CTD - Connect the Dots
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Reading: บลจ.กรุงศรี คัด SSF/RMF/Thai ESG ตอบโจทย์แนวโน้มเศรษฐกิจ
Share
CTD - Connect the Dots
Aa
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
  • Contact
Search
  • Home
  • Business
  • People
  • Investment
  • Opinion
  • CIS
  • News
    • News
    • Sustainable
  • Contact
    • Contact
    • About Us
Follow US
Copyright © 2020 Creative Investment Space – All Rights Reserved
CTD - Connect the Dots > Blog > Economy > บลจ.กรุงศรี คัด SSF/RMF/Thai ESG ตอบโจทย์แนวโน้มเศรษฐกิจ
Economy

บลจ.กรุงศรี คัด SSF/RMF/Thai ESG ตอบโจทย์แนวโน้มเศรษฐกิจ

CTD admin
Last updated: 2024/12/12 at 9:57 AM
CTD admin Published December 12, 2024
Share

บลจ.กรุงศรี คัดสรร SSF/RMF/Thai ESG มาแนะนำ ครบทั้งกองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสมหลายสินทรัพย์ หุ้นไทย และกองทุนหุ้นสไตล์ defensive ซึ่งเหมาะกับการลงทุนยาว ตอบโจทย์ทุกสภาวะการลงทุนพร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

นางสุภาพร ลีนะบรรจง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด (บลจ.กรุงศรี) เปิดเผยว่า “ภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดย IMF ประเมินการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้าไว้ที่ประมาณ 3.2% และความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอยู่ในระดับต่ำ ส่วนปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อตลาดในช่วงนี้คือ ดอกเบี้ยนโยบายที่มีแนวโน้มลดลง และนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก”

สำหรับตลาดหุ้นโลก ยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนจากพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และ ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าในปีนี้ผลกำไรจะเติบโต 9% และในปีหน้าจะเติบโต 12% โดยการเติบโตนี้ไม่จำกัดเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี แต่กระจายไปยังหลายอุตสาหกรรม

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้ตอบรับในเชิงบวกจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการปรับลดภาษีนิติบุคคลจาก 21% สู่ 15% ซึ่งช่วยกระตุ้นการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน รวมถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบทางธุรกิจ

ในขณะที่การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศตลาดเกิดใหม่ เช่น จีน แคนาดา และเม็กซิโก อาจส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ยังคงเป็นขาลง โดยคาดว่า FED จะดำเนินการปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่อาจเป็นการปรับลดในอัตราที่ชะลอลง

เศรษฐกิจไทยในปีนี้ ธปท. คาดการณ์ว่าจะเติบโตที่ 2.7% และโต 2.9% ในปีหน้า โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือผลกระทบจากนโยบายของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่อาจส่งผลกดดันต่อภาคการส่งออกและการลงทุนในประเทศไทย เช่น นักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจน ขณะเดียวกันดอกเบี้ยนโยบายไทยมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอีก ส่งผลให้ผลตอบแทนจากพันธบัตรไทยลดลง ขณะที่ผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐในช่วงนี้กลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดกังวลว่านโยบายของนายทรัมป์จะก่อให้เกิดเงินเฟ้อ และจะส่งผลให้เฟดลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด ซึ่งเป็นทิศทางที่สวนทางกันอย่างชัดเจน โดยบลจ.กรุงศรี มองว่า ธปท. มีแนวโน้มที่จะปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 1-3 ครั้งภายในปีหน้า จนอยู่ในช่วง 1.50% – 2.00%

สำหรับการลงทุนระยะยาวในกองทุนลดหย่อนภาษี นอกจากการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว ควรให้ความสำคัญกับแนวโน้มการลงทุนระยะยาวและการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น ตราสารหนี้ กองทุนผสม และหุ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดและเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว พร้อมทั้งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

บลจ.กรุงศรี มีกองทุนลดหย่อนภาษีแนะนำที่ตอบโจทย์การลงทุน โดยกองทุนที่แนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเสี่ยงสูง ได้แก่ กองทุน KFAFIXSSF และ KFAFIXRMF ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางทั้งภาครัฐและหุ้นกู้เอกชนไทย ด้วยกลยุทธ์ Active Management ที่ยืดหยุ่นสูง มีการปรับพอร์ตให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ย เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้ระยะสั้นและชนะเงินเฟ้อ นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากดอกเบี้ยนโยบายในหลายประเทศทั่วโลกที่เข้าสู่ช่วงขาลงโดยเฉพาะในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งช่วยกระตุ้นการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าสู่ตลาดเกิดใหม่ รวมถึงกองทุน KFSINCRMF กับ KFSINCFXRMF ที่กระจายลงทุนตราสารหนี้ทั่วโลกผ่านกองทุนของ PIMCO ที่ใช้กลยุทธ์ Income Strategy ให้ความสำคัญกับความสม่ำเสมอของผลตอบแทน ผสมผสานการลงทุนระหว่างตราสารหนี้คุณภาพสูงและตราสารหนี้ที่ให้ผลตอบแทนสูง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีและยั่งยืน

หากรับความเสี่ยงได้สูงขึ้น กองทุนหุ้นไทยแบบ Passive Fund อย่างกองทุน KFS100SSF และ KFS100RMF ที่จะเติบโตไปตามดัชนีหุ้น SET100 และการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเงินทุนของกองทุนวายุภักษ์ ความชัดเจนทางการเมือง รวมถึงแนวโน้มการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ

