หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) เข้ารับตำแหน่งเป็นครั้งที่สอง หนึ่งในนโยบายที่สร้างผลกระทบมากที่สุดคือการขึ้นภาษีนำเข้าอเมริกาที่จะทำให้เกิดสงครามการค้า โดยทรัมป์บอกว่าการขึ้นกำแพงภาษีเป็นเรื่องจำเป็น “เพื่อปกป้องชาวอเมริกัน” แต่ในขณะเดียวกันนี่อาจทำให้สินค้าต่าง ๆ แพงขึ้นจนเกิดเป็นเงินเฟ้อหนักได้ โดยเฉพาะสินค้าหลายประเภทจากจากจีนที่จะโดนภาษีเพิ่ม 10% และ 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา
ผลวิเคราะห์จาก Budget Lab ที่มหาวิทยาลัย Yale ชี้ว่าน่าจะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ประชาชนอาจต้องจ่ายมากขึ้นเฉลี่ยครัวเรือนละ 1,170 ดอลลาร์ต่อปี เศรษฐกิจโตช้าลงและเงินเฟ้อจะรุนแรงขึ้น รวมทั้งความสัมพันธ์กับต่างประเทศด้วย
Daily.com ได้เผย 10 สินค้าที่อาจปรับราคาขึ้นราว 25% จากการขึ้นภาษีนำเข้าตามนโยบายของทรัมป์
รถยนต์และอะไหล่
นับสิบ ๆ ปี สหรัฐนำเข้าชิ้นและรถยนต์ผ่านซัปพลายเชนข้ามชาติจากทั้งเม็กซิโกและแคนาดา 1 ใน 5 ของรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กที่ขายในสหรัฐถูกประกอบในสองประเทศนี้
น้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิง
แคนาดานับเป็นแหล่งที่มาของน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เดือนมกราคม-พฤศจิกายนปี 2024 นำเข้าน้ำมันดิบจากแคนาดากว่า 9 หมื่นล้านดอลลาร์ และนำเข้าจากเม็กซิโกเป็นอันดับสอง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ TD Economics คาดการณ์ว่าการขึ้นภาษีอาจส่งผลให้ราคาเชื้อเพลิงในสหรัฐสูงขึ้น 30-70 เซนต์ต่อแกลลอน
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ปี 2023 สหรัฐนำเข้าเตกีล่ามูลค่ากว่า 4.6 พันล้านดอลลาร์ และ เหล้ากลั่นมูลค่า 108 ล้านดอลลาร์จากเม็กซิโก นำเข้าเหล้าจากแคนาดา 537 ล้านดอลลาร์ จากเดิมที่ตอนนี้สหรัฐกำลังเสี่ยงเผชิญกับภาษี 50% สำหรับวิสกี้อเมริกันจากสหภาพยุโรป ซึ่งมีกำหนดเริ่มต้นในเดือนมีนาคม การต้องเพิ่มภาษีจากแคนาดาและเม็กซิโกอีกอาจทำให้ตลาดน้ำเมาสหรัฐต้องมีการปรับตัว
ผัก&ผลไม้
สหรัฐนำเข้าสินค้าเกษตรจากเม็กซิโกมูลค่ากว่า 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2023 และจากแคนาดา 4 หมื่นล้านดอลลาร์ การเพิ่มภาษี 25 % จะส่งผลให้ค่าครองชีพของชาวอเมริกันสูงขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะอะโวคาโดที่นำเข้าจากเม็กซิโกเป็นหลัก
เครื่องมือช่าง
แม้สหรัฐจะดูเป็นประเทศที่คนเก่งงานช่างกันเยอะ แต่เครื่องมือหลายอย่างพวกเขาต้องนำเข้าจากต่างประเทศ คิดเป็น 60% ของความต้องการในประเทศ โดยนำเข้าจากจีนมากที่สุดกว่า 550 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 เครื่องมือบางชนิดอย่างค้อนปอนด์โดนเก็บภาษีสูง 25% อยู่แล้ว หากมีการขึ้นภาษีเพิ่มเติมอีก ร้านค้าปลีกและอุตสาหกรรมก่อสร้างอาจต้องเดือดร้อน
ของเล่น
ของเล่นนับล้านชิ้นที่ขายในสหรัฐทุกปี มีที่มาจากจีนมากที่สุด คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์ นั่นอาจส่งผลให้พ่อแม่ต้องจ่ายแพงขึ้นเพื่อของเล่นชิ้นโปรดของลูก ๆ หรือไม่ก็หาอย่างอื่นเล่นแทน
สมาร์ตโฟน
ที่ผ่านมาทั้งในสมัยแรกของทรัมป์และไบเดน สมาร์ตโฟนได้รับการยกเว้นภาษีเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่จำเป็นต้องใช้ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์ชั้นนำมากมายมาจากจีน แต่ในครั้งนี้ภาษี 10% จะรวมถึงสมาร์ตโฟนด้วย น่าจะส่งผลให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้