บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินหุ้นไทยลง เนื่องจากแรงกดดันของหุ้น DELTA หลังประกาศงบออกมาผิดคาด พร้อมติดตามการรายงานผลการดำเนินของบริษัทจดทะเบียนรายอื่นต่อ จึงให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,220-1,290 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นเข้า-ออก ดัชนี MSCI Rebalance
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทย SET มีโอกาสปรับตัวลง จากแรงกดดันของหุ้น DELTA หลังประกาศงบออกมาต่ำกว่าตลาดคาด ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด
ล่าสุด ตลท. สรุปมูลค่าซื้อขายหลักทรัพย์สะสมตามกลุ่ม นักลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-14 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่าสถาบันในประเทศขายสุทธิ 9,350.06 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 662.53 ล้านบาท นักลงทุน ต่างประเทศขายสุทธิ 9,947.33 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 18,634.86 ล้านบาท จึงให้กรอบดัชนีระหว่าง 1,220-1,290 จุด
สำหรับปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนที่จับตาในประเทศ อาทิ สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม, ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์, วันที่ 26 ก.พ. กำหนดประชุม กนง. ครั้งที่ 1/2568, วันที่ 28 ก.พ. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
สัปดาห์ที่ 4 กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, สศอ. แถลงดัชนีอุตสาหกรรม, สศค. รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ส่วนสถานการณ์ต่างประเทศที่น่าจับตา ได้แก่ วันนี้ 19 ก.พ. ญี่ปุ่น รายงานยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือน ม.ค. รวมถึงยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือน ธ.ค. ,จีน รายงานดัชนีราคาบ้านเดือน ม.ค. , สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือน ม.ค.
เช้าวันที่ 20 ก.พ. เฟดเผยรายงานการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค., วันที่ 20 ก.พ. จีน รายงานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีและ 5 ปี, สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตเดือน ก.พ. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือน ม.ค.
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจของภาครัฐ เช่น หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ Easy-E receipt ได้แก่ CRC, COM7, ERW, CENTEL, MINT, M, AU, TNP, SIS, SYNEX, IP และ HL
รวมทั้งหุ้นที่เข้า-ออก ดัชนี MSCI Rebalance โดย MSCI Global Standard : ไม่มีหุ้นเข้า แต่มีหุ้นออก ได้แก่ PTTGC, TOP ส่วน MSCI Global Small Cap : หุ้นเข้า ได้แก่ GPSC, PTTGC, SCGP, TOP และหุ้นออก ได้แก่ BSRC, DCC, ERW, GFPT, KAMART, PSG, PSH, SAPPE, STECON, THG, TIPH (ใช้ราคาปิด 28 ก.พ.)
ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมินราคาทองคำปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในปี 68 อยู่ที่ 10%YTD
ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นให้ผลตอบแทนเพียง 4%YTD โดยทองคำยังได้แรงหนุนจากความกังวลสงครามการค้าที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากทุกประเทศ อีกทั้งได้ลงนามมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) คาดมีผลบังคบใช้เดือน เม.ย.
อย่างไรก็ตามสหรัฐเผยตัวเลขเงินเฟ้อ CPI และ PPI ปรับตัวขึ้นสูงกว่าคาด ประกอบกับประธานเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเดือน ก.ย. จากเดิมคาดว่าจะปรับลดในเดือน ก.ค. เป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด มองกรอบทองคำสัปดาห์นี้ 2,880 – 2,950 $/Oz ทยอยขายทำกำไรที่แนวต้าน