CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: ‘ขาดทุนให้ยากขึ้น’ และ ‘เสี่ยงอย่างคุ้มค่า’ ด้วย ‘Risk/Reward Ratio’
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > ‘ขาดทุนให้ยากขึ้น’ และ ‘เสี่ยงอย่างคุ้มค่า’ ด้วย ‘Risk/Reward Ratio’
Investment (Closed)

‘ขาดทุนให้ยากขึ้น’ และ ‘เสี่ยงอย่างคุ้มค่า’ ด้วย ‘Risk/Reward Ratio’

connectthedots admin
Last updated: 2023/07/01 at 5:32 AM
connectthedots admin Published February 14, 2022
Share

ก่อนหน้านี้ในบทความ ‘การบริหารเงินลงทุน (Money Management)’ นั้นเราได้รู้จักกับเคล็ดลับการจัดสรรเงินลงทุน และได้มีการเกริ่นถึง ‘Risk/Reward Ratio (RRR)’ หนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยให้การตัดสินใจลงทุนในหุ้น, กองทุน หรือแม้กระทั่งคริปโตฯ นั้น ‘ได้กำไรมากกว่าเสีย’ และ ‘ขาดทุนได้ยากขึ้นกว่าเดิม’ ในระยะยาว และในวันนี้เราจึงจะมาทำความรู้จักกับเครื่องมือตัวนี้ให้ละเอียดมากขึ้นว่า หลักการใช้งานของ Risk/Reward Ratio นั้นเป็นอย่างไร

ก่อนอื่นนั้นเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าในโลกของการลงทุน ‘ผลตอบแทน’ และ ‘ความเสี่ยง’ เป็นสิ่งมาคู่กัน หากหุ้นตัวหนึ่งมีเป็นหุ้นที่การเติบโตที่สูง ย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้นตามมาดั่งเงา ดังนั้นหากต้องการผลตอบแทนที่มากขึ้น จำเป็นที่จะต้องแบกรับความเสี่ยงที่มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น Risk/Reward Ratio จึงเป็นเครื่องมือที่มาช่วยให้เราประเมินได้ว่า ‘ผลตอบแทน’ และ ‘ความเสี่ยง’ นั้นคุ้มค่าหรือเปล่าหากจะวางเงินลงทุน

หลักการของ Risk Reward Ratio นั้นสุดแสนจะเรียบง่าย โดยเป็นแนวคิดในการพิจารณาในการวางเงินลงทุนผ่าน ‘โอกาสในการได้กำไร และความเสี่ยงที่จะขาดทุน’ โดยการเปรียบเทียบ จุดตัดขาดทุน (Stop loss) และจุดขายเอากำไร (Take Profit) ว่าหากเปรียบเทียบกันแล้วนั้นกำไรที่เราจะได้รับคุ้มค่ากับความเสี่ยงต่อการจะขาดทุนที่ต้องแบกรับหรือเปล่า?

ยกตัวอย่างเช่น หุ้น ก มีการวิ่งขึ้นลงในกรอบราคา 100 – 150 บาท ตลอดช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ในปัจจุบันราคาของ หุ้น ก อยู่ที่ 110 บาท หากเราตัดสินโดยใช้ Risk/Reward Ratio วิเคราะห์ว่าราคานี้ควรเข้าซื้อหรือเปล่า จะพบว่าจุดตำ่สุดของกรอบราคานั้นอยู่ที่ 100 บาท และจุดที่สามารถทำกำไรได้มากสุดจะอยู่ที่ 150 บาท 

ทำให้เราสามารถประเมินได้ว่าจุดควรขายขาดทุน และขายทำกำไรอยู่ที่จุดใด โดยตัดสินใจตั้ง Stop loss อยู่ที่ 100 บาท และจุด Take Profit ที่ 150 บาท หากเราเข้าซื้อที่ราคาปัจจุบันจะเห็นได้ว่าหากขาดทุน เราจะขาดทุน 10 บาท และได้กำไร 40 บาทต่อหุ้น Risk/Reward Ratio ของเราจะอยู่ที่ 1/4 หรือ 0.25 หมายความว่าการวางเงินลงทุนในครั้งนี้ถ้าได้กำไรเราจะได้กำไร 4 และขาดทุน 1 นั่นเอง

