CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: VAT 7% คือ“ภาษี” ของใคร 
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Finance > VAT 7% คือ“ภาษี” ของใคร 
Finance

VAT 7% คือ“ภาษี” ของใคร 

CTD admin
Last updated: 2024/09/12 at 8:04 AM
CTD admin Published September 9, 2024
Share

VAT เป็นคำที่ทุกคนน่าจะเคยเห็นและได้ยินกันเป็นปกติ แต่กลับเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมไม่จบไม่สิ้น ทั้งในเรื่องที่ว่า “VAT เป็นภาษีไหม” “จริง ๆ แล้วใครต้องเป็นคนจ่าย” และ “ซื้อของไม่จ่าย VAT ได้ไหม” ลองมาสำรวจดูความหมายและกลไกของมันในระบบเศรษฐกิจกัน 

VAT ย่อมาจาก Value Added Tax หรือแปลไทยว่า ภาษีมูลค่าเพิ่ม นั่นหมายความว่าจริง ๆ แล้ว VAT คือ “ภาษี” โดยนิยามของมันอยู่แล้ว ซึ่งภาษีส่วนนี้จะถูกเก็บจากการซื้อขายสินค้าและบริการต่าง ๆ ทั้งภายในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ โดยมักบวกเพิ่มเข้าไปในราคาสินค้าและบริการส่วนใหญ่ (บางที่เก็บแยกต่างหาก) ในอัตรา 7% ของราคาสินค้าและบริการ 

ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มคือ ผู้ประกอบการที่ผลิต จำหน่ายสินค้าและบริการ ซึ่งมีรายรับเกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่เกินก็จดได้)  

ผู้ประกอบการจะต้องคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มรายเดือน ซึ่งมาจากการนำภาษีขายที่เรียกเก็บจากผู้บริโภค มาหักลบกับภาษีซื้อที่เสียให้กับซัปพลายเออร์ ซึ่งถ้าภาษีขายมากกว่าภาษีซื้อ ผู้ประกอบการต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ถ้าภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย ผู้ประกอบการสามารถขอคืนภาษีส่วนต่างหรือเก็บเป็นเครดิตเดือนถัดไปได้ 

ถึงแม้จะเป็นภาษีที่ผู้ประกอบการเป็นผู้ชำระต่อกรมสรรพากร แต่ผู้มีภาระในการจ่ายเงิน 7% ก้อนนี้จริง ๆ  คือ ผู้บริโภค จึงเรียกกันอีกอย่างว่าเป็น “ภาษี” ทางอ้อม ที่รัฐจะเก็บภาษีก้อนนี้กับประชาชนผ่านผู้ประกอบการอีกที และมันก็ไม่เชิงว่าผู้ประกอบการเขา “ผลักภาระ” มาให้ผู้บริโภค อย่างที่หลายคนพูดกัน และทำให้เข้าใจกันไปว่าผู้ประกอบการกำลังเอาเปรียบผู้บริโภค 

ลองคิดว่าถ้าผู้ประกอบการไม่คิดเพิ่ม หรือที่เรียกกันว่า “ผลัก” ให้ผู้บริโภคจ่าย VAT 7% นี้ มันก็จะต้องไปหักจากรายได้ของกิจการ คล้ายกับเป็นต้นทุน ซึ่งโดยปกติเวลาตั้งราคาขายก็จะต้องเผื่อให้ครอบคลุมต้นทุนทั้งหมดและได้กำไรตามที่ต้องการอยู่แล้ว สุดท้ายก็จะกลายเป็นราคาไม่ต่างจากบวก VAT เข้าไป 

ในบทความของกรมประชาสัมพันธ์ เขียนเอาไว้เลยว่า “ภาษีมูลค่าเพิ่ม Value Added Tax (VAT) คือภาษีอากรประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นในทุกการบริโภคที่รัฐบาลเรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าหรือบริการ” แสดงว่าเป้าหมายของภาษีคือผู้บริโภคเป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนผู้ประกอบการมีหน้าที่เพียงรวบรวมและนำส่งเท่านั้น ซึ่งก็สอดคล้องกันกับพระราชกฤษฎีกาลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่พิจารณา “เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน” แสดงการคำนึงถึงผลประโยชน์ของผู้ซื้อเป็นสำคัญ  

นั่นหมายความว่า VAT ก็คือภาษีของ “ผู้บริโภค” นี่แหละ แต่ถูกจัดเก็บโดย “ผู้ประกอบการ” 

นอกจากนี้ เรื่องที่ว่า “ซื้อของไม่เอา VAT ได้ไหม” ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย คำตอบสั้น ๆ คือ “ไม่ได้” ในกรณีที่ไม่อยากจ่าย VAT อาจมีตั้งแต่ผู้บริโภคทั่วไปที่ยังขาดความเข้าใจเรื่องภาษีและอยากได้ของถูก หรือจนถึงผู้ประกอบการด้วยกันที่อาจจะไม่ได้จด VAT บริษัทตัวเอง ก็เลยเอา VAT ซื้อไปหักลบเพื่อขอคืนไม่ได้ แต่อยากได้ต้นทุนถูกลง ซึ่งถ้าผู้ขายยอมขายให้แบบไม่คิด VAT ก็คำนวณภาษีและนำส่งเหมือนเดิมอยู่ดี เรียกง่าย ๆ ว่า “เข้าเนื้อ” หรือถ้าผู้ประกอบการไม่คิด VAT ให้ ไม่ยื่นด้วย ก็ปรับหนัก ๆ คุกเน้น ๆ เลยนะ 

เพาะฉะนั้น  VAT เลี่ยงไม่ได้ ทั้งคนขายคนซื้อเลย และจำเป็นที่จะต้องส่งมอบใบกำกับภาษีให้ผู้ซื้อเสมอ ไม่อย่างนั้นก็ทั้งปรับทั้งคุกอีกเช่นกัน  

สุดท้ายคือประเด็นที่หลายคนคงทราบดีอยู่แล้ว แต่จะขออธิบายเผื่อไว้ เพราะอาจมีคนสับสนอยู่ได้ นั่นคือ แม้ว่าคุณจะจ่าย VAT 7% มาทั้งชีวิต ซึ่งก็นับว่าเป็นภาษีที่จะถูกนำไปพัฒนาประเทศ แต่เมื่อคุณมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คุณก็ต้องยื่นแบบเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่ดี เพราะแม้ทั้งสองอย่างจะเป็นภาษี แต่เป็นภาษีคนละประเภทกัน จะเหมารวมว่าจ่าย VAT คือจ่ายภาษีตามหน้าที่แล้วไม่ได้  

You Might Also Like

ttb พัฒนาโซลูชันทางการเงินสำหรับผู้นำเข้าและผู้ส่งออกไทย รองรับความไม่แน่นอนของการค้าโลก

ความรู้คู่การลงทุนสร้างความเชื่อมั่นในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างไร?

สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์เดือนมกราคม 2568

เริ่มแล้วสำหรับโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68  

TAGGED: VAT, VAT 7%, ภาษี, ภาษีมูลค่าเพิ่ม

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin September 9, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article SME ไทย หันมายกระดับศักยภาพธุรกิจให้เติบโต แม้จะกำลังเผชิญแรงกดดันจากกำลังซื้อในประเทศที่เประบาง
Next Article จับจังหวะเลือกสะสมสินทรัพย์ก่อนเฟดลดดอกเบี้ย ทยอยลงทุน “หุ้นเทคโนโลยี – หุ้นไทย – บิทคอยน์”
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?