CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: “ทองคำ” ดีดแรง มีโอกาสแตะ 2,200 ดอลลาร์ ดักทางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ราคาน้ำมัน
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Investment (Closed) > กูรูลงทุน > เปโดร พุกกะมาน > “ทองคำ” ดีดแรง มีโอกาสแตะ 2,200 ดอลลาร์ ดักทางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ราคาน้ำมัน
เปโดร พุกกะมาน

“ทองคำ” ดีดแรง มีโอกาสแตะ 2,200 ดอลลาร์ ดักทางตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-ราคาน้ำมัน

connectthedots admin
Last updated: 2023/04/07 at 10:27 AM
connectthedots admin Published April 7, 2023
Share

นักลงทุนรุ่นใหม่ มอง “ทองคำ” มีโอกาสดีดกลับขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดเดิมในรอบหนึ่งปี รับปัจจัยบวกตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาด บวกแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมถึงความตึงเครียดระหว่างชาติ NATO กับรัสเซีย อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาการประกาศตัวเลข Non-Farm Payroll คืนวันศุกร์นี้ ตลอดจนการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันอาจทำให้ FED ไม่ปรับนโยบายการเงินเข้าสู่ภาวะผ่อนคลายตามคาด

นายณพวีร์ พุกกะมาน นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง Creative Investment Space (CIS) สถาบันให้ความรู้ด้านนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบใหม่ เปิดเผยว่า ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา “ทองคำ” มีราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 10% จนเกือบแตะจุดสูงสุดเดิมในรอบหนึ่งปี ที่ 2,057 ดอลลาร์ มองว่าเป็นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ประกาศออกมาในช่วงหลัง เริ่มออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ทำให้ตลาดเริ่มกังวลกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ที่อาจจะเกิดขึ้น ประกอบกับ NATO ได้รับประเทศฟินแลนด์เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ เนื่องจากฟินแลนด์มีพรมแดนติดกับประเทศรัสเซีย ถ้าหากรัสเซียมีการบุกเข้ามายังชายแดนฟินแลนด์ กลุ่มประเทศ NATO พร้อมที่จะโต้ตอบได้ทันที ดังนั้น “ทองคำ” ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) จึงมีแรงซื้อเข้ามา

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก FED Watch Tool ยังบอกว่ามีโอกาส 50% ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะขึ้นดอกเบี้ยอัตรา 0.25% ในการประชุมเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ และหลังจากนี้จะหยุดการขึ้นดอกเบี้ย หรือ อาจจะเริ่มมีการลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และส่งผลบวกต่อราคาทองคำในที่สุด 

โดย Dollar Index ปรับตัวลงต่อเนื่องจนใกล้เคียงที่จะแตะระดับต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นในปีนี้ที่ระดับ101.90 จุด และแนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็นขาลง ทำให้สินทรัพย์อื่น ๆ มีแรงซื้อกลับเข้ามา ถ้าหาก FED กลับลำนโยบายทางการเงินมาเป็นผ่อนคลายก็จะส่งผลบวกต่อทองคำตลอดทั้งปีนี้

“อย่างไรก็ตาม วันศุกร์นี้ (7 มี.ค. 66) สหรัฐฯ จะประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (Non-Farm Payroll) ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 238,000 ตำแหน่ง ถ้าออกมาในระดับนี้ หรือ น้อยลง จะเป็นผลดีต่อ “ทองคำ” และในวันเดียวกันยังมีการประกาศอัตตราการว่างงาน ถ้าออกมามากกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.7% ก็จะเป็นผลดีต่อทองคำเช่นกัน โดยสองดัชนีนี้นับว่ามีความสำคัญมากกว่า ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ถ้าออกมาแล้วไม่เป็นไปตามที่คาดก็อาจมีแรงเทขายในทองคำออกมาเช่นกัน”

ทั้งนี้ กลยุทธ์การลงทุนมองด้านเทคนิค ราคาทองคำ มีแนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 2,057 ดอลลาร์ ถ้าสามารถผ่านระดับนี้ไปได้จะมีเป้าหมายต่อไปที่ระดับ 2,214 ดอลลาร์ แต่ถ้ามีการปรับตัวลงแนวรับที่ใช้เป็นจุด “ซื้อ” ได้อยู่ที่ 1,960 ดอลลาร์

นายณพวีร์ กล่าวว่า ทางด้านราคา “น้ำมัน” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดีดกลับมาขึ้นแรงเกือบ 10% หลังจากที่ติดลบราว 8% และทำให้ผลตอบแทนในปีนี้กลับมาเป็นบวก น่าจะมีสาเหตุมาจากกลุ่มประเทศโอเปกพลัสหันมาลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง ทำให้เกิดแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่น โดยโกลด์แมน ซาคส์ (Goldman Sachs) และวานิชธนกิจอื่น ๆ ออกมาคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันอาจจะกลับมาแตะ 100 ดอลลาร์ ได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม มีมุมมองจากองค์กรเศรษฐกิจระดับโลกอย่าง IMF และ OECD ที่ออกมาคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจโลกในปีนี้ มีโอกาสจะเติบโตลดลง และมีโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมัน จึงยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าราคาน้ำมันจะกลับมาเป็นขาขึ้น หรือ ไม่

ทางด้าน มุมมองเชิงเทคนิคของราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ระยะสั้น มีแนวต้านที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ถ้าสามารถผ่านแนวต้านนี้ไปได้ มีแนวโน้มที่จะกลับมาเป็นขาขึ้นอย่างเต็มตัว เพราะเป็นการผ่านแนวต้านที่กดราคาเป็นขาลงมาตั้งแต่ต้นปี 2566 และยังเป็นการกลับมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่200 วัน ขณะที่แนวรับอยู่ที่ระดับ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

“เวลานี้ต้องจับตาราคาน้ำมันดิบถ้าหากกลับมาเป็นขาขึ้นจริง อาจจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง จนอาจทำให้ FED ไม่สามารถกลับทิศนโยบายการเงินจากเข้มงวดมาเป็นผ่อนคลายได้ จึงอาจยังไม่เห็นการลดดอกเบี้ยในปีนี้ และทำให้อัพไซด์ของราคาทองคำอาจจะมีจำกัด”

You Might Also Like

“เอกา โกลบอล” ประเมินธุรกิจบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร รับมือนโยบาย ‘ทรัมป์’

ทองคำผันผวนจากศึกภาษี ‘YLG’ มองมีโอกาสแตะ 3,500 ดอลลาร์ หากเจรจาภาษีไม่สำเร็จ

นโยบายประชานิยม กับดักความจน ตัวการพังเศรษฐกิจไทย?

TISA แนวคิดใหม่ของตลาดหลักทรัพย์ฯ “ซื้อหุ้น ได้ลดหย่อนภาษี” หวังช่วยหนุนตลาดหุ้นไทย

TAGGED: การลงทุน, การลงทุนยุคใหม่, การลงทุนโลก, ทองคำ, นักลงทุน, น้ำมัน, ลงทุน, หุ้น, เศรษฐกิจ

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
connectthedots admin April 7, 2023
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article คำศัพท์การเงิน 08: Par Value
Next Article แนวคิดการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investment)
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?