น่าเสียดายว่าไม่มีตำราใดที่บอกไว้อย่างตายตัวว่าเราสัดส่วนของ Risk และ Reward นั้นควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะเป็นตัวเลขที่ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละคนสามารถแบกรับได้ แต่กูรูหุ้นผู้คร่ำหวอดในตลาดมาเป็นเวลานานมักจำกัดสัดส่วน Risk และ Reward ให้อยู่ต่ำกว่า 1 เพราะมีแนวโน้มจะทำให้มีผลประกอบการเป็นบวกในการเทรดระยะยาว 

สิ่งสำคัญของการใช้งาน Risk/Reward Ratio คือการวิเคราะห์หาจุดขาดทุน และจุดกำไรนั้นควรที่จะวิเคราะห์ตามความเป็นเหตุเป็นผล และทำการบ้านเกี่ยวกับธรรมชาติของหุ้น หรือคริปโตฯ ที่สนใจอย่างละเอียด เพราะการตั้งจุด กำไร/ขาดทุน ตามใจฉัน ทำให้การวิเคราะห์ ‘ผลตอบแทน’ และ ‘ความเสียง’ มีความคลาดเคลื่อน ซึ่งอาจส่งผลให้เราต้องสูญเงินให้กับตลาดได้จากความผิดพลาดเพียงไม่กี่ครั้ง

อย่างไรก็ตาม Risk/Reward Ratio นั้นเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่ต้องใช้ประกอบกับเครื่องมือบริหารความเสี่ยงตัวอื่นๆ อย่างการบริหาร ‘หน้าตักลงทุน’ (Positioning Size) โดยคุณอาจจะเพิ่มเงินในการเข้าซื้อหุ้น ก ให้มากขึ้นเพราะอัตรา Risk/Reward นั้นอยู่ที่ 1/4 เสียเพียงแค่ 1 แต่ได้มาถึง 4 เลยทีเดียว 

หัวใจหลักของการลงทุนยังคงเป็น ‘การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม’ เพราะการลงทุนนั้นไม่ได้วัดกันว่าสามารถทำกำไรได้มากน้อยเพียงใด แต่เป็นการวัดว่าจะสามารถทำกำไรได้ยาวนานแค่ไหนต่างหาก และตราบใดที่เราลงทุนตามแผนที่วางไว้อย่างเป็นระบบ และมีวินัย อย่างไรเสียในระยะยาวก็ แม้จะไม่กำไรแต่ก็ขาดทุนได้ยากอย่างแน่นอน

ที่มา:

https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/62-control-cost-manage-risk

https://www.meawbininvestor.com/risk-reward-ratio/

https://admiralmarkets.sc/th/education/articles/trading-instruments/forex-risk-reward-ratio-calculation

https://www.thebalance.com/risk-to-reward-ratio-1031350

You Might Also Like

TISA แนวคิดใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ “ซื้อหุ้น ได้ลดหย่อนภาษี” หวังช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย

Pi Daily เผยตลาดปรับขึ้น แต่เชื่อว่าความผันผวนยังมี ให้เน้นเป็นรายตัวในหุ้นที่ผลประกอบการยังดี

Globlex เสิร์ฟหุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง KIKO-Basket-KIKO ผลตอบแทน 7-15% ต่อปี 

Pi เผยผลงานปี 67 พร้อมรุกกลยุทธ์ปี 68 ยกระดับบริการการลงทุนครบวงจร

TAGGED: การลงทุน, ความรู้การลงทุน, ตลาดหุ้น, นักลงทุน, ลงทุน, ลงทุน101, เทรดเดอร์

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin February 14, 2022
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือน ม.ค. พลิกเกมลงทุน “ทองคำ” รอจังหวะราคาเข้าซื้อ
Next Article หาหุ้นปันผลจากไหนดี?
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?