CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: Gen Z ‘เดอะแบก’ รุ่นต่อไป
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > News > Gen Z ‘เดอะแบก’ รุ่นต่อไป
News

Gen Z ‘เดอะแบก’ รุ่นต่อไป

CTD admin
Last updated: 2024/03/19 at 5:21 AM
CTD admin Published March 19, 2024
Share

ที่ผ่านมา Gen X คือคนที่เกิดตั้งแต่ปี 2508-2523 มีอายุตั้งแต่ 44-59 ปี ถูกมองว่าเป็น “เดอะแบก” หรือบางก็ถูกเรียกว่าเป็น ‘Sandwich Generation’ เพราะต้องดูแลทั้งผู้สูงอายุในบ้าน และลูกหลานที่กำลังเติบโต แต่ปัจจุบันด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยหลังการระบาดครั้งใหญ่ ทำให้ Gen Z เลือกอยู่กับครอบครัวเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย และนั่นเป็นราคาที่พวกเขาต้องจ่ายจากภาระที่ได้รับทั้งด้านการเงินและจิตใจ

5 Generations ความต่างที่คุณต้องรู้

1. Baby Boomer (พ.ศ. 2489 – 2507)

2. Generation X (พ.ศ. 2508-2522)

3. Generation Y (พ.ศ. 2523 – 2540) หรือ Millennials

4. Generation Z (พ.ศ. 2540 ขึ้นไป)

5. Generation C (แบ่งกลุ่มตามพฤติกรรมการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค)

หลังจากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากการระบาดของโควิด – 19 คนรุ่นมิลเลนเนียลเป็นรุ่นแรกที่อยู่บ้านเป็นจำนวนมาก และตอนนี้ Gen Z ก็กำลังเดินตามรอยเท้าของพวกเขา แต่ต่างจากคนรุ่นมิลเลนเนียลที่ถูกเรียกว่า ‘ขี้เกียจ’ ที่จะอยู่กับพ่อแม่จนถึงวัย 20 ปี การที่ Gen Z อยู่บ้านเป็นเรื่องที่น่าสนใจ การตัดสินใจนั้นมาพร้อมกับข้อเสีย เพราะการมีชีวิตอยู่เพียงลำพังเป็นก้าวสำคัญในการเป็นผู้ใหญ่ และการวิจัยระบุว่าผู้ที่ไม่ยอมออกจากบ้านเดิมของพ่อแม่จะต้องชดใช้ทั้งทางการเงินและทางอารมณ์

จากข้อมูลของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐอเมริกา ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา มีคนหนุ่มสาวในสหรัฐอเมริกาอาศัยอยู่ที่บ้านเพิ่มขึ้นถึง 87% และมากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ที่มีอายุ 18 ถึง 24 ปีในอเมริกาอาศัยอยู่กับพ่อแม่ และในการสำรวจล่าสุดโดย RentCafe พบว่า 41% ของผู้ตอบแบบสอบถาม Gen Z ที่เป็นผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่กับครอบครัว และพวกเขาคิดว่าจะยังคงใช้ชีวิตร่วมกับสมาชิกคนอื่นๆ ในครอบครัวต่อไปอีกอย่างน้อยสองปี เช่นเดียวกับคนหนุ่มสาวในสหราชอาณาจักร กว่า 620,000 ที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ เพิ่มขึ้นมากจากทศวรรษที่แล้ว

เงินเฟ้อสูง-ค่าเช่าบ้านพุ่ง

แนวโน้มการอยู่อาศัยกับครอบครัวของคน Gen Z มาจากภาระค่าเช่าของตลาดที่อยู่อาศัยที่เพิ่มสูงขึ้น มูดี้ส์ รายงานว่า ในปี ในปี 2022 ผู้เช่าชาวอเมริกัน มีรายจ่ายจากค่าเช่าโดยเฉลี่ยมากกว่า 30% ของรายได้เป็นครั้งแรก โดย Gen Z จะใช้เงินราว226,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับค่าเช่าที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อในช่วงชีวิตของพวกเขา ซึ่งมากกว่าคนรุ่นมิลเลนเนียลที่ประมาณ 24,000 ดอลลาร์ และมากกว่าเบบี้บูมเมอร์ที่ประมาณ 77,000 ดอลลาร์ สิ่งนี้ได้สร้างความตึงเครียดอย่างมากให้กับผู้เช่าที่อายุน้อยเหล่านี้ ซึ่งจากการสำรวจของ Bloomberg News และ Harris Poll ในปี 2023 พบว่า 70% ของเด็กอายุ 18 ถึง 29 ปีที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ โดยพวกเขา ระบุว่า ไม่มีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งพอหากจะเลือกไปอาศัยอยู่ที่อื่น