หากใครต้องการกระจายการลงทุนไปยังหุ้นต่างประเทศขอแนะนำ กองทุน KFGBRANSSF และ KFGBRANRMF ที่ลงทุนในหุ้นแบรนด์สินค้าที่มี Brand Loyalty สูงจากฐานลูกค้าทั่วโลก มีเเนวโน้มของรายได้ที่สม่ำเสมอ เช่น กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มสุขภาพ และเทคโนโลยี ถือเป็นหุ้นสไตล์ defensive stock ที่ทนทานต่อความผันผวนได้ดีแม้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

กองทุนผสม เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว มีการปรับสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ ตามสถานการณ์ เช่น กลุ่ม KF1 SSF/RMF ที่เน้นลงทุนในประเทศเป็นหลัก และใช้มุมมองจากผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มกรุงศรี ในการจัดพอร์ตและปรับพอร์ตอย่างยืดหยุ่นตามสถานการณ์ตลาด โดยมี 3 คู่กองทุนให้เลือกตามเป้าหมายผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่รับได้ ได้แก่ KF1MILDSSF และ KF1MILDRMF เน้นลงทุนในตราสารหนี้เป็นหลัก มีความผันผวนต่ำ KF1MEANSSF และ KF1MEANRMF กระจายลงทุนในตราสารหนี้, หุ้น และสินทรัพย์ทางเลือกในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน KF1MAXSSF และ KF1MAXRMF เน้นลงทุนในหุ้นและสินทรัพย์ทางเลือกมากกว่าตราสารหนี้ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้น”

นอกจากนี้ยังมีกองทุน Thai ESG เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนที่ไม่ต้องการถือกองทุนนาน หรือผู้ที่ลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณจนเต็มวงเงินลดหย่อนภาษีแล้ว ก็สามารถพิจารณาลงทุนเพื่อใช้สิทธิ์ภาษีเพิ่มได้เนื่องจากกองทุน Thai ESG มีวงเงินลดหย่อนที่แยกออกมาต่างหากอีก 300,000 บาท ได้แก่ กองทุน KFGBTHAIESG เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน และกองทุน KFTHAIESG ที่ลงทุนในหุ้น ESG ในดัชนี SETESG ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ใช้กลยุทธ์ผสมผสานระหว่าง passive และ active management (โดยสัดส่วน90% ลงทุนตามดัชนี SETESG และ 10% ใช้กลยุทธ์เชิงรุก) มีให้เลือกลงทุนทั้ง KFTHAIESGD ที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล และ KFTHAIESGA ที่ไม่มีการจ่ายเงินปันผล

“บลจ.กรุงศรี เชื่อมั่นว่า SSF/RMF และ Thai ESG ที่แนะนำได้คัดสรรมาแล้วว่าเหมาะกับเป้าหมายการลงทุนระยะยาวของผู้ที่ไม่ได้ต้องการเพียงสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเดียว แต่ต้องการเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนด้วยการกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย มีศักยภาพการเติบโตของพอร์ตการลงทุนพร้อมบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะกับทุกช่วงเศรษฐกิจ” นางสุภาพร กล่าว

You Might Also Like

สงครามการค้า อเมริกาเมาหมัด คู่ชกซัดกลับ เศรษฐกิจ ฟื้น? หรือ ฟุบ?

ราคาทองพุ่งทยาน! ทองรูปพรรณ ขายออก 55,500 บาท

Bitcoin ช่วยป้องกันเงินเฟ้อได้ดี ท่ามกลางการจัดระเบียบโลก

ทองคำผันผวนจากศึกภาษี ‘YLG’ มองมีโอกาสแตะ 3,500 ดอลลาร์ หากเจรจาภาษีไม่สำเร็จ

TAGGED: RMF, SSF, Thai ESG, บลจ.กรุงศรี

Sign Up For Daily Newsletter

Be keep up! Get the latest breaking news delivered straight to your inbox.
By signing up, you agree to our Terms of Use and acknowledge the data practices in our Privacy Policy. You may unsubscribe at any time.
CTD admin December 12, 2024
Share this Article
Facebook Twitter Email Copy Link Print
Previous Article AXTRART กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
Next Article “Thailand Smart Money Bangkok 2024” ยกทัพสถาบันการเงิน จัดโปรฯ สุดคุ้ม เจาะลึกทุกเทรนด์การลงทุนส่งท้ายปี
CTD - Connect the Dots

Connect The dots ชุมชนสำหรับผู้ที่ชอบค้นหาโอกาสใหม่ พัฒนาตัวเองตลอดเวลา และเชื่อในโอกาสใหม่ๆ พื้นที่แลกเปลี่ยนความรู้ ไม่ว่าจะเป็นโลกธุรกิจ การลงทุน เทรนด์กระแส หรือ แม้กระทั่ง การเงินส่วนบุคคล ร่วมลากเส้น ต่อจุด เพื่อทุกความเป็นไปได้ไปกับเรา เพียงคุณเริ่มต้นที่จุดแรกไปกับเรา

Facebook Youtube Tiktok Spotify

แผนผังเว็บไซต์

Home
Business
People
News
Contact
Opinion
Investment
CIS
Sustainable
About Us

Copyright © 2024 Connect the Dots – All Rights Reserved

ข้อตกลงและเงื่อนไข

คำเตือนความเสี่ยงฉบับเต็ม

Removed from reading list

Undo
Welcome Back!

Sign in to your account

Lost your password?