดยไม่เกี่ยวว่าสาขาจะมากหรือน้อยเลยก็ได้
ส่วนใครที่ได้ลองเมนูของทั้งสองแบรนด์แล้ว มาแชร์กันหน่อยครับว่า Mixue กับ Wedrink คุณชอบแบรนด์ไหนมากกว่ากัน
ที่มา: https://www.wedrinkrx.com/index.php?c=category&id=22#brand1
https://wedrink.top/qyxw/105.html
https://wedrink.top/hyxw/106.html