แม้ว่าการสำรวจโดย Bloomberg-Harris Poll พบว่า 40% ของคนหนุ่มสาวกล่าวว่าพวกเขารู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ที่บ้าน และหนึ่งในสามรู้สึกเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่เลือกอยู่กับครอบครัว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกดี จากการสำรวจของ Pew ในเดือนตุลาคม 2021 ชาวอเมริกันมากกว่าหนึ่งในสาม กล่าวว่า พวกเขาคิดว่ามันไม่ดีสำหรับสังคมที่คนหนุ่มสาวอาศัยอยู่กับพ่อแม่ มีเพียง 16% เท่านั้นที่บอกว่าเป็นสิ่งที่ดี ด้วยราคาค่าเช่าที่สูงลิบลิ่ว คนหนุ่มสาวจำนวนมากรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก

นอกจากนี้ จากรายงานของ Urban Institute ในปี 2019 พบว่า ผู้ที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่มีอายุระหว่าง 25 ถึง 34 ปี มีโอกาสเป็นเจ้าของบ้านน้อยลงอย่างมากในอีก 10 ปีต่อมา การวิจัยเปรียบเทียบผู้ที่เช่าหรือซื้อบ้านของตนเองกับผู้ที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ ผลการวิจัยพบว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งทศวรรษ 32% ของคนหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่ในตอนแรกยังคงไม่สามารถมีชีวิตอิสระได้ ในขณะที่ผู้เช่าและผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านไปก่อนหน้านี้เกือบทั้งหมดมีอิสระมากกว่า

เจอภาวะกดดันทางอารมณ์

นอกจากนี้ การอยู่ร่วมกับพ่อแม่ ยังมีภาระทางอารมณ์ เช่นเดียวกับ Sarah Obutor ที่ย้ายกลับไปอยู่บ้านครอบครัวของเธอในจอร์เจีย ตอนอายุ 20 เธอรู้สึกถึงต้นทุนที่ต้องติดอยู่ที่บ้าน “พวกเขายังคงมองคุณเป็นเด็ก ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม” เธอกล่าว พี่ชายสองคนของเธออายุ 27 และ 29 ปีก็อาศัยอยู่ที่บ้านเช่นกัน แต่ Obutor แทบจะรอไม่ไหวที่จะออกไปข้างนอก เธอวางแผนจะกลับไปเรียนที่วิทยาลัยในฤดูใบไม้ร่วงและตั้งใจที่จะอยู่ในมหาวิทยาลัย ความหวังของเธอคือเมื่อเรียนจบแล้วเธอก็จะสามารถหาที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง

จากการวิจัยในปี 2022 พบว่า ผู้ที่กลับไปอยู่ที่บ้านพ่อแม่รายงานว่ามีอาการซึมเศร้าในระดับที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การใช้เวลาร่วมกับพ่อแม่หรือครอบครัวมากขึ้นอาจทำให้เกิดความตึงเครียดกับผู้ที่ย้ายกลับบ้าน Prabash Edirisingha ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านวัฒนธรรมผู้บริโภคและการตลาดจากมหาวิทยาลัย Northumbria กล่าวว่า “ส่วนหนึ่งคือการมีขอบเขตระหว่างบุคคลและพื้นที่ส่วนตัว ในครอบครัวที่มีหลายรุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่คับแคบและแออัด มันจะเป็นเรื่องยากมาก”

สำหรับคนหนุ่มสาวหลาย ๆ คน การอยู่คนเดียวเป็นก้าวสำคัญในการรู้สึกเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งนักวิจัย พบว่า ผู้ที่ต้องย้ายกลับไปอยู่กับพ่อแม่ในช่วงที่เกิดโรคระบาด รู้สึกเหมือนเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ในความรู้สึกว่าพวกเขาโตขึ้น “คุณไม่สามารถทำทุกสิ่งที่คุณอยากทำได้แม้ว่าคุณจะเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ตาม” Obutor กล่าว

เมื่อเหตุการณ์สำคัญในชีวิต เช่น การย้ายออก ซื้อบ้าน และการมีลูก ไม่สามารถทำได้ Gen Z อาจรู้สึกเหมือนกำลังถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งการสำรวจ ในปี 2022 ที่จัดทำโดย Relate เครือข่ายสนับสนุนความสัมพันธ์ในสหราชอาณาจักร พบว่า 83% ของกลุ่ม Gen Z กล่าวว่า พวกเขารู้สึกกดดันที่ต้องบรรลุเป้าหมายสำคัญต่าง ๆ เทียบกับ 77% ของคนรุ่นมิลเลนเนียล และ 66% ของผู้ที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไปที่พวกเขารู้สึกแบบนี้เมื่อตอนที่พวกเขาอายุน้อย

Jeffrey Jensen Arnett ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยคลาร์ก บอกว่า สำหรับคน Gen Z แนวคิดเรื่องการเป็นผู้ใหญ่กำลังเปลี่ยนไป สำหรับวัยที่กำลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ หรือช่วงอายุ 20 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ตกลงใจจะแต่งงานหรือมีลูก ถูกมองว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมจนกว่าจะอีก 10 ปีต่อมา

Gen Z ชอบทำงานที่บ้าน

สำหรับประเทศไทย มี Gen Z ราว 13 ล้านคน และเป็นกลุ่มที่กำลังเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดย Gen Z มักจะเปลี่ยนงานบ่อย ย้ายงานสูง ซึ่งอัตราการลาออกของพนักงาน Gen Z ขององค์กรในประเทศไทยจะอยู่ที่ประมาณ 12-15% ต่อปี และปัจจัยที่มีผลทำให้กลุ่มนี้เปลี่ยนงานบ่อย ได้แก่ ความต้องการรายได้ที่สูงขึ้น ไม่พอใจกับสวัสดิการ ต้องการความก้าวหน้าในสายงาน รวมถึงความคาดหวังที่จะได้ทำงานตรงตามทักษะและความสนใจของตัวเอง โดยเฉพาะพื้นฐานของการเป็น Digital Natives

จากงานวิจัย Milkround พบว่า 52% ของพนักงานโดยรวมประสบปัญหาการปรับใช้เทคโนโลยีสำหรับการทำงานที่บ้านในช่วงเริ่มต้นโควิด ขณะที่มีเพียง 31% ของ Gen Z เท่านั้นที่เผชิญปัญหาเดียวกันนี้ ซึ่งประสบการณ์ดังกล่าวทำให้พนักงานกว่า 69% ได้ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าพนักงาน Gen Z สามารถปรับตัวได้ดีกว่าตนเองในการทำงานที่บ้านร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และอีกกว่า 60% กล่าวว่าพนักงาน Gen Z มักจะคอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมงานในประเด็นด้านเทคโนโลยีเสมอ

ขณะที่จากการศึกษาจาก Deloitte ได้สรุปลักษณะการทำงานที่ชอบของคน Gen Z คือ การทำงานภายใต้ความยืดหยุ่น การมีอิสระแต่ไม่แตกแยก การเลือกที่จะทำงานรายบุคคลมากกว่าการทำงานเป็นทีม และการทำงานด้วยแนวทาง work-life balance ดังนั้น เพื่อให้องค์กรพร้อมที่จะเติบโตในระยะข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนภายใต้บริบทที่เปลี่ยนไป การเตรียมองค์กรให้พร้อมต่อการเข้าสู่ตลาดแรงงานของ Gen Z จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

You Might Also Like

ครบ 2 ทศวรรษของการเปลี่ยนแปลง บ้านปู x มหิดล ส่งเยาวชนลุยภารกิจ “ลดคาร์บอนให้โลกคูลล์” ใน Power Green Camp ครั้งที่ 20 

บ้านปู ชวนร่วมงาน “ดีค้าบ เฟสติวัล” ฉลอง 20 ปี Power Green Camp 2-3 พ.ค. นี้ ที่อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ

เปิดตัวโครงการ ‘THE INFLUENCER : FINANCIAL & INVESTMENT’ ครั้งแรกในไทย ยกระดับการเผยแพร่ข้อมูลการเงินการลงทุนผ่านอินฟลูเอนเซอร์คุณภาพ

ความจริงบนซากตึก สตง. ซ่อนเงื่อน “ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์เท็น” คุณภาพต่ำแต่รับงานภาครัฐอีกนับสิบ

TAGGED: generations, genZ, การเงิน

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin March 19, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article ส่องเทรนด์ลงทุนคอนโด-บ้านตากอากาศ เมืองท่องเที่ยว ร้อนแรงแข่งเปิดโครงการ ดันผลตอบแทนจูงใจ
Next Article CPHI South East Asia 2024 ผลักดันไทยสู่ความเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ Medical Hub และ ‘ทีแมน’ ร่วมเคลื่อนทัพผลิตภัณฑ์สู่เฮลท์แคร์แถวหน้าของไทย
